กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เผยถึงการเข้าตรวจค้นการติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2559 สามารถดำเนินคดีต่อองค์กรธุรกิจมากกว่า 59 แห่ง พบคอมพิวเตอร์มากกว่า 600 เครื่อง ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ คิดเป็นมูลค่ากว่า 97 ล้านบาท ในจำนวนองค์กรธุรกิจที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดตั้งแต่ดำเนินคดีมา
พ.ต.อ.ดร.กิตติศักดิ์ ปลาทอง รองผู้บังคับการ บก.ปอศ. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ทางเจ้าหน้าตำรวจ บก.ปอศ.ได้เข้าตรวจค้นบริษัทผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์มือถือยี่ห้อดัง พบว่าใช้ซอฟต์แวร์ที่เข้าข่ายไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิและผิดกฎหมายบนคอมพิวเตอร์ 98 เครื่อง ในแผนกการเงินและแผนกบุคคล ทำให้ข้อมูลสำคัญมีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม บริษัทดังกล่าวมีชาวไทยและชาวจีนเป็นผู้ถือหุ้น ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ทาง บก.ปอศ.ยังได้เข้าตรวจค้นโรงงานผู้ผลิตขวดแก้วสำหรับบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและยารักษาโรคในจังหวัดฉะเชิงเทรา พบซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิติดตั้งและใช้งานอยู่บนคอมพิวเตอร์จำนวน 52 เครื่อง มูลค่าการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั้งสองแห่งรวมกันมากกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ให้หมดไป ทาง บก.ปอศ.จึงเพิ่มความพยายามมากยิ่งขึ้นในการให้ความรู้และเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย ซึ่งองค์กรธุรกิจจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์หรือถูกคุกคามทางไซเบอร์ บ่อยครั้งที่พบว่าใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
“บริษัทที่มีการรายงานว่าตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์มักพบว่าใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นจริงๆ ที่บริษัทจะต้องมีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์อย่างระมัดระวังด้วยวิธีการที่ถูกต้อง”
โดยองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิถือว่าขาดความรับผิดชอบอย่างมาก เพราะเท่ากับว่ากำลังทำให้ข้อมูลสำคัญของคู่ค้าและพนักงานมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ผู้บริหารระดับสูงจะต้องเข้ามาดูแลควบคุมการใช้งานสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ และต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่ถูกกฎหมายและมีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเท่านั้น”
ปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้รายงานการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการรณรงค์ ‘Safe Software, Safe Nation’ และทำให้ประเทศไทยของเรามีความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์มากยิ่งขึ้น ท่านสามารถแจ้งเบาะแสการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านสายด่วนที่ 0-2714-1010 หรือรายงานผ่าน www.stop.in.th
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *