xs
xsm
sm
md
lg

“ทุเรียนผงพร้อมชงดื่ม”คว้าสุดยอดนวัตกรรม 'สมคิด'ชี้ยกระดับเกษตร คือ อนาคต ศก.ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ซีพี ออลล์” ประกาศรางวัลสุดยอดนวัตกรรมฯ ทุเรียนผงสำเร็จรูปพร้อมชง แบรนด์ ORTA คว้าชนะเลิศ ด้าน “สมคิด” ชี้อนาคตของเศรษฐกิจไทย อยู่ที่การสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะภาคเกษตร ยกระดับเพิ่มมูลค่า เลิกพึ่งส่งออกแค่วัตถุดิบ สร้างเศรษฐกิจจากระดับชุมชน
นายวิรวัฒน์ เปี่ยมวิวัฒน์ติกุล บริษัท พรทิพย์ พรีเมี่ยม จำกัด   เจ้าของผลิตภัณฑ์ ทุเรียนผงสำเร็จรูปพร้อมชง แบรนด์ ORTA รับรางวัลชนะเลิศจากรองนายกฯ
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จัดงาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” พร้อมประกาศผลและมอบรางวัล “สุดยอดนวัตกรรมเซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2016” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้มีผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 54 ผลงาน และมีผลงานที่ผ่านการตัดสินให้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 23 ผลงาน แบ่งเป็นผลงานนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ จำนวน 12 ผลงานและผลงานนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านสังคม จำนวน 11 ผลงาน

สำหรับรางวัลชนะเลิศ ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ทุเรียนผงสำเร็จรูปพร้อมชง แบรนด์ ORTA จาก บริษัท พรทิพย์ พรีเมี่ยม จำกัด ส่วนรางวัลชนะเลิศ ด้านสังคม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวาน แบรนด์ กรีนสวีท จาก บริษัท กรีนฟู้ดส์ จำกัด และข้าวกล้องกรอบ แบรนด์ iRice จากห้างหุ้นส่วนจำกัด ข้าวสร้างสุข
ได้แก่ ทุเรียนผงสำเร็จรูปพร้อมชง แบรนด์ ORTA
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบรางวัลดังกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจมาจากภาคการเกษตร แต่ที่ผ่านมา เราขายแต่วัตถุดิบ อย่างข้าวและยางพารา ซึ่งนับวันการแข่งขันจะยากขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลที่ผ่านมา ก็มักเอาเงินไปใส่มือชาวบ้านทำราคาสวนกระแสตลาด สร้างGDP หลอก จนเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ นำสินค้าเกษตรของเราไปแปรรูปเพิ่มมูลค่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่เห็นแล้วน่าสะเทือนใจ

“ผมใช้เวลากว่า 30 ปีตั้งแต่อายุ 27-28 ปี จนตอนนี้ 63 ปี ในการพูดถึงเรื่องนวัตกรรม เพราะเห็นถึงอนาคตของประเทศไทย ต้องเกิดจากการสร้างนวัตกรรม และสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมืออย่างจริงจังของทุกฝ่าย ซึ่งทุกวันนี้ เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว แต่ยังเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น แต่เราก็ต้องผลักดันต่อไปให้มากยิ่งขึ้น” รองนายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันเศรษฐกิจของโลกชะลอตัวอย่างชัดเจน การส่งออกของไทยลดลงมากกว่าที่คาด ส่งออก ม.ค. –8% และแม้จะเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว อย่างจีนส่งออก ม.ค. –2% สิงคโปร์ ส่งออก ม.ค. –15% เกาหลีใต้ ส่งออก ม.ค. –18% เป็นต้น จะเห็นว่าการส่งออกของไทยลดน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ประเทศเวียดนาม ด้านส่งออกกลับไม่กระทบ เพราะเขาปรับตัว หันไปทำอุตสาหกรรมที่แตกต่าง ด้านเทเลคอม ทำให้ภาคส่งออกยังเติบโตได้ดี

ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขการส่งออกจะลดลง สิ่งสำคัญ เราต้องรับมือด้วยความไม่ประมาท มีสติ แต่ไม่ใช่กลัวจนลนลาน และพิจารณาว่าในภาวะเช่นนี้ จะประคองเศรษฐกิจให้ไม่ลำบากจนเกินไปได้อย่างไร โดยสาขาอุตสาหกรรมใดที่ลำบากหนัก ทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่จะไม่ใช่การช่วยที่ผิดวิธี จนก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบรางวัล
รองนายกฯ เผยต่อว่า รัฐบาลชุดนี้พยายามปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา สินค้าเกษตรของเราขาดความโดดเด่น เน้นแต่ขายวัตถุดิบ ชัดเจนคือ ข้าว และยางพารา เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การส่งออกลดลง เราจึงได้รับผลกระทบอย่างมาก ดังนั้น กุญแจสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจเราแข็งแรง คือ ต้องสร้างภาคเกษตรให้เกิดมูลค่าสูงที่สุด ด้วยการยกระดับสินค้า ซึ่งผู้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ซึ่งนำร่องเป็นนักรบเศรษฐกิจรุ่นใหม่ของไทย

“ตอนนี้ รัฐบาลจะเดิน 2 ขาควบคู่กัน โดยขาด้านแรก เราจะส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อประเทศ ตามอุตสาหกรรมเป้าหมายมีสิทธิ์ประโยชน์บีโอไอให้ ส่วนอีกขา เราจะปรับภาคเกษตรให้มีฐานรากที่แข็งแรง เอาความคิดประชารัฐไปสู่ชุมชน สร้างเศรษฐกิจระดับฐานราก มีนวัตกรรมของตัวเอง ลองคิดอยู่ถ้าเราทำได้อย่างนี้ เศรษฐกิจที่เกิดจากระดับชุมชนจะสร้างGDP ให้ประเทศเราได้มากเพียงใด”

สำหรับงาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” และมอบรางวัล “สุดยอดนวัตกรรมเซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2016” จัดโดย ซีพี ออลล์ ร่วมกับ 10 องค์กรระดับประเทศ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (mai), สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สมาคมหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ไทย(Thai-BISPA), หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

โดยได้เปิดรับสมัครและคัดเลือกสินค้าและบริการของเอสเอ็มอีที่มีการพัฒนาองค์ความรู้ และคิดค้นนวัตกรรม ทำให้เกิดการต่อยอดหรือสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ก่อให้เกิดคุณค่าและมูลค่าที่สูงขึ้น ซึ่งซีพี ออลล์ มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ที่มีนวัตกรรม โดยเปิดโอกาสให้สินค้าและบริการที่ร่วมโครงการ ได้ทดสอบตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคจริงผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายของเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ซึ่งยังรวมไปถึงช่องทางใหม่ๆ ในเครือข่ายความร่วมมือ เช่น Makro , Rimping Supermarket เป็นต้น ทั้งยังเป็นการยกย่องเชิดชูผู้ประกอบการ SMEs ไทย และนักวิจัยที่มีผลงานและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ในเชิงนวัตกรรม ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงาน ความรู้ และประสบการณ์ระหว่างกันได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศในด้านนวัตกรรมให้สูงขึ้นได้

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น