‘มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง' จากต้น ‘โชคอนันต์’ ฝ่าวิกฤตราคาตกสู่ส่งออกร้อยล้าน

ดูเบาไม่ได้จริงๆ สำหรับภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเฉพาะในภาคการเกษตรที่พยายามคิดค้นหาวิธีเพิ่มคุณภาพให้แก่พืชผล เพื่อตอบความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น แก้ปัญหาราคาตกต่ำ พร้อมปูทางสร้างรายได้ที่ยั่งยืน

ตัวอย่างชัด คือ การทำเกษตรเพาะปลูกมะม่วงพันธุ์ “น้ำดอกไม้สีทอง” ที่เกิดจากการใช้ “ต้นตอ” ของมะม่วงพันธุ์ “โชคอนันต์” ที่ราคาเริ่มตก โดยนำกิ่งพันธุ์มะม่วงน้ำดอกไม้มาติดตา ต่อกิ่งกับต้นมะม่วงโชคอนันต์ จนได้ออกมาเป็นมะม่วงผลสวยเหลืองอร่าม รสชาติหวานหอม เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างยิ่ง สามารถส่งออกไปหลายประเทศ ทั้งหมดเกิดจากสมองและสองมือของ 'สุวิทย์ อุททาเศษ' ปราชญ์ชาวบ้านในฐานะเกษตรกรแกนนำผู้ปลูกมะม่วงใน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว

ที่สำคัญ ภูมิปัญญาดังกล่าว ถูกถ่ายทอดไปสู่เกษตรกรอีกจำนวนมาก ผ่านการเนรมิตให้สวนมะม่วงของปราชญ์ชาวบ้านท่านนี้ บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ กลายเป็นศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร (มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง) ของ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานเกษตรอำเภอเชียงดาว

กฤษฎาพร บุตรแก้ว เกษตรอำเภอเชียงดาว ย้อนที่มาของไอเดียการทำสวนเกษตรลักษณะนี้ว่า เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่ใน อ.เชียงดาว ชาวบ้านนิยมปลูกต้นมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์เป็นจำนวนมาก เพราะมีตลาดรับซื้อให้ราคาดี แต่เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ราคาเริ่มตก เกิดภาวะมะม่วงล้นตลาด ทำให้ชาวสวนได้รับความเดือดร้อน จึงต้องคิดหาวิธีช่วยเหลือ กระทั่งพบลุงสุวิทย์ที่หาวิธีปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจากต้นตอมะม่วงโชคอนันต์ได้เป็นผลสำเร็จ

สำหรับภูมิปัญญาการนำต้นตอมะม่วงโชคอนันต์ มาทำให้เกิดเป็นผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองนั้น “ลุงสุวิทย์” เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเป็นมะม่วงส่งออกเมืองนอกได้นั้น ต้องขอบคุณสภาพอากาศที่ไม่เอื้อต่อการปลูกลำไย ส่งผลให้ผลผลิตไม่ดี จึงต้องเปลี่ยนมาปลูกมะม่วงแทน โดยเริ่มจากพันธุ์โชคอนันต์ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้กลับเข้าสู่ปัญหาเดิมอีกครั้ง คือ ผลผลิตล้นตลาด ราคามะม่วงตกต่ำ

ดังนั้น ต้องหาวิธีจะทำอย่างไรให้กลับมามีรายได้เช่นเดิมจากต้นมะม่วงโชคอนันต์ จึงคิดนำต้นตอที่มีอยู่ แล้วนำกิ่งมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในไทยและจีน โดยวิธีการติดตา ต่อกิ่ง พร้อมกับศึกษาวิธีทำให้ผลมะม่วงน้ำดอกไม้เป็นสีเหลืองนวลทั้งลูก ก็ค้นพบว่าต้องนำถุงกระดาษเคลือบคาร์บอนด้านในมาห่อหุ้มไว้ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันแมลงแล้ว ยังทำให้สีเหลืองนวลสดใสตลอดทั้งลูกอีกด้วย คุณสมบัติเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดจีนที่พร้อมรับซื้อทั้งหมด

“จากราคามะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ ช่วงที่ตกต่ำที่สุดราคาเพียง 6-7 บาท/กก. เท่านั้น แต่เมื่อเปลี่ยนมาปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ราคารับซื้อหน้าสวนตกกิโลกรัมละ 60 บาท มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าตัว แถมยังมีนายหน้ามารอรับซื้อ เพื่อส่งออกไปยังประเทศ ญี่ปุ่น รัสเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย บางคนต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว ทำให้ที่ผ่านมาชาวบ้านหลายรายเริ่มหันมาปลูกกันบ้างแล้ว โดยใช้การติดตา ต่อกิ่งจากมะม่วงโชคอนันต์เพื่อลดต้นทุน โดยมาศึกษากรรมวิธีที่ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้” ลุงสุวิทย์เล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ขณะที่ “โอฬาร พิทักษ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มองว่าการปลูกมะม่วงที่เป็นที่ต้องการของตลาดถือว่าอนาคตยังอีกไกล หากเกษตรกรมีความตั้งใจจริง และควบคุมคุณภาพให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า เช่นเดียวกับสวนของลุงสุวิทย์ ที่มีการนำภูมิปัญญามาหาทางออกให้กับอาชีพดั้งเดิมของตนเองได้ ส่งผลให้ขณะนี้ อ.เชียงดาว มีพื้นที่ปลูกมะม่วงทั้งสิ้น 22,083 ไร่ ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 12,749 ไร่ โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ทำรายได้สู่ อ.เชียงดาว ปีละกว่า 126 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ รัสเซีย และจีน อีกทั้ง ขณะนี้ผลไม้ของประเทศในแถบเอเชียกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศสูงมาก

วิธีการต่อกิ่งมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จากต้นตอพันธุ์โชคอนันต์

1.ใช้ต้นมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ที่มีอยู่เดิมบำรุงด้วยปุ๋ยยูเรียประมาณ 15 วัน 2.เลือกกิ่งมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แล้วนำมาติดต่อ ต่อกิ่งกับกิ่งมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง 3.ใช้เทปใสพันทั้งสองกิ่งเข้าด้วยกันให้แน่น ป้องกันน้ำซึมเข้าไป 4.หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี จะเริ่มออกผลเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง 5.นำถุงกระดาษเคลือบคาร์บอนที่ผ่านมาฆ่าเชื้อโรคแล้วมาหุ้มที่ผลมะม่วงประมาณ 45 วัน เก็บผลผลิตได้ 6.หลังเก็บผลผลิตแล้วให้ตัดมะม่วงบางส่วนออก เพื่อไม่ให้ต้นมะม่วงสูงเกินไป และนำใบไว้โคนต้นเพื่อทำปุ๋ย

ภูมิปัญญาชาวบ้านดังกล่าว ช่วยเพิ่มมูลค่าให้มะม่วงของไทยได้อย่างคุ้มค่าตั้งแต่กระบวนการปลูก นอกจากนั้น ยังขยายสู่การแปรรูปสร้างรายได้หลายเท่าตัว สนใจสอบถามวิธีปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ติดต่อได้ที่ลุงสุวิทย์ โทร.09-6572-3461
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *