หลังจากชื่อของ 'โชคดีติ่มซำ' ห่างหายไปจากวงการมาพักใหญ่ วันนี้กลับมาแล้ว กับการเปลี่ยนมือเจ้าของภายใต้ร่มเงาบริษัท ริช เรสเตอรองค์ จำกัด พร้อมผงาดสาขากว่า 100 แห่งทั่วไทย ชูธงรบบุกปั๊มน้ำมันแบรนด์ยักษ์สร้างชื่ออีกครั้ง ภายใต้มาตรฐานบริหารจัดการแบบเป็นระบบ แต่ยังคงรสชาติฉบับดั้งเดิมไม่เสื่อมคลาย
เมื่อร้านติ่มซำในตำนานอย่าง “โชคดีติ่มซำ” เข้ามาโลดแล่นในวงการอาหารอีกครั้ง ทุกอย่างต้องไม่ธรรมดา เริ่มจากการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหม่ “จิรศักดิ์ จิยะจันทน์” ประธานบริหาร บมจ. เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น โดยมอบหมายให้ “ดร.กฤษดา ตันเปาว์” ขึ้นแท่นเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เรสเตอรองต์ จำกัด บริษัทจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อบริหารจัดการธุรกิจ 'โชคดีติ่มซำ' และ 'โคขุนโพนยางคำ' โดยเฉพาะ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2543 โชคดีติ่มซำได้ถูกก่อตั้งโดย “ธีรภพ ศิรประภาธรรม” ผู้บุกเบิกร้านติ่มซำนั่งรับประทานในร้าน พร้อมสร้างจุดขายติ่มซำแบบ “นึ่งสด” เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้วิถีคนกรุงเปลี่ยนไปกับแบรนด์โชคดีติ่มซำที่เติบโตอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นปัญหาเริ่มเกิดขึ้น บางร้านที่เปิดตัวในรูปแบบแฟรนไชส์มีอัตราการเปิด-ปิด อยู่ตลอดเวลาโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
เหตุการณ์เหล่านี้ได้อยู่ในสายตาของประธานบริหาร บมจ. เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น มาโดยตลอด จึงคิดช่วยหาทางแก้ไข สุดท้ายลงตัวที่การซื้อธุรกิจจากผู้ก่อตั้งมาบริหารจัดการเอง ด้วยเล็งเห็นเสน่ห์ของธุรกิจนี้ และโอกาสในการเติบโต โดยเฉพาะ 'แบรนด์' มีความแข็งแกร่งเป็นที่รู้จักของคนไทยจำนวนมาก
ปี 2558 โชคดีติ่มซำได้อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ บมจ. เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น โดยสมบูรณ์ และมอบหมายให้ ดร.กฤษฎา เป็นผู้บริหารธุรกิจหลัก จากความได้เปรียบที่เขาเคยเป็นแฟรนไชซีของโชคดีติ่มซำมาก่อน ทำให้รู้ถึงปัญหา จุดแข็ง-จุดอ่อน ของธุรกิจนี้เป็นอย่างดี และอีกบทบาทหนึ่งของเขา คือ การเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เน้นทำงานวิจัยธุรกิจให้บริษัทยักษ์ใหญ่มามากมาย
ภารกิจแรกคือ การสร้างความสมดุลระหว่างต้นทุนกับรายรับของแฟรนไชซี ที่ถือเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน ทำให้จำนวนสาขาของโชคดีติ่มซำไม่เพิ่ม พร้อมเน้นการทำงานเป็นทีม จัดระบบบริหารจัดการใหม่ พัฒนาครัวกลางให้ได้มาตรฐาน พร้อมส่งวัตถุดิบที่สดใหม่ได้ทันท่วงที เพิ่มความหลากหลายให้เมนู และมีการเก็บสถิติเมนูที่ขายดีในแต่ละสาขาเพื่อลดสต๊อกสินค้าที่จำหน่ายในจำนวนน้อย
เมื่อปรับระบบการบริหารจัดการในทิศทางที่ตั้งไว้ได้ระดับหนึ่ง ทาง 'โชคดีติ่มซำ' เตรียมโปรเจกต์ใหญ่ กับแผนขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ รวม 100 สาขา และในเดือนพฤษภาคม 59 จะเปิด 3 สาขา ย่านสุขุมวิท 23, จ.ราชบุรี และ จ.เชียงใหม่ โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 59 จะมี 20 สาขา (ไม่รวมปั๊ม ปตท.)
สำหรับแนวคิดในการขยายธุรกิจที่สถานีบริการน้ำมันนั้น ดร.กฤษฎาบอกว่าเป็นแผนงานที่คิดมาระยะหนึ่ง และมีการเจรจาธุรกิจไปแล้ว เป็นการลงทุนในลักษณะภัตตาคารติ่มซำเต็มรูปแบบ เน้นทำเลร้านต้องตั้งอยู่ระหว่างร้านสะดวกซื้อกับห้องน้ำ เพราะเป็นทำเลทองที่ลูกค้าจะต้องแวะผ่านเสมอ ล่าสุดเตรียมนำร่อง 2 สาขา ที่ ถ.บางนา-ตราด และย่าน ถ.พระราม 2 จะมีการปรับรูปแบบให้บริการตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นลูกเล่นสไตล์ Fast Moving Restaurant เสิร์ฟทั้งติ่มซำ และอาหารจานเดียว
“ช่วงแรกสาขาโชคดีติ่มซำในปั๊ม ปตท.บริษัทแม่จะเป็นผู้ลงทุนเองก่อน จากนั้นจะเปิดขายแฟรนไชส์ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ขนาดพื้นที่เล็ก ค่าแฟรนไชส์ประมาณ 3 แสนบาท แต่ถ้าเป็นร้านเต็มรูปแบบอยู่ที่ 6.5 แสนบาท และมีค่าตกแต่งร้านอยู่ประมาณ 1-2.5 ล้านบาท”
ขณะที่ธุรกิจโคขุนโพนยางคำ ก็มีแผนขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมันเช่นกัน ซึ่งทาง ปตท.มีการติดต่อข้ามา แต่ยังติดปัญหาเรื่องระบบการปิ้งย่าง ที่ต้องมีเรื่องแก๊ส และไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงต้องพับโครงการไว้ก่อน กลับไปคิดหาวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวให้ตกผลึก
อย่างไรก็ตาม การเทกโอเวอร์กิจการจากผู้ก่อตั้งถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับแนวคิดจากประเทศฝั่งตะวันตก ภายใต้แนวคิดที่ว่า 'ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จีรัง ต้องเปลี่ยนไปตามพลวัต' ขึ้นอยู่กับเมื่อเปลี่ยนมือผู้บริหารแล้วจะสามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตกว่าเดิมได้หรือไม่ ดังนั้นงานวิจัยจึงเข้ามามีบทบาท และกลายเป็นความท้าทายของ ดร.กฤษฎา ผู้คร่ำหวอดในแวดวงงานวิจัยมาก่อน
คงต้องจับตาดูกันต่อไปกับ 'โชคดีติ่มซำ' หลังการผลัดใบเข้าสู่ห้วงสงครามการแข่งขัน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *