ผู้ผลิตอุปกรณ์แต่งรถชี้ส่งออกซบ เร่งปรับตัวหันลุยตลาดใน ปท.

“มอนเด้อุตสาหการ” ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องประดับยนต์ เผยแนวโน้มตลาดอุปกรณ์ประดับยนต์ส่งออกเจอภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เร่งปรับตัวหันทำตลาดในประเทศทดแทน

นายเสกสิทธิ์ ทวีผลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอนเด้อุตสาหการ จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องประดับยนต์ เปิดเผยว่า จากเดิมธุรกิจเครื่องประดับยนต์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ จึงตัดสินใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยบริษัทได้เน้นการผลิตเครื่องประดับยนต์แบบครบวงจรในรูปแบบต่างๆ จำหน่ายในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากดำเนินธุรกิจมาพบว่าในตลาดต่างประเทศนั้นมีการแข่งขันกันสูงมาก ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จึงทำให้ยอดขายในตลาดต่างประเทศลดลง ที่ผ่านมานั้นบริษัทเน้นการส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศถึงร้อยละ 80 จึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

จากภาวะที่เกิดขึ้นจึงทำให้ผู้บริหารของบริษัท มอนเด้อุตสาหการ จำกัด มีนโยบายที่จะปรับแผนด้านการตลาดใหม่ โดยหันกลับมาเพิ่มการทำตลาดในประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังมีความต้องการที่สูงอย่างน่าสนใจ

นายเสกสิทธิ์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของบริษัทคือ ไม่เคยศึกษาและเรียนรู้ถึงรสนิยมด้านการตลาดของผู้บริโภคในประเทศ กลุ่มไหนชอบสินค้าอย่างไร แบบไหน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นโจทย์ที่ทำให้เราต้องมาศึกษาและเรียนรู้

จากโจทย์ที่ต้องการคำตอบ จึงกลายเป็นที่มาของการเข้าร่วมกิจกรรมการบริการเงินสมทบจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงการผลิต การจัดการ การตลาด และการบริการ (Consultancy Fund :CF) หรือกิจกรรม CF ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

“เราคาดหวังอย่างยิ่งว่ากิจกรรม CF จะสามารถให้คำตอบเรื่องการตลาดภายในประเทศได้อย่างแจ่มชัด จึงขอเข้ารับบริการในหัวข้อด้านการตลาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มตลาดภายในประเทศและต้องการศึกษาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจด้วย”

สิ่งที่ผู้บริหารบริษัท มอนเด้อุตสาหการ จำกัด ต้องการเป็นสิ่งที่ที่ปรึกษากิจกรรม CF ได้เข้ามาช่วยและให้คำแนะนำ วิเคราะห์ ศึกษาความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทำให้เกิดการพัฒนาทางนวัตกรรม มีสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด พร้อมกันนี้ ได้ยกเลิกผลิตสินค้าบางรายการที่ไม่ตรงตามความต้องการของตลาดตามข้อแนะนำของที่ปรึกษา

“จากการช่วยเหลือของกิจกรรม CF ทำให้บริษัทได้รู้จักตลาดภายในประเทศอย่างชัดเจนว่าแต่ละกลุ่มนั้นต้องการอะไร อย่างกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน และรูปแบบของผลิตภัณฑ์เครื่องประดับยนต์แบบไหนที่จะถูกใจ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้บริษัทเกิดความมั่นใจและเข้าใจถึงการสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันสามารถผลิตสินค้าได้ตรงความต้องการของตลาด ส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างเห็นได้ชัดเจน”

นายเสกสิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับผู้ประกอบการ จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และการแข่งขันที่สูงมาก การจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาองค์กรในทุกๆ ด้านเพื่อสร้างจุดเด่นให้แก่ผลิตภัณฑ์