ปัญหาลำไยล้นตลาด เป็นสิ่งที่คนไทยเห็นจนชินตา แม้ผลไม้ไทยจะเป็นที่ต้องการของตลาดจีน แต่ยังไม่มากพอ ทำให้ชาวบ้านต้องนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า เจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ หวังสร้างรายได้ตลอดทั้งปี จากลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง
ล่าสุดผู้ประกอบการ “ปิยะภรณ์ สมพงษ์” หรือคุณนิ่ม ผู้ที่เกิดมากับสวนลำไยของครอบครัว เมื่อเรียนจบก็ตั้งใจกลับมาพัฒนาบ้านเกิด พร้อมตั้งปณิธานว่า 'สินค้าโอทอปไทย จะต้องไปสู่สากลให้ได้' โดยต้องการเป็นวิสาหกิจชุมชนต้นแบบให้แก่วิสาหกิจอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “Sawasdee” (สวัสดี) และในเร็วๆ นี้เพื่อเตรียมเข้าสู่เออีซี จะเปลี่ยนชื่อ เป็น Rim de' Rong (ริม เดอ รอง) จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง
“Rim de' Rong เป็นชื่อที่แม่บ้านริมร่อง ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน ตั้งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง และต้องการสร้างแบรนด์ให้จดจำง่าย จากผลิตภัณฑ์ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพ และคัดสรรลำไยคุณภาพเพื่อนำมาอบแห้ง ด้วยระบบอินฟราเรดทำให้ได้เนื้อสีทอง น่ารับประทาน โดยในแต่ละวันจะใช้ลำไยสดประมาณ 3,000 กก. นำมาอบแห้ง จะเหลือเพียง 300 กก.เท่านั้น"
เป็นเวลากว่า 5 ปีที่คุณนิ่มได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาโดยตลอดทั้งในแง่ของคุณภาพลำไยอบแห้ง และบรรจุภัณฑ์ เพื่อเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ จากผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ซึ่งความพยายามผสานความตั้งใจของเธอ ก็ประสบความสำเร็จ เที่ผ่านมาลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง แบรนด์ Sawasdee สามารถวางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อย่าง ท็อป, สนามบินขนาดใหญ่ และร้านคิงส์ พาวเวอร์
“เราเชื่อว่าสินค้าโอทอปไทยสามารถส่งออกสู่ตลาดสากลได้ หากมีมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร อย่าง HACCP, ฮาลาล หรืออื่นๆ ซึ่งทุกวันนี้เราทำได้แล้ว และชาวบ้านที่ร่วมบุกเบิกธุรกิจลำไยอบแห้งเนื้อสีทองก็ภาคภูมิใจ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแปรรูปลำไย แทนการขายแบบสดในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาดได้เป็นอย่างดี”
และเป็นที่รู้กันว่าปัจจุบันผลไม้ไทยเนื้อหอมมากในตลาดจีน และประเทศอาเซียนด้วยกัน ซึ่งลำไยอบแห้งก็เป็นหนึ่งในนั้น ทางกลุ่มแม่บ้านริมร่อง จึงปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเตรียมตัวเข้าตลาดส่งออก เริ่มจากการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น “Rim de' Rong” สื่อความหมายถึงผลผลิตจากกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ขณะที่การพัฒนาสินค้า ก็แตกไลน์ เป็น 'น้ำผึ้งดอกลำไยในเนื้อลำไยสีทอง' ก็ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน จากสรรพคุณในเรื่องการช่วยระบบขับถ่าย เพราะมีไฟเบอร์สูง พร้อมการันตีคุณภาพด้วยรางวัลโอทอปชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศไทย
ส่วนตลาดต่างประเทศคุณนิ่ม เตรียมบุกประเทศมาเลเซียเป็นแห่งแรก จากวิถีชีวิตของชาวมาเลเซียที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ต้องมีพิธีละหมาด และถือศีลอด ซึ่งลำไยอบแห้งเนื้อสีทองสามารถตอบโจทย์ได้ จากนั้นจะเริ่มเจาะตลาดในประเทศอาเซียนต่อไป โดยราคาขายส่งในประเทศอยู่ที่กิโลกรัมละ 450 บาท ส่วนขายปลีก 500 บาท/กิโลกรัม
| ข้อมูลผลผลิตลำไยแปรรูป จ.ลำพูน |
| จังหวัดลำพูนมีเตาอบเนื้อลำไยสีทอง 319 เตา มีการใช้ฟืน แก๊ส ไฟฟ้า และระบบอินฟราเรด สามารถอบลำไยได้ 649,000 กิโลกรัม/วัน แปรรูปเป็นลำไยเนื้อสีทองได้ 64,900 กิโลกรัม/วัน (ลำไยสด 10 กิโลกรัมจะทำลำไยอบแห้งเนื้อสีทองได้ 1-1.3 กิโลกรัม) ทั้งนี้ จ.ลำพูนมีกลุ่มวิสาหกรมชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนลำไยอบแห้งเนื้อสีทองจำนวน 26 กลุ่ม อบลำไยได้ปีละ 2,000,000 กิโลกรัม มูลค่า 40,000,000 บาท อบลำไยเนื้อสีทองได้ 200,000 กิโลกรัมๆ ละ 280 บาท มูลค่า 56,000,000 บาท เพิ่มมูลค่าได้ประมาณ 70% ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองยังนำมาเป็นผลิตสินค้าพรีเมียมได้หลากหลายชนิด เช่น เค้กลำไย กาแฟลำไย ลำไยเนื้อสีทองเคลือบช็อกโกแลต เป็นต้น **ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตร** |
***สนใจติดต่อ 08-4613-6368, 08-9433-7273***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
