กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตือนนิติบุคคลทั่วประเทศต้องส่งงบการเงินภายใน 2 มิถุนายนนี้ ชี้เกินเวลาดังกล่าวผิดทางอาญาเจอโทษปรับทั้งนิติบุคคลและกรรมการ ระบุอำนวยความสะดวกส่งได้ 3 ช่องทาง ทั้งไปรษณีย์ ส่งด้วยตัวเอง และออนไลน์ เผยร่วมมือกรมสรรพากรเรียกตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียด
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า นิติบุคคลที่ยังดำเนินกิจการอยู่กว่า 600,000 รายทั่วประเทศ และมีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ต้องนำส่งงบการเงินภายในวันที่ 2 มิถุนายน 2558 (เฉพาะนิติบุคคลที่ประชุมสามัญประจำปีวันที่ 30 เมษายน 2558) หากไม่นำส่งหรือนำส่งล่าช้าจะมีโทษปรับอาญาตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกรมฯ จะส่งดำเนินคดีทุกราย และจะระบุข้อควรทราบในหนังสือรับรอง นิติบุคคล เพื่อแจ้งเตือนให้คู่ค้าและผู้ร่วมลงทุนทราบเป็นข้อมูลให้ระวังเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของธุรกิจดังกล่าวก่อนตัดสินใจร่วมลงทุน นอกจากนี้จะร่วมมือกับกรมสรรพากรเรียกบัญชีตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อขจัดปัญหาธุรกิจหลีกเลี่ยงปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ก่อนนำส่งงบการเงินขอให้ผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบความถูกต้องของงบการเงินอย่างละเอียด รอบคอบ หากมีข้อบกพร่องให้รีบแก้ไขก่อนนำส่ง เนื่องจากงบการเงินที่ถูกต้อง ครบถ้วนจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำงบการเงินไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ
นางสาวผ่องพรรณกล่าวต่อว่า กรมฯ ได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยเพิ่มช่องทางในการนำส่งงบการเงินเป็น 3 ช่องทาง คือ 1) ทางไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่งทั่วประเทศ 2) นำส่งด้วยตนเองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ, สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 ใน กทม., สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ และ 4 สาขาในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ (แม่สอด เมืองพัทยา หัวหิน และเกาะสมุย) และ 3) ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ซึ่งธุรกิจที่นำส่งงบการเงินผ่าน e-Filing นอกจากจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดเวลา และค่าใช้จ่ายของธุรกิจแล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษโดยสามารถนับชั่วโมง CPD ได้ 1 ชั่วโมงต่อการยื่นงบการเงิน 1 ราย
นอกจากต้องนำส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนดแล้ว ต้องจัดส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลที่จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัดต้องนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งภายใน 14 วันหลังจากประชุมใหญ่ แต่กรมฯ ได้มีมาตรการผ่อนผันให้สามารถนำส่งพร้อมงบการเงินประจำปีได้โดยไม่ต้องชำระค่าปรับ แต่ต้องเป็นการนำส่งงบการเงินที่อยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น หากไม่นำส่ง หรือนำส่งล่าช้าหรือนำส่งพร้อมงบการเงินแต่งบการเงินนั้นส่งล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะต้องถูกดำเนินคดีฐานไม่นำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นภายในกำหนด 14 วันนับแต่วันประชุมสามัญตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 26 อัตราโทษปรับกรรมการผู้มีอำนาจคนละ 2,000 บาท และหากบริษัทจำกัดไม่มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นครั้งหนึ่งเป็นอย่างน้อยทุกเวลา 12 เดือน จะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 16 อัตราการปรับบริษัทเป็นเงิน 1,000 บาท และกรรมการผู้มีอำนาจคนละ 1,000 บาท มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *