ใครจะคิดว่าจากเจ้าของเขียงหมูเล็กๆ ในตลาด แค่ลองปรับผลิตภัณฑ์เป็นกุนเชียงหมู กลับขายดิบขายดีเป็นสินค้าฮอตฮิตติดตลาด ส่งผลรายได้ทะยานหลักร้อยล้าน และต่อยอดสู่ “ศูนย์รวมสุดยอดของฝากเขาใหญ่ ปากช่อง” ภายใต้ชื่อ “เจ๊เค็ง” บนพื้นที่ 5 ไร่ สร้างจุดขายแหล่งชอปปิ้ง พักรถ และลิ้มรสกาแฟรสชาติดี เตรียมปูทางส่งไม้ต่อให้ทายาทรุ่นที่ 2
เมื่อหลุดกรอบแนวคิดเดิมในธุรกิจที่จำเจ ก็สามารถสร้างยอดขายเพิ่มได้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วบนเส้นทางชีวิต “เจ๊เค็ง” นางสาวสุนีย์ เหลืองจารุ เจ้าของกุนเชียงหมูเลื่องชื่อใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่เธอเริ่มจากรับธุรกิจเขียงหมูตกทอดมาจากมารดาในตลาดเทศบาล แต่การขายผลิตภัณฑ์เดียวซ้ำเดิมทุกวันทำให้เธอเกิดแนวคิดนำเนื้อหมูมาแปรรูปเป็นกุนเชียง ซึ่งจากประสบการณ์การแล่หมูมาตั้งแต่เด็ก ทำให้รู้ว่าเนื้อหมูส่วนสะโพกเป็นส่วนที่เหมาะสำหรับการนำมาทำเป็นกุนเชียงมากที่สุด
ดังนั้นจึงเกิด “กุนเชียงหมู” ที่คนในตลาดเรียกกันจนติดปากว่า กุนเชียงเจ๊เค็ง เกิดขึ้นครั้งแรกในตลาด โดยช่วงแรกเธอยอมรับว่ายังขายไม่ดีนัก ต้องมีการปรับสูตรอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ถูกปากลูกค้ามากที่สุด กระทั่งในที่สุดมาลงตัวที่สูตรของคุณแม่ที่ตกทอดกันมา มีคนรับไปขายต่อเป็นจำนวนมาก และนั่นจึงกลายเป็นการแจ้งเกิดกุนเชียงเจ๊เค็งเต็มรูปแบบ
หลังจากสินค้าเริ่มติดตลาดเกิดการบอกปากต่อปาก ทำให้ทำเลในตลาดสดไม่ค่อยเหมาะกับการให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า รวมถึงตลาดมีเปิด-ปิด และเมื่อ 'ตลาดวาย' ลูกค้าก็เข้าไม่ถึงสินค้าทำให้ขาดโอกาสนี้ เธอจึงขยับขยายมาเปิดหน้าร้านขายกุนเชียงที่หน้าอำเภอปากช่อง ซึ่งเวลานั้นเขียงหมูต้องเลิกทำเพราะออเดอร์กุนเชียงเข้ามามากจนทำไม่ทัน
จากขั้นตอนการใช้แรงงานคนในการทำกุนเชียงเริ่มไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า เครื่องจักรจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เธอลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรคุณภาพมาจากประเทศเยอรมนีในราคา 2 ล้านบาท ที่สามารถบดหมูโดยไม่ทำให้เซลล์ตาย และปรับปรุงโรงงานมีมาตรฐาน อย. GMP HACCP และความทันสมัยมากขึ้น ขณะที่การเลือกใช้วัตถุดิบจะเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเนื้อหมูจะเป็นของเบทาโกร เกรด S pure หลีกเลี่ยงหมูเนื้อแดง แต่จะใช้ส่วนสะโพกหมูเท่านั้น นำมาบดละเอียดพอประมาณ ขณะที่มันหมูก็หั่นเป็นลูกเต๋า นำมาผสมกับเครื่องปรุง รอจนส่วนผสมเซตตัวจากนั้นนำมายัดลงในไส้หมู จากนั้นนำไปอบในตู้ประหยัดพลังงาน ใช้ฟืนจากการตัดแต่งกิ่งของเกษตรกรเป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งเป็นผลงานของนักศึกษาที่ร่วมกันพัฒนากับทีมงานเจ๊เค็ง ต่อมาก็นำมาบรรจุลงบรรจุภัณฑ์ในถุงสุญญากาศ สามารถเก็บได้นาน 3 เดือน ซึ่งต่อไปจะพัฒนาให้อยู่ได้นาน 6 เดือน-1 ปี เพื่อรองรับตลาดส่งออก
ส่วนสาเหตุหลักที่เธอเลือกเปิด 'ศูนย์รวมสุดยอดของฝากเขาใหญ่ ปากช่อง เจ๊เค็ง' บนเนื้อที่ 5 ไร่ รองรับรถได้กว่า 80 คัน นั้นมาจากความต้องการลดปัญหาของเสียจากฝากขายกุนเชียงตามร้านค้าต่างๆ ที่ดูแลให้ไม่ดีนัก รวมถึงเคยมีหน้าร้านในตัวอำเภอปากช่อง ซึ่งบางครั้งกลายเป็นจุดบอดสำหรับการจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะลูกค้าขาจรเข้าไม่ถึง และไม่รู้จักสินค้าของเธอ ทำให้ล่าสุดเธอเลือกทำเลบน ถ.เทศบาล 26 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นถนนเส้นทางหลักสำหรับการเดินทางไปยังอีก 19 จังหวัดทางภาคอีสานได้ เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าประเภทของฝากไว้ครบครัน นอกจากกุนเชียงหมู (ราคา 180 บาท/กก.) ที่เป็นไฮไลต์แล้ว ยังมีกุนเชียงไก่ (ราคา 150 บาท/กก.) กุนเชียงปลา (ราคา 150 บาท/กก.) แหนมอินเตอร์ แหนมซี่โครงหมู แหนมคอหมูส้ม ไส้กรอกอีสาน หมูหอม และขนมขบเคี้ยว รวมถึงร้านกาแฟให้หย่อนใจระหว่างเดินทางได้เป็นอย่างดี
ส่วนในปี พ.ศ. 2559 เตรียมนำสินค้าจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ทุกสาขา และสยามพารากอน รวมถึงเจาะตลาดส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง บรูไน มาเลเซีย ที่แม้ผู้คนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม แต่มีคนจีนปะปนอยู่ไม่น้อย จึงต้องการแชร์ตลาดในส่วนนี้ พร้อมวางตำแหน่งเป็นผู้รับจ้างผลิตด้วย ที่ขณะนี้มีสัดส่วนประมาณ 15%
จากความสำเร็จที่ “เจ๊เค็ง” สร้างมากับมือ ล่าสุดได้ปูทางและถ่ายทอดหลักการบริหารให้แก่ทายาทธุรกิจรุ่นลูกทั้ง 3 คน ที่พวกเขาและเธอยินดีสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เติบโตและสอดรับกับเทรนด์ที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
***สนใจติดต่อ 828/2 ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร. 0-4431-3312, 08-1760-2016 หรือที่ www.jaekeng.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *