‘สินค้าคุณภาพดี ราคาเหมาะสม และใช้ประโยชน์หลากหลาย’ คือส่วนประกอบในการคิดและพัฒนา “ที่นอนสัตว์เลี้ยง” แบรนด์ "หมาเจ็บ" (Mahjeg) ช่วยให้ธุรกิจแจ้งเกิด และยืนหยัดมากว่า 10 ปี ในฐานะผู้นำสินค้าประเภทนี้ของวงการ
ปวีณา สารภี เจ้าของ บริษัท หมาเจ็บ ด็อก กูดส์ ช็อป (ไทยแลนด์) จำกัด เดิมเคยทำงานประจำ และสุดสัปดาห์หารายได้เสริมเปิดร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ลักษณะซื้อมาขายไป ก่อนจะผันตัวทำสินค้าขายปลีกและส่งด้วยตัวเอง
“สินค้าซื้อมาขายไปหักค่าเช่าแล้วเหลือกำไรน้อย เราเลยคิดผลิตสินค้าเอง โดยวิเคราะห์ตลาด หาจุดแข็งจุดอ่อนของสินค้าแต่ละตัว จนพบว่าที่นอนหมาก็เหมือนบ้าน เป็น 1 ในปัจจัย 4 แต่ในตลาดเวลานั้นมีสินค้าขายน้อย แบบมีเฉพาะเป็นเบาะสี่เหลี่ยม เราเลยเริ่มทำที่นอนหมา ซึ่งมีดีไซน์และเหมาะใช้งาน ใช้วิธีจ้างช่างมาเย็บตามแบบที่เราคิด” ปวีณาเล่าจุดเริ่มต้น
จากรายได้เสริมกลายเป็นอาชีพหลัก เมื่อออกสินค้าที่นอนดังกล่าวนับเป็นจุดแจ้งเกิด แบรนด์ “หมาเจ็บ” เพราะได้รับความนิยมอย่างสูง มีผู้ค้าส่งทั่วประเทศรับซื้อไปขายต่อ รวมถึงต่างชาติสั่งออเดอร์ไปขายยังประเทศของเขา โดยจุดบูมสุดๆ เคยขยายร้านในจตุจักรไปถึง 8 ห้อง และลูกค้าต้องเข้าคิวรอซื้อ
ช่างคิด ช่างทำ ไม่หยุดพัฒนา นับเป็นคุณสมบัติเด่นของเอสเอ็มอีรายนี้ พยายามหาข้อมูลมาปรับปรุงที่นอนสัตว์เลี้ยงเสมอๆ โดยเฉพาะการไปร่วมงานแฟร์อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงในต่างประเทศ นำไอเดียสินค้าที่พบเห็นมาต่อยอดให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าผู้รักสัตว์ ส่งให้จากเบาะที่นอนสี่เหลี่ยมธรรมดา แตกยอดกลายเป็นที่นอนสัตว์เลี้ยงสารพัดไอเดีย โดดเด่นทั้งเรื่องวัสดุคุณภาพดี และประโยชน์ใช้สอย
“เราไม่กล้าพูดว่าออกแบบเองทั้งหมด แต่เราใช้วิธี Copy and Development นำข้อดีสินค้าที่ไปพบเจอมาปรับให้เหมาะกับความต้องการของคนเลี้ยง เน้นดีไซน์ให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น บ้านหมาพับเป็นที่นอนได้ แบบซิปเปลี่ยนรูปทรงได้ หรือแบบใช้เป็นกระเป๋าได้ด้วย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ในแง่ผู้เลี้ยงจะชื่นชอบในความคุ้มค่า ขณะที่ด้านขนส่ง ช่วยประหยัดพื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ขนส่งสินค้าไปต่างประเทศแต่ละเที่ยวคุ้มค่า และเมื่อไปถึงผู้ซื้อปลายทางสินค้ายังคงสภาพเดิม” ปวีณาอธิบาย และเล่าต่อว่า
ด้านวัสดุ หัวใจสำคัญมาจาก “ฟองน้ำ” ที่เป็นสูตรลับจ้างผลิตขึ้นเอง คุณสมบัติเหนียวนุ่ม แข็งแรง และทนทาน ไม่ว่าจะบิด ทับ หรือเข้าเครื่องซักผ้ากี่รอบก็ไม่เสียทรง เช่นเดียวกับตัว “ผ้า” ใช้เป็นคอตตอนไม่ติดขน และลายผ้าสั่งพิมพ์เฉพาะขึ้นเอง ไม่ซ้ำกับลายผ้าในสำเพ็ง ส่วน “ใย” ใช้ใยสังเคราะห์เกรด A ไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้
เธอบอกด้วยว่า พฤติกรรมผู้เลี้ยงสัตว์แทบทุกคน ต่อสัตว์เลี้ยง 1 ตัวจะมีที่นอนอย่างน้อย 3 ชิ้นขึ้นไป วางไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านหรือที่พักอาศัย นอกจากนั้น แต่ละชิ้นจะมีดีไซน์ต่างกันไป อีกทั้งมีอัตราการซื้อแล้วทิ้งเพื่อซื้อชิ้นใหม่สม่ำเสมอ ดังนั้น แบรนด์ “หมาเจ็บ” นำพฤติกรรมผู้เลี้ยงดังกล่าวมาเปลี่ยนเป็นตัวสินค้า เน้นดีไซน์ความหลากหลาย ราคาไม่สูง ซื้อใหม่ได้เรื่อยๆ ซึ่งตอบความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี
สินค้าแบรนด์ “หมาเจ็บ” เน้นเพื่อสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก โดยเฉพาะหมาและแมว สินค้า70% คือที่นอน 20% เป็นบ้านสัตว์เลี้ยง และ 10% คือเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของเล่นเพื่อสัตว์เลี้ยง รวมกันกว่า 30 แบบ ราคาตั้งแต่ 60 บาท ถึงสูงสุดชิ้นละ 1,600 บาท สินค้าขายดีสุด คือ เบาะที่นอนหมา ราคา 200 บาท
ด้านสัดส่วนลูกค้า 80% ขายส่ง มีตัวแทนกว่า 20 ราย นำไปกระจายต่อยังร้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงต่างๆ และ 20% ขายปลีกทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.mahjeb.com ขณะที่สัดส่วนตลาดขายในประเทศประมาณ 30% และส่งออก 70% ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เป็นต้น ส่วนแรงงาน 20 คน กำลังผลิตประมาณ 1 หมื่นชิ้นต่อเดือน รายได้เฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อปี และอัตราธุรกิจเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15%
อย่างไรก็ตาม ปัญหาธุรกิจย่อมเป็นเรื่องหลีกหนีไม่พ้น โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศซบเซา กระทบลูกค้าในตลาดนัดจตุจักรลดลงอย่างน่าใจหาย รวมถึง อุทกภัยใหญ่เมื่อปี 2554 จมโรงงานผลิตที่อยู่ย่านบางบัวทองเสียหายนับล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีคู่แข่งสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาลอกเลียนและชิงตลาดอีกด้วย
ปวีณาระบุถึงการปรับตัวให้ฟังว่า ขณะนี้ปิดหน้าร้านที่จตุจักรทั้งหมดเพื่อลดค่าใช้จ่ายการเช่าร้าน และค่าพนักงาน หันมาขายปลีกผ่านทางออนไลน์แทน นอกจากนั้น กำลังออกแบรนด์ใหม่ เน้นทำสินค้าจับตลาดบน กำลังซื้อสูง เพิ่มกำไรต่อหน่วย และหลีกหนีคู่แข่งจากสินค้าจีน
“ทุกวันนี้สินค้าของเราเฉลี่ยกำไรต่อหน่วยแค่ 15% ซึ่งน้อยเกินไป ดังนั้น แผนตลาดเร็วๆ นี้จะออกแบรนด์ใหม่ที่แตกต่างเรื่องดีไซน์และวัสดุเพื่อลูกค้ากลุ่มบน โดยลงทุนเพิ่มประมาณ 1 ล้านบาท ขยายโกดังเก็บสินค้าได้ประมาณ 1,000 ชิ้น รองรับขายช่วงไฮซีซัน รวมถึงปรับเปลี่ยนจักรเย็บผ้ารุ่นใหม่ที่ทำงานได้เร็ว และประหยัดไฟฟ้า ซึ่งทุนส่วนนี้ได้ขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ (ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย) และใช้ บสย.(บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) ช่วยค้ำประกัน ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเพิ่มประมาณ 20%” เจ้าของธุรกิจกล่าว และทิ้งท้ายว่า
ตลาดที่นอนสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยคู่แข่งค่อนข้างน้อย สาเหตุเพราะเป็นสินค้าตลาดเฉพาะเจาะจง กำไรต่อหน่วยต่ำ ไม่จูงใจบริษัทรายใหญ่ๆ ลงมาทำแข่ง ส่วนสินค้าจากจีน คุณภาพยังไม่เป็นที่ยอมรับของลูกค้า ขณะที่เทรนด์คนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น เชื่อว่าโอกาสของตลาดยังมีอยู่
ดังนั้น แบรนด์ “หมาเจ็บ” จะคงจุดเด่นเรื่องคุณภาพ ควบคู่พัฒนาดีไซน์สม่ำเสมอ ให้เป็นคำตอบเพื่อคนรักสัตว์ต่อไป
โทร. 08-0419-5566, www.mahjeb.com หรือ FB: fanpage.mahjeb
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *