ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน “ณัฐพงศ์ วินัยโรจน์” และ “บุณยานุช อินต้ะปัญญา” ได้มีโอกาสดูโทรทัศน์ รายการน้ำผึ้งพระจันทร์ สิ่งที่สะดุดตาทั้งคู่ คือ ในช่วงเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เกิดเป็นแนวคิดที่ใหม่ และยังไม่เคยเห็นใครหยิบจับขึ้นมา ประยุกต์ทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจังในไทย
ที่จริงแล้วทั้งคู่ทำธุรกิจร่วมกันอยู่หลายอย่าง ทั้งที่อายุยังน้อย คือ 23 ปีเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านอาหาร รับงานสกรีนบนวัสดุต่างๆ อย่างเคสโทรศัพท์มือถือ และเสื้อยืด และไอเดียที่ได้จากรายการโทรทัศน์ดังกล่าว ก็ได้ถูกนำมาประยุกต์สู่รูปแบบการทำธุรกิจอีกหนึ่งอย่าง ภายใต้ชื่อ Remember Surprise Delivery ในปี 2555
ณัฐพงศ์ เล่าถึงคอนเซ็ปต์ของธุรกิจว่า เดิมทีก็ตั้งใจจะให้มีแค่รับจ้างเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพิ่มการเซอร์ไพรส์เนื่องในโอกาสต่างๆเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเซอร์ไพรส์วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน ขอโทษ หรือการขอคืนดี
“เรามองว่าการเซอร์ไพรส์คนพิเศษในโอกาสต่างๆ มันสามารถนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ แต่ก็ไม่ได้หวังจะรวยจากธุรกิจนี้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นธุรกิจที่สิ้นเปลือง แต่ละโปรเจ็กต์มีราคาสูง คนที่จะยอมจ่ายเงินกับเรื่องนี้ ก็มีแค่เฉพาะกลุ่ม จะให้มีงานเข้ามาทุกวันก็คงเป็นไปไม่ได้
และเราเองก็มีธุรกิจตัวอื่นสนับสนุนอยู่แล้วด้วย แค่ต้องการนำเสนอรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ช่วยให้คนมีความสุขในวันสำคัญของเขา
ก่อนหน้านี้ ก็จะมีร้านดอกไม้ที่จะมีบริการส่งถึงผู้รับ ก็จะทำรูปแบบคล้ายๆกัน คือ เวลาไปส่งดอกไม้ ก็จะมีนักดนตรีไปด้วยคนหนึ่ง เพื่อส่งดอกไม้และร้องเพลงให้ เรา 2 คนก็จะเป็นตัวหลักในการคิดคอนเซ็ปต์งานในแต่ละครั้ง ส่วนทีมงานจะสลับสับเปลี่ยนกันไป เพราะบางคนก็ยังเรียนหนังสืออยู่ บางคนทำงานประจำ ส่วนมากก็จะเป็นเพื่อนกัน บางคนก็เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีหนึ่ง ซึ่งเราจะดูออกว่าใครมีความสามารถอะบ้าง เช่น เป็นพิธีกรได้ ร้องเพลงได้ เล่นกีตาร์ได้ ก็จะชวนให้เข้ามาร่วมงานกัน”
สำหรับอัตราค่าบริการในเบื้องต้น จะเริ่มต้นที่ 5,000 บาท โดยมากจะเป็นการเซอร์ไพรส์งานวันเกิด จะใช้ทีมงานไม่เกิน 5 คน มีเค้กให้ 1 ปอนด์ และเล่นกีตาร์ร้องเพลงอีก 1-2 เพลง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หรือความต้องการของลูกค้า
“แต่ถ้าในกรณีที่ลูกค้าโทรมากะทันหัน โทร.มาวันนี้ จะให้ไปเซอร์ไพรส์พรุ่งนี้ เราคงสร้างสถานการณ์ หรือทำอะไรได้ไม่มาก เป็นโปรเจ็กต์ง่ายๆ แค่ไปยืนร้องเพลงแล้วยื่นเค้กให้เท่านั้น ก็อาจจะคิดราคาแค่ 3,000 ใช้ทีมงานแค่ 3 คน แต่จะคิดค่าเค้ก ค่าเดินทางต่างหาก
หรืออย่างช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา เป็นเทศกาลวาเลนไทน์ เรามองไปถึงกลุ่มเด็กๆ ม.ปลาย หรือเด็กมหาวิทยาลัยที่อยากจะเซอร์ไพรส์แฟนในวันวาเลนไทน์ แล้วเขาจะทำยังไง ในเมื่อโปรเจ็กต์เราราคาค่อนข้างสูง
เลยจัดเป็นราคาโปรโมชั่นขึ้นมาอยู่ที่ 3,000 บาท ใช้ทีมงานแค่ 2 คน ไม่มีถ่ายรูป ไม่มีถ่ายวิดีโอ คนหนึ่งถือดอกไม้ คนหนึ่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง เราก็ไปติดต่อกับร้านดอกไม้ ว่าขอราคาดอกไม้เท่านี้ ช่อประมาณขนาดนี้ เขาก็ให้ได้ ในช่วงระยะเวลาโปรโมชั่นตรงนั้น ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีมาก
แต่ถ้าเป็นการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน จะเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่พอสมควร อาจต้องใช้เวลาในการคุยกันเป็นเดือน เพราะเงินมันเป็นหลักหมื่นขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่คุยกัน ว่าลูกค้าต้องการออพชั่นเสริมอะไรบ้าง โดยมากที่ลูกค้า รีเควสเข้ามา มักจะเป็นพวกดอกไม้ช่อใหญ่ๆ และมาสคอตตัวการ์ตูน”
พูดง่ายๆว่า ลูกค้ามีความฝันอย่างไร อยากได้ออฟชั่นเสริมรูปแบบไหน Remember Surprise Delivery ก็จะพยายามทำออกมาให้ใกล้เคียงกับที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
“มีอยู่เคสหนึ่ง เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิด เคสนี้จะราคาสูงอยู่ที่ 35,000 บาท เพราะลูกค้าระบุความต้องการดอกไม้ 999 ดอก เฉพาะค่าดอกไม้ก็ 10,000 บาทแล้ว ต้องใช้รถ 2 คัน เพราะว่าดอกไม้ช่อใหญ่มาก ส่วนขนมเค้กก็เป็น 3 ชั้น แล้วก็ยังเป็นคัพเค้กอีกด้วย รวมถึงมีตัวมาสคอตเป็นรูปหมู จึงต้องใช้ทีมงานเยอะประมาณ 10 คน
ในเคสนี้ คนที่ถูกเซอร์ไพรส์เป็นผู้ชาย มีอาชีพเป็นไกด์ ส่วนคนที่ทำเซอร์ไพรส์เป็นผู้หญิง และเป็นคนจีน ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะอยู่คนละประเทศ ซึ่งลูกค้าชาวจีนคนนี้ก็จะให้เพื่อนเขาที่เป็นคนไทยช่วยประสานงานให้ เขาก็ยอมจ่ายทุกอย่าง อยากได้ดอกไม้ อยากได้เค้กประมาณนี้ ขอให้เราหามาให้ได้ตามที่เขาต้องการ
ผมก็เสนอสถานการณ์ไปว่า งั้นทำให้เป็นเอ็กซ์สตรีมหน่อยไหม แกล้งทำทีเป็นว่าเราจะไปปล้นสนามบินสุวรรณภูมิ โปรเจ็กต์นี้เสียเงินเยอะตรงที่ว่าเราไปจัดเตรียมชุดไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์ปืนพวกบีบีกัน หมดไปประมาณ 5,000 บาท
แต่ก็ต้องยกเลิกเพราะตอนนั้นมันมีเรื่องการชุมนุมทางการเมืองของเสื้อเหลืองเสื้อแดงเข้ามาพอดี ทำให้ตำรวจที่สุวรรณภูมิเยอะ แล้วพอเข้าไปคุยกับตำรวจที่นั่น เขาก็บอกว่าคอนเซ็ปต์การเซอร์ไพรส์แบบนี้มันแรงไปสำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้ มันทำไม่ได้ ถึงจะเป็นการทำภายในที่จอดรถก็ตาม
ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน ให้ทีมงานแกล้งทำเป็นนักท่องเที่ยวเดินไปขอให้เป้าหมายช่วยถ่ายรูปให้ ถ่ายแล้วถ่ายอีกหลายแบบก็ยังไม่ถูกใจสักที คือ เข้าไปวุ่นวาย ไปตื๊อให้รำคาญ ต้องการทำให้เขาโมโห สักพักเป้าหมายก็เริ่มเซ็งๆ เบื่อๆ ทีมงานอีกทีมที่รออยู่ ก็จะเดินเข้าไปข้างหลังพร้อมรถเข็นดอกไม้และขนมเค้ก รวมถึงนักดนตรี เพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิด ซึ่งจะมีทีมงานที่เตรียมถ่ายภาพและวิดีโอตั้งกล้องรออยู่แล้ว ซึ่งเป้าหมายก็เซอร์ไพรส์และประทับใจมาก
สำหรับสถานการณ์ต่างๆ นั้น ส่วนมากเราจะเป็นคนคิดขึ้นมาให้ลูกค้า น้อยมากที่ลูกค้าจะเสนอว่าอยากได้แบบไหน แต่เราก็ต้องถามถึงรายละเอียดของคนที่ต้องการจะเซอร์ไพรส์ก่อน ว่าเขาเป็นคนยังไง นิสัยยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำงานเกี่ยวกับอะไร แล้วเซนซิทีฟในเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
แต่โดยมากแล้ว โปรเจ็กต์ที่มีราคาสูง มักจะเป็นโอกาสพิเศษอย่างการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ที่ลูกค้ายอมจ่ายเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคู่รัก
“ตัวอย่างเคสขอแต่งงานที่เป็นงานใหญ่ ก็จะมีของลูกค้าที่ทำงานธนาคารด้วยกันทั้งคู่ ผู้หญิงอยู่ SCB ส่วนผู้ชายอยู่กรุงศรีฯ เคสนี้ใช้เวลาคุยกับลูกค้านานมากเป็นเดือนๆในการเตรียมพร้อม เตรียมของต่างๆ คือ คู่นี้เขาเตรียมงานแต่งงานเอาไว้หมดแล้ว แต่ผู้ชายยังไม่เคยขอแต่งงานเลย
สำหรับสถานการณ์ที่สร้างขึ้นมา ก็คือ ไปจัดงานรณรงค์ไม่ทำร้ายสัตว์ที่แบงก์ SCB ทีมงานก็จะใส่มาสคอตเป็น บราวกับโคนี่ ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่ผู้หญิงเขาชอบ ตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยง ผู้หญิงเขาก็เดินมากับกลุ่มเพื่อน เราก็ให้ทีมงานเข้าไปชวนมาเล่นเกม เป็นการเปิดป้ายตามหมายเลข เพื่อให้ทายว่าเป็นรูปอะไร
เมื่อเปิดจนครบทุกเบอร์ ก็จะเป็นรูปคู่ของเขากับแฟน จากนั้นผู้ชายที่อยู่ในชุดมาสคอตบราว ก็จะถอดชุดออกมาเพื่อขอแต่งงานเอง ตรงนี้ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 กว่าบาท แต่ไม่รวมมาสคอต 2 ตัว เพราะลูกค้าไปหาเช่ามาเอง
อีกงานหนึ่งที่ใหญ่เหมือนกัน คือ คู่นี้เขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไป แล้วกลับมาเจอกันตามสายงาน แล้วก็รักกันเป็นแฟนกัน เลยอยากจะกลับไปขอแต่งงานที่โรงเรียนในสมัยประถม
เคสนี้ผมก็เข้าไปคุยกับครูใหญ่ให้ ว่าจะมาขอสร้างสถานการณ์เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกันที่โรงเรียน เพราะทั้งคู่เป็นศิษย์เก่าที่นี่ พอดีลูกชายของครูใหญ่เป็นหัวหน้าวงดุริยางค์ของโรงเรียนพอดี งานนั้นก็เลยกลายเป็นอลังการมากเพราะได้วงดุริยางค์มาเล่นให้เต็มวงเลย เคสนี้ก็ราคาประมาณ 20,000 กว่าบาทเหมือนกัน
นอกจากเซอร์ไพรส์วันเกิด และขอแต่งงานแล้ว อีกเคสที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ การขอคืนดี
“อีกเคสที่มีเข้ามาเยอะ คือ การขอคืนดี แต่เราจะต้องบอกลูกค้าก่อนเลยว่า เราไปทำให้ เราก็เต็มที่นะ แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับ คุณก็ต้องทำใจ ซึ่งเจอบ่อยมาก บางครั้งลูกค้าเขาก็เปิดใจกับเราว่าเขามีปัญหาอะไรกัน และคงกลับไปคืนดีกันไมได้
แต่บางครั้งลูกค้าเขาก็ไม่ได้เปิดใจกับเรา พอไม่สำเร็จทีมงานก็มีเฟลบ้าง พอไปถึงปุ๊ปผู้หญิงไม่เอา บอกเลยว่าไม่เอา ไม่เล่น ตอนแรกอาจจะคิดว่าแค่เซอร์ไพรส์วันเกิด ก็ยังโอเค แต่พอรู้ว่ามีขอคืนดีด้วย มีเพลง มีป้ายขึ้น เขาจะรู้แล้ว ก็จะบอกเลยว่าไม่เอา บางคนก็เดินหนีไปเลย ประมาณ 70% มักจะไม่สำเร็จ
กลุ่มลูกค้าจะคละๆ กันไป เป็นผู้ชายประมาณ 60% ผู้หญิงประมาณ 40% และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นเพศที่ 3 ด้วย
มีลูกค้าเก่าอยู่คนหนึ่งเป็นทอม มาใช้บริการของเราตั้งแต่ปีแรกที่เปิดเลย เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน ที่ทำงานเป็นผู้จัดการร้านใน 7-eleven ปีแรกก็ไม่มีอะไรมาก ให้ทีมงานเข้าไปขโมยของในร้าน แล้วก็มีทีมงานอีกคนแสดงตัวว่าถ่ายวิดีโอเอาไว้ได้ ก็มาบอกผู้จัดการร้าน เราก็เตี๊ยมกับทีมงานในร้านไว้หมด ผู้จัดการร้านก็มาขอค้นตัวคนที่ขโมย พอเจอของก็ต่อว่าไป คนนั้นก็ขอโทษ บอกว่าไม่รู้จะชดใช้ยังไง งั้นขอชดใช้ด้วยสิ่งนี้ละกัน แล้วก็จะเป็นทีมงานเดินเอาเค้กเข้ามา
พอปีที่ 2 ก็จะเป็นสถานที่เดิม เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟนเหมือนเดิม แต่เราเปลี่ยนทีมงานใหม่ยกชุดเลย ไม่งั้นเขาจะจำหน้าได้ ก็ให้ทีมงานแกล้งเข้าไปโวยวายว่าขนมปังที่ซื้อไปมันหมดอายุแล้ว โดยให้ทีมงานแต่งตัวแบบชิลๆใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนกำลังจะนอนแล้ว ทำเป็นว่าซื้อขนมปังไป กินไปแล้วครึ่งหนึ่งเพิ่งรู้ว่าหมดอายุ ซึ่งเป็นขนมปังที่เราซื้อเตรียมไว้ก่อนหน้านั้นนานแล้ว
จากนั้นแค่เดือนเดียว เขาก็ทะเลาะกัน ลูกค้าเราที่เป็นทอมเลยไปเซอร์ไพรส์ขอคืนดี ก็ในร้านเซเว่นฯ เหมือนกัน แต่เป็นคนละสาขากับ 2 ครั้งก่อน ซึ่งสุดท้ายผู้หญิงก็ยอมดีด้วย หลังจากนั้นจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะ แต่หน้างานก็คือแฮปปี้ เขาก็ยอมคืนดีด้วย มันก็กลายเป็นความผูกพันระหว่างเรากับลูกค้าไป”
เมื่อถามถึงผลตอบรับจากธุรกิจนี้ ณัฐพงศ์ บอกว่า ถือว่าเป็นที่รู้จักค่อนข้างเร็ว ทั้งๆที่ไม่ได้ทำการโปรโมทช่องทางใดเป็นพิเศษ นอกจากหน้าเพจใน Facebook
“ปีแรกเราไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เป็นเหมือนการเปิดตัวมากกว่า จะทำยังไงให้คนรู้จักเรา เพราะคนยังไม่รู้เลยว่าอะไรคือการให้บริการเซอร์ไพรส์ ตอนแรกวางแผนกันว่าจะเริ่มจากไปเซอร์ไพรส์เพื่อน แล้วถ่ายคลิปไว้เพื่อนำมาโปรโมทให้คนเห็นภาพ
แต่พอเราเริ่มทำเพจโปรโมทใน Facebook แค่อาทิตย์แรกก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาแล้ว คนก็เริ่มรู้จักเราจากลูกค้าคนแรกที่เอาคลิปไปลง จริงๆแล้วเรามีคลิปงานเก็บไว้เยอะมาก แต่ถ้าเข้าไปดูใน Facebook อาจจะเห็นว่ามีน้อย เพราะส่วนมากแล้วลูกค้าจะไม่อนุญาตให้เอาลง แต่ถ้าเป็นงานใหญ่จริงๆ เราก็จะพยายามคุยกับลูกค้า ขอเอามาลงเพื่อเป็นผลงานหน่อย
ในช่วงปีแรก มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2 งาน พอมาปีที่ 2 ช่วงนั้นต้องไปดูธุรกิจตัวอื่นเยอะ เลยไม่ค่อยมีเวลาลงมาทำตรงนี้มากนัก ทำให้งานในธุรกิจนี้มีน้อย อาจจะสัก 2 เดือนครั้ง
แต่พอมาปีที่ 3 กลับมีงานเข้ามาเยอะมาก เฉพาะเดือนที่ผ่านมาก็เกือบ 10 งานแล้ว เฉลี่ยเดือนละประมาณ 7 งานได้ สาเหตุที่ปีนี้มีลูกค้าเข้ามาเยอะกว่าปีที่แล้ว อาจเป็นเพราะเราได้ไปออกรายการทีวีของเนชั่น เลยทำให้มีคนรู้จักเยอะขึ้น
อีกทั้งก่อนหน้านี้จะมีคนที่ทำธุรกิจลักษณะนี้อยู่ 2 ราย รายแรกจะเป็นกลุ่มนักศึกษา ส่วนอีกรายหนึ่งก็มีค่าโปรเจ็กต์ที่แพงมาก รู้สึกจะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ซึ่งตอนนี้ก็ไม่เห็นแล้วทั้ง 2 กลุ่ม ตรงนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น”
ส่วนอุปสรรคที่ผ่านมานั้น อยู่ที่สถานการณ์หน้างานที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คนที่จะทำธุรกิจนี้ได้นั้น นอกจากต้องมีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
เป้าหมายในการทำธุรกิจจากนี้ไป คือ ฟอร์มทีมงานตัวหลักที่สามารถคิดโปรเจ็กต์งานต่างๆแทนณัฐพงศ์ได้ จะได้สามารถแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ทีม ซึ่งก็จะสามารถรับงานได้มากขึ้น อาจจะอยู่ที่ 3 งาน ต่อสัปดาห์
หากใครสนใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือจับคู่ธุรกิจกับณัฐพงศ์ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/RememberSurpriseDeliverly หรือ 08 5056 4458
@@@ ข้อมูลโดย นิตยสาร SMEs PLUS @@@
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
