รู้จัก “เชฟจากัวร์ ข้าวแกงร้อยล้าน” อาหารไทยอยู่ในสายเลือด

“อาหารไทยอยู่ในสายเลือด” คงเป็นคำที่สื่อตัวตนของเชฟจากัวร์ “ธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์” ฉายาข้าวแกงร้อยล้านได้เป็นอย่างดี จากผู้ที่เริ่มนับหนึ่งด้านอาหาร มาวันนี้มีเงินเป็นร้อยล้านจากอาหารอันเป็นที่รัก เขาทำได้อย่างไร หาคำตอบได้จากนี้

การเริ่มต้นทำในสิ่งที่รัก บนเส้นทางร้านอาหาร ต้องยอมรับว่า เชฟจากัวร์ เป็นอีกหนึ่งหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เคล็ด (ไม่) ลับที่เขาเปิดเผยคือ การยึดหลัก 'เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง' หรือถอดความได้ว่า ทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป และก้าวไปข้างหน้าอย่างมีสติ จะทำให้ทุกอย่างราบรื่น จนได้ฉายา “ข้าวแกงร้อยล้าน” จนถึงทุกวันนี้

เส้นทางชีวิตของเชฟจากัวร์ เรียกได้ว่าเริ่มต้นนับหนึ่งบนเส้นทางด้านอาหาร ซึ่งเขาออกตัวว่าไม่ได้เรียนจบ ปวช.ที่กรุงเทพการบัญชี มาศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ เอกการบัญชี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร ยอมรับว่าหลงใหลในเรื่องตัวเลขพอๆ กับการทำอาหาร แต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิตการทำงานก็เป็นนักบัญชีทั่วไป แต่โลกความจริงไม่ได้สวยหรูอย่างที่ร่ำเรียนมา หลังจากได้รับคำสั่งให้ตบแต่งตัวเลขก็เริ่มขัดแย้งกับจรรยาบรรณ ตัดสินใจลาออก พร้อมเดินทางเข้าสู่เส้นทางสายอาหาร อีกหนึ่งความสามารถที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน

หลังจากที่ในช่วงกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี เขาเคยเปิดร้าน “จากัวร์โปรเจ็คท์ 1” ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร จึงมาสานต่ออีกครั้งเป็นร้านข้าวแกงและส้มตำ แรกเริ่มเขาคิดจะทำเล่นๆ หารายได้ช่วงวัยเรียน แต่รายได้ที่ได้กลับไม่ใช่เล่น เพราะเขาสามารถหอบเงินแสนไปฝากธนาคารได้ทุกสัปดาห์ แม้จะขายได้เพียงแค่ 2 วัน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น

และในระยะเวลาเพียงไม่นานเชฟหนุ่มจากแดนใต้ก็นำเงินไปสร้างบ้านใหม่ที่ จ.ตรัง บ้านเกิดได้สำเร็จ และเป็น 'คำตอบ' ของทุกอย่างในเส้นทางสายอาชีพที่เขาพร้อมจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจด้านอาหารโดยไม่ลังเล

การคงไว้ซึ่งรสชาติอาหารไทยแท้ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เชฟจากัวร์เดินบนเส้นทางสายนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และระหว่างการเดินทางได้หาความรู้เพิ่มเติมจากโรงเรียนโอเรียนเต็ล และโรงเรียนสอนการประกอบการอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ โดยเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่เขาอยู่ในแวดวงอาหาร รวมถึงยังเป็นที่ปรึกษาสถาบันสอนอาชีพชื่อดังหลายแห่ง แถมยังเป็นพิธีกรด้านอาหารในรายการโทรทัศน์

ปัจจุบันร้านอาหารของเชฟจากัวร์ ได้แก่ ครัวเบญจรงค์ เน้นอาหารไทย เป็นข้าวแกงเมนูหารับประทานยาก ภายในร้านตกแต่งหรูหรา, ครัวอิ่มเอม เป็นอาหารจานเดียว เน้นความรวดเร็วในการรปรุง แต่รสชาติรับประกันความอร่อย และแดนทองครัวไทย เป็นอาหารใต้ รสชาติจัดจ้าน ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้หลากหลาย และกลายเป็นที่มาของรายได้มหาศาล

ล่าสุดเชฟจากัวร์รู้สึกว่าการเดินทางบนถนนสายนี้มานานกว่า 20 ปีนั้น ถึงเวลาคืนกำไรให้สังคมด้วยการเป็นครูผู้สอนหลักการบริหารร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ จากประสบการณ์จริง เพื่อต้องการให้ผู้ที่มีใจรักในการทำร้านอาหารไปถึงฝั่งฝันตามที่ตั้งใจไว้ ขณะเดียวกัน ปัจจัยทำร้านอาหารให้เวิร์ก เชฟจากัวร์เผยว่า ทำเลเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนรสชาติอาหารและการบริการ เป็นเรื่องตามมา เพราะความอร่อยเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ต้องคงไว้ซึ่งความสะอาดของร้าน และคุณภาพของอาหารทุกจานที่เสิร์ฟให้ลูกค้า

นอกจากนี้เขายังได้รับโอกาสเป็นผู้รังสรรค์เมนูในรูปแบบใหม่แต่ไม่ทิ้งรสชาติ และกลิ่นอายของความเป็นอาหารปักษ์ใต้ โดยเชฟจากัวร์จะเข้าไปศึกษาในเรื่องของกระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการปรุง รวมถึงเคล็ดลับต่างๆ จากกลุ่มผู้ประกอบการที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ยกระดับวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอีด้านธุรกิจอาหารจาก 9 จังหวัดภาคใต้ หลังจากนั้นจึงจะนำเมนูเหล่านั้นมาคิดหาวิธีและรูปแบบในการนำเสนอให้เป็นสากล คือการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างพ่อครัว แม่ครัวต้นตำรับ ที่เน้นในเรื่องของรสชาติอาหาร กับเชฟผู้มีศิลปะในการรังสรรค์เมนู โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างสถาบันอาหารกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

ปัจจุบันร้านอาหารทุกสาขาของเชฟจากัวร์ยังคงยืนหยัดด้วยคุณภาพที่สั่งสมมายาวนาน ยึดหลักการแข่งกับตัวเองมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเขาเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาทักษะของตัวเองได้รอบด้าน

***สนใจติดต่อ 08-5046-4848***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *