xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็กซา ซีแลม” เจ้าพ่อโคลนนิ่งฟันปลอม ฝีมือชาวเชียงใหม่ส่งออกทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด
ฝีมืออันเลื่องชื่อด้านงานหัตถกรรมของชาวเชียงใหม่ถือว่าไม่เป็นรองใคร สินค้าทำมือมากมายกลายเป็นที่ประจักษ์ และล่าสุดก้าวล้ำไปถึง “การทำฟันปลอม” ส่งออกไปทั่วโลก ทันตแพทย์ให้ความไว้วางใจ พร้อมเป็นผู้นำอาเซียนชูความต่างความประณีต และเทคโนโลยีสุดล้ำ ภายใต้บริษัทที่รู้จักดีในนาม 'เอ็กซา ซีแลม' (Hexa Ceram) ศูนย์กลางการผลิตฟันปลอม

ใครจะคิดว่า 'ฟันปลอม' ส่วนใหญ่จะถูกผลิตขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ จากคนไทยเรานี่เอง แถมยังส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย โดยมี “นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด เป็นผู้กุมบังเหียน
ฟันปลอม งานที่ต้องใช้ฝีมือ
เขาไต่เต้ามาจากนักกฎหมายในประเทศฝรั่งเศส ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับธุรกิจที่ทำอยู่ปัจจุบัน แต่ด้วยหน้าที่ต้องให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออกในต่างแดนเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการส่งออกสินค้ามายังประเทศไทย กระทั่งมีลูกค้ารายหนึ่งสอบถามเกี่ยวกับการลงทุนทำฟันปลอมในไทย เพื่อส่งออกไปยังฝรั่งเศสว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
ขึ้นรูปตามแบบ
จากจุดนั้นเองทำให้เขาเริ่มสนใจการทำธุรกิจ จึงขอร่วมลงทุนด้วย แต่ธุรกิจก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากลูกค้าชาวฝรั่งเศสมีจำนวนน้อย ออเดอร์จึงไม่มากนัก ทำให้เขาเริ่มมองตลาดในไทย โดยเลือก จ.เชียงใหม่เป็นแหล่งผลิตมาตั้งแต่ปี 2538 จากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งไม่แพ้กรุงเทพฯ คู่แข่งน้อย ประกอบกับ จ.เชียงใหม่ขึ้นชื่อในเรื่องของความถนัดและความประณีตด้านงานฝีมือ รวมถึงยังมีสนามบินระดับนานาชาติ (International Airport) จึงได้เปรียบในเรื่องการขนส่งไปต่างประเทศ

ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ กลายเป็นอุตสาหกรรมการผลิตฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทางทันตกรรม และโรงพยาบาล แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ฟันปลอมแบบติดแน่นประมาณ 23 ชนิด ฟันปลอมถอดได้งานโลหะ 5 ชนิด และฟันปลอมถอดได้งานพลาสติก 28 ชนิด โดยสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 40% ไปยังประเทศแถบยุโรป และอาเซียน ขณะที่คู่แข่งสำคัญ คือ ประเทศจีน ที่สามารถทำฟันปลอมได้ราคาถูกกว่าไทยประมาณ 20% ส่วนการทำตลาดในไทย
สุดล้ำ สแกนรูปแบบฟันของผู้ป่วยจากต่างประเทศ เพื่อนำมาทำเป็นฟันปลอม
ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เอ็กซาฯ ได้รับการยอมรับจากคลินิกทันตกรรม และบริษัทผลิตงานแล็บ (LAB) ทั้งในและต่างประเทศในเรื่องคุณภาพสินค้า และการได้รับรองมาตรฐานการจัดการ ISO 9001:2008 และสิ่งแวดล้อม 14000:2004, CSR, รางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น ด้านการปฏิบัติต่อผู้บริโภคประจำปี 2554 และองค์กรต้นแบบ Happy Work Place จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาช่วยเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการผลิตและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึงร้อยละ 50-60

สำหรับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และองค์ความรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจนั้น ส่วนหนึ่งทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ทำให้มีแนวทางในการพัฒนารูปแบบธุรกิจอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านการผลิต การบริหารจัดการ และการพัฒนาบุคลากร เช่น สามารถปรับผังโรงงานใหม่เหมาะสมกับกระบวนการผลิต มีความรวดเร็วในการรับคำสั่งซื้อและการสั่งงาน และสามารถลดอัตราของเสียเหลือเพียงร้อยละ 8.78 จากเดิมอัตราของเสียมีอยู่ถึงร้อยละ 12 ของกระบวนการผลิตทั้งหมด อีกทั้งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อได้มากขึ้นเป็น 500-700 เคสต่อวัน จากเดิมได้เพียง 400 เคสต่อวัน โดยคาดว่าภายหลังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันสู่การเป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ ทางบริษัทเอ็กซาฯ จะมีศักยภาพความเข้มแข็งขึ้นจากความร่วมมือกับห่วงโซ่อุปทานในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ประกอบกับการ เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะส่งผลต่อฐานลูกค้าที่ขยายตัวขึ้น และคาดว่าจากปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้จะส่งผลให้มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาที่ให้บริการแบบครบวงจร จำนวน 20 แห่ง กระจายตามหัวเมืองหลัก เพื่อรองรับการเติบโตธุรกิจด้านทันตกรรม เช่น อุดรธานี นครสวรรค์ อุบลราชธานี และในปี 59 จะขยายสาขาไปที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่ เจาะลูกค้าชาวต่างชาติที่นิยมเข้ามาให้บริการทันตกรรมในไทยมากขึ้น และพร้อมเข้าสู่การเป็น Medical Hub เต็มตัว


***สนใจติดต่อ 08-1885-1451 หรือที่ www.hexadentallab.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น