“วิคตอเรีย การ์เด้นส์” คอมมูนิตีมอลล์สไตล์สวนอังกฤษ เอาใจนักชอปย่านฝั่งธนฯ

คอมมูนิตีมอลล์ แหล่งชอปปิ้งแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ดังนี้ จะเห็นว่าบนถนนตัดใหม่ย่านชานเมืองจะมีคอมมูนิตีมอลล์เปิดให้บริการกันเป็นจำนวนมาก หลายคนที่กำลังมองหาทำเลขายของ คอมมูนิตีมอลล์กลายเป็นทางเลือกของเถ้าแก่หน้าใหม่และหน้าเก่า ฝันว่าจะได้เปิดร้านสวยในทำเลดีสักแห่ง

วันนี้เรามีคอมมูนิตีมอลล์ย่านถนนเพชรเกษมมาฝาก “วิคตอเรีย การ์เด้นส์” ถูกสร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมสวนสวยสไตล์วิกตอเรีย อังกฤษ หวังให้ผู้บริโภครู้สึกสนุกสนานกับการจับจ่ายใช้สอยบนพื้นที่กว้างขวาง ครบครันด้วยสินค้าจากร้านค้าแบรนด์ดังกว่า 200 ร้าน มีซูเปอร์มาร์เกตเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ด้วยความที่ยังเชื่อมั่นในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมองว่ายังมีช่องทางการเติบโตสูง ทาง “บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” จึงได้ลงทุนสร้างคอมมูนิตีมอลล์ ภายใต้ชื่อ “วิคตอเรีย การ์เด้นส์” โปรเจกต์ใหญ่ที่ได้วิจัยมาแล้วว่าจะสามารถตอบโจทย์และตรงกลุ่มเป้าหมายคนในย่านถนนเพชรเกษม

ถนนเพชรเกษมทำเลรุ่ง
คนชนชั้นกลางมีกำลังซื้อ

นายประสงค์ ปิยะธนะศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ระหว่างถนนเพชรเกษม 67-69 พื้นที่บริเวณนี้กำลังจะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักย่านหนองแขม เนื่องจากเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรราว 3.4 แสนคน รวมถึงตั้งอยู่ใกล้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแคที่กำลังจะเกิดขึ้น เรียกว่าเป็นทำเลที่การเดินทางสะดวก และยังเชื่อมต่อกับถนนสำคัญอีกหลายสาย เช่น ถนนเอกชัย, ถนนพระราม 2, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี, ถนนพุทธมณฑลสาย 2, 3 และสาย 4 ฯลฯ เลยตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการวิคตอเรีย การ์เด้นส์ เพื่อตอบสนองความต้องการและรองรับกำลังซื้อของคนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก อีกทั้งทาง บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้วิจัยมาแล้วว่าจุดที่จะสร้างคอมมูนิตีมอลล์ดังกล่าว ในรัศมี 5 กิโลเมตรมีประชากรราว 3.4 แสนคน มีรถผ่านหน้าโครงการมากกว่า 1 แสนคัน มีเจ้าของธุรกิจและเจ้าของโรงงานย่านนี้อีกกว่า 500 ธุรกิจ เลยทุ่มงบสร้างโครงการราว 800 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 20 ไร่ หวังรองรับร้านค้ากว่า 200 ร้านค้า มีพื้นที่เช่า 14,000 ตารางเมตร และพื้นที่สำหรับจอดรถกว่า 380 คัน

สำหรับ “วิคตอเรีย การ์เด้นส์” ถูกสร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมสวนสวยสไตล์วิกตอเรีย อังกฤษ หวังให้ผู้บริโภครู้สึกสนุกสนานกับการจับจ่ายใช้สอยบนพื้นที่กว้างขวาง ครบครันด้วยสินค้าจากร้านค้าแบรนด์ดังกว่า 200 ร้าน มีซูเปอร์มาร์เกตเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนของกลุ่มครอบครัว นักเรียน-นักศึกษา และรองรับกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการจุดนัดพบเพื่อเจรจาธุรกิจ หรือใช้เป็นที่สังสรรค์แห่งใหม่

“คอมมูนิตีมอลล์แห่งนี้มีลักษณะกึ่งสวน ให้ความรู้สึกโล่ง สบาย และใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจของทุกเพศทุกวัย มีหลายโซน เช่น โซนอาหารและเครื่องดื่ม โซนการศึกษา สถาบันติว โรงเรียนสอนภาษา โซนสุขภาพ ความงาม โซน ธนาคาร และเคาน์เตอร์บริการต่างๆ เรียกว่าเป็นคอมมูนิตีมอลล์ที่สร้างตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด”

3 ชั้น 9 โซน เริ่มตารางเมตรละ 400 บาท

นอกจากฟู้ดแลนด์ ร้านแมคโดนัลด์ เชสเตอร์กริลล์ และสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ที่ถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าแล้ว ยังมีร้านค้ารายย่อยอื่นๆ อีก เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น, เวียดนาม, อาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี, ร้านเบเกอรี ร้านค้าแบรนด์เล็กๆ อีกมากมาย รายละเอียด “วิคตอเรีย การ์เด้นส์” มีทั้งหมด 3 ชั้น แบ่งออกเป็น 9 โซน

1. โซน Supermarket 24 ชม. 2. โซนที่สอง โซนอาหารและเครื่องดื่ม ถือว่ามีมากที่สุดประมาณ 60% 3. โซนสินค้าแฟชั่น 4. ธนาคารและศูนย์บริการต่างๆ 5. โซนร้านสุขภาพและคลินิกความงาม 6. โซนสำหรับการศึกษาและสถาบันกวดวิชา 7. โซนสินค้าไอทีและโทรศัพท์มือถือ 8. โซนสินค้าและบริการสำหรับรถยนต์ 9. สุดท้ายคือโซนสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

ด้านค่าเช่าพื้นที่ คร่าวๆ ดังนี้ ค่าเช่าชั้นหนึ่งตารางเมตรละ 1,000-1,500 บาท/เดือน ค่าเช่าชั้นสองตารางเมตรละ 600-1,000 บาท/เดือน ค่าเช่าชั้นสาม ตารางเมตรละ 400-500 บาท/เดือน

ตั้งเป้า 7 หมื่นคนต่อเดือน 7 ปีคืนทุน

ด้านกลุ่มเป้าหมายหลักของคอมมูนิตีมอลล์แห่งนี้ คุณประสงค์เผยว่า เน้นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่สำรวจมาแล้วมีมากกว่า 7 หมื่นคน นอกจากนั้นเป็นกลุ่มครอบครัว นักธุรกิจ และคนที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าว อาจจะไม่ใช่ลูกค้าเกรด A ที่ชอบเดินห้างหรู แต่เป็นลูกค้าที่ต้องการทางเลือก หาที่กิน ที่ชอปปิ้งใกล้บ้าน รองรับชุมชนใกล้เคียงในรัศมี 5 กิโลเมตรเป็นกลุ่มหลัก ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นกลาง ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการราว 70,000 คนต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะมีคอมมูนิตีมอลล์เกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก แต่ทางผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการก็ยังเชื่อว่ารูปแบบอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สังเกตได้จากชุมชนที่อาศัยอยู่รอบนอกกรุงเทพฯ มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการสินค้า และบริการจึงเป็นปัจจัยหนุนธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์ ที่สำคัญทางบริษัทเองก็เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 40 ปี มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างแน่นอน

สนใจสอบถามข้อมูล โทร. 0-2444- 4555

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *