“วิชุดา สมรักษ์” เจ้าของชื่อเล่น “ผักกาด” เริ่มขายขนม “เต้าหู้นมสด” ตั้งแต่เรียนหนังสือชั้นมัธยม และหลังเรียนจบ ยึดอาชีพนี้มาต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาสูตรแปลกใหม่ นำ “เฉาก๊วยโบราณ” มาผสมผสาน โรยหน้าด้วย “ท็อปปิ้ง” นานาชนิด กลายเป็นขนมหวานสุดฮิต ถูกใจลูกค้าตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่
นี่เป็นต้นแบบเส้นทางอาชีพของคนสู้ชีวิต จากหารายได้เสริมเล็กๆ จนก้าวสู่ธุรกิจที่สร้างฐานะให้เธอกับครอบครัวอย่างน่าพึงพอใจ และพร้อมเติบโตต่อไปได้ในอนาคต ภายใต้แบรนด์ “นินจา”
ผักกาด เล่าว่า ในวัยเด็ก ซึ่งอยู่ที่ จ.เพชรบุรี พยายามหาทางแบ่งเบาภาระครอบครัว โดยหารายได้เสริมเพื่อจะมาเป็นทุนการศึกษาให้ตัวเอง ในช่วงมัธยมปลาย จึงไปเรียนรู้วิธีการทำ “เต้าหู้นมสด” สูตรโบราณของเมืองเพชรบุรี จากคุณอา ซึ่งทำขายอยู่แล้ว หลังจากนั้น ทดลองทำใส่ถุงพลาสติก หิ้วไปขายที่โรงเรียนให้แก่เพื่อนนักเรียน คุณครู ตลอดจนผู้ปกครอง ซึ่งได้รับความเมตตาจากทุกคนอย่างดี มีรายได้เฉลี่ยกว่าวันละ 500 บาท ในเวลานั้น ถือเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเธอแล้ว ช่วยให้มีรายได้ส่งเสียตัวเองจนจบระดับมัธยมปลาย
หลังจากย้ายเข้ามาเรียนระดับมหาวิทยาลัย ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง เธอยังยึดอาชีพนี้ต่อเนื่อง ด้วยการใช้พื้นที่เล็กๆ ใต้หอที่พักอาศัยอยู่ ตั้งโต๊ะขายเต้าหู้นมสดสูตรเพชรบุรีเช่นเดิม ซึ่งได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ อย่างดี รายได้เพิ่มเป็นหลักพันบาทต่อวัน ขายดีถึงขนาด จากเดิมทำเองคนเดียวทุกอย่าง ต้องจ้างเพื่อนร่วมชั้นมาเป็นพนักงานขาย โดยให้ค่าจ้าง 25 บาทต่อชั่วโมง นับเป็นเถ้าแก่รายจิ๋ว ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นวัยเรียนทีเดียว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีรายได้หลักพันบาทต่อวันแล้ว เธอบอกว่า ตอนนั้นยังไม่ได้คิดถึงขั้นจะยึดเป็นอาชีพอย่างจริงจังแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ต้องการหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้ตัวเอง ไม่ต้องรบกวนทางบ้านเท่านั้น
และด้วยความเป็นคนขยันทำมาหากิน และช่างคิดช่างทำ สาวผักกาด เลยหาความรู้วิธีทำ “เฉาก๊วยโบราณ” เพื่อจะนำมาผสมผสานกับ “เต้าหู้นมสด” พร้อมโรยหน้าด้วยท็อปปิ้งต่างๆ เพิ่มสีสันและความน่าสนใจ เพราะคิดว่า น่าจะเหมาะกับลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงาน
“10 กว่าปีที่แล้ว ‘เต้าหู้เฉาก๊วยนมสด’ ถือเป็นเมนูแปลกใหม่ ลักษณะหอมหวานเย็นชุ่มฉ่ำชื่นใจเหมาะกินดับอากาศร้อนของประเทศไทย ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก จากลูกค้าแค่เพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัย ขยายไปสู่คนในพื้นที่แถบนั้น และเกิดการบอกต่ออย่างกว้างขวาง” เธอเล่า
ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น สามารถขยับขยายเปิดร้านของตัวเองว่า “กันปัน” สื่อความหมายว่า เป็นขนมหวานที่อร่อยจนต้องแบ่งปันกัน
และเมื่อรายได้ที่เข้ามาสูงจนน่าพึงพอใจ หลังเรียนจบ เธอเลือกที่จะต่อยอดจากอาชีพเสริมสู่ธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดร้านและสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง ในชื่อ “นินจา” ซึ่งมีที่มาจากเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งมักเปรียบว่าเธอมีบุคลิกคล่องแคล่วว่องไว และเก่งกล้าหาญ เหมือนกับ “นินจา”
วิชุดา เล่าต่อว่า เพื่อจะต่อยอดให้ร้านเต้าหู้เฉาก๊วยนมสด “นินจา” จึงหาความรู้เพิ่มเติมด้วยการเข้าโครงการอบรมความรู้ต่างๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจะพัฒนาให้เป็นธุรกิจที่เติบโตและแข็งแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อยนั้น ผักกาดระบุว่า สิ่งสำคัญใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และทำเองสดใหม่ทุกวัน โดยมีส่วนผสมสำคัญ จะใส่ “น้ำตาลโตนด” และ “น้ำตาลทรายแดง” ซึ่งจะมีความหวานหอมมากกว่าใช้น้ำตาลทราย ทั้งหมดส่งตรงมาจาก จ.เพชรบุรี ส่วนหน้าท็อปปิ้งต่างๆ ที่เป็นประเภทของหวานเชื่อมก็ลงมือทำเองทั้งหมด
“จุดเด่นของเรา คือ ความหลากหลาย ส่วนใหญ่เจ้าอื่นจะมีเฉพาะเต้าหู้นมสด หรือเฉาก๊วยนมสดเท่านั้น แต่ของเรา นำทั้งสองอย่างมาผสมกัน ยิ่งมีการใส่เครื่องท็อปปิ้งต่างๆ ลงในขนมหวานแบบโบราณทำให้เพิ่มความสนใจ เป็นขนมหวานที่วาไรตี้ ช่วยให้ได้กลุ่มลูกค้าที่กว้าง มีตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน จนถึงผู้ใหญ่” วิชุดากล่าว
จากเคยหิ้วใส่ถุงไปขายที่โรงเรียนตอนเรียนชั้นมัธยม ปัจจุบัน ร้าน “นินจา เต้าหู้เฉาก๊วยนมสด” มีด้วยกันถึง 3 สาขา ได้แก่ บริเวณสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ศูนย์อาหาร OTB การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในเอฟบีที ฟิตเนส ย่านลาดกระบัง นอกจากนั้น ยังออกงานแฟร์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เฉลี่ยเดือนละ 3 แห่ง มีรายได้ถึงหลักแสนบาทต่อเดือน
เมนูหลัก ประกอบด้วย เต้าหู้นมสด ถ้วยละ 30 บาท , เต้าหู้นมสด (ใส่เครื่อง 3 ชนิด) ถ้วยละ 35 บาท , เฉาก๊วยนมสด ถ้วยละ 30-35 บาท (แล้วแต่ขนาดและเครื่องที่ใส่) และเต้าหู้เฉาก๊วยนมสด 35-50 บาท (แล้วแต่ขนาดและเครื่องที่ใส่) ส่วนหน้าท็อปปิ้งมีให้เลือกถึง 15 ชนิด เช่น วุ้น ฟรุ๊ตสลัด ผลไม้เชื่อม เป็นต้น
เธอเผยว่า ทุกวันนี้ ได้รับการติดต่อซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก ทำให้สนใจที่จะขยายธุรกิจลักษณะนี้เช่นกัน จึงได้เข้าโครงการอบรมธุรกิจแฟรนไชส์กับกระทรวงพาณิชย์ ในอนาคตเมื่อมีความพร้อมแล้ว ค่อยเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนต่อไป นอกจากนั้น ยังได้รับการติดต่อให้นำร้านเปิดในห้างสรรพสินค้าอีกหลายแห่ง ซึ่งเจรจาใกล้จะสำเร็จแล้ว คาดว่าประมาณกลางปีนี้ (2559) จะเริ่มทยอยเปิดได้
ในส่วนของปัญหาของการประกอบอาชีพนี้ เธอบอกว่า ที่น่าหนักใจที่สุด คือเรื่อง “คน” ต้องบริหารจัดการให้พนักงานตั้งใจทำงาน และมีความรับผิดชอบอย่างสูง ส่วนอีกด้าน ปัจจุบัน มีคู่แข่งเกิดใหม่ที่ขายเมนูใกล้เคียงกันจำนวนมาก บางรายถึงขนาดลอกเลียนใช้แบรนด์เดียวกันเลยโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากทำสินค้าที่คุณภาพดี มีชื่อเสียงที่ลูกค้าไว้ใจ ประกอบกับเมนูชนิดนี้ เป็นขนมหวานที่กินแล้วสดชื่นเหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทย อีกทั้ง ราคาไม่สูง เชื่อว่า ยังสามารถทำอาชีพนี้ต่อไปได้ต่อเนื่อง
นี่เป็นอีกตัวอย่างของคนทำมาหากิน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี จากเด็กสาวมัธยมหารายได้เสริมเป็นทุนการศึกษา ทุกวันนี้ เติบโตเป็นธุรกิจขนาดย่อมที่สร้างความมั่นคงให้แก่ตัวเองและครอบครัวสำเร็จ
ติดต่อ โทร.085-824-4880 หรือ FB: ninjabygunpun
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *