การก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้ ซึ่งไม่ใช่แค่โอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้รับเท่านั้น แต่โอกาสที่จะสูญเสียลูกค้าก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาตลาดแฟชั่นในประเทศพม่า ในวันนี้มีเรื่องราวของสาวสวยดีกรีเป็นถึงดีไซเนอร์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย อย่าง “นิรมล จิรปิติ” เจ้าของผลงานที่มีชื่อว่า Niramon Couture ซึ่งเธอจะมาถ่ายทอดเรื่องราวของการเข้าไปลงทุนทำธุรกิจห้องเสื้อ Niramon Couture ที่ประเทศพม่าให้ได้รู้จักกัน
“นิรมล” เล่าถึงที่มาของ Niramon Couture ว่า เกิดขึ้นมาจากคุณแม่เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า และเปิดโรงเรียนสอนตัดเย็บเสื้อผ้า ชื่อ "วรรณี" และเปิดร้านอยู่ที่ The Old Siam มานานกว่า 20 ปี โดยเสื้อผ้าที่จำหน่ายจะเป็นในแนวโอต์กูตูร์ ตามที่ตนเองและคุณแม่ถนัด ซึ่งลูกค้าจะมีตั้งแต่ระดับคนในแวดวงไฮโซ นักธุรกิจที่มีชื่อเสียง บรรดาภริยาท่านทูต ล้วนแต่เป็นลูกค้าของคุณแม่มาตั้งแต่ตนเองยังไม่ได้รับช่วงต่อ
สำหรับการเข้ามาบริหารกิจการของ “คุณนิรมล” เธอได้พกดีกรีความเป็นดีไซเนอร์ จากการได้ไปร่ำเรียนมาจากสถาบันชั้นนำในประเทศอังกฤษ อย่าง “เซ็นทรัล เซนต์ มาร์ตินส์ คอลเลจ ออฟ อาร์ต แอนด์ ดีไซน์” และในช่วงที่ศึกษาต่อ ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทอัลตร้าโมดา เป็นบริษัทที่นำเข้าแบรนด์เนมชั้นนำ อย่าง Chanel Dior และ Christian Lacroix ฯลฯ และจากการทำงานตรงนั้นทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับผ้าชนิดต่างๆ โดยเฉพาะการเลือกใช้ผ้าชั้นสูง เธอได้นำตรงนั้นมาสร้างผลงานการออกแบบให้แบรนด์ของ Niramon Couture จนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยตรงจุดนี้ ทำให้เธอได้รับความไว้วางใจ จากกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่ม AEC ไม่ว่าจะเป็น ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ฯลฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ คนที่มีชื่อเสียงในประเทศเหล่านั้น ก็จะเลือกเข้ามาใช้บริการกับคุณนิรมล ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการบอกกันแบบปากต่อปากของกลุ่มคนรู้จัก และเป็นที่มาของการเข้าไปลงทุนของคุณนิรมลในประเทศพม่าด้วย
"นิรมล" บอกว่า ในระยะหลังการทำงานง่ายขึ้นมาก เพราะที่ผ่านมาลูกค้าอยู่ไกล การมาใช้บริการในแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเดินทาง แต่หลังจากมีโซเชียลเน็ตเวิร์กมาเป็นตัวช่วย ทำให้สามารถติดต่อลูกค้าโดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้ลูกค้าเดินทางมาถึงหน้าร้าน เพียงแค่ลูกค้าบอกว่าต้องการชุดแบบไหน และไปงานอะไร สามารถที่จะออกแบบให้ การทำงานของเราไม่ได้แค่ออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เราจะมองเข้าไปถึงการออกแบบเพื่อให้ชุดนั้นๆ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกของผู้สวมใส่ด้วย
ทั้งนี้ จากชื่อเสียงของ โรงเรียนสอนตัดเย็บเสื้อวรรณี และร้าน Niramon Couture ทำให้เธอได้รับความไว้วางใจจากร้านที่ดีที่สุดในประเทศพม่า เลือกให้เธอเข้าไปเป็นที่ปรึกษา ช่วยปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พัฒนาร้าน รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านแฟชั่นในประเทศพม่า หลังเปิดประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้าในประเทศพม่าร่วมกับคนท้องถิ่น
นิรมลบอกว่า หลังจากพม่าเปิดประเทศได้ไม่นาน การเปลี่ยนแปลงเริ่มมองเห็นได้ชัดในกลุ่มของคนที่มีรายได้ ซึ่งจากเดิมจะแต่งชุดประจำชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ ระยะหลังเริ่มมองหาเสื้อผ้าแนวแฟชั่นมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นรวดเร็ว เพราะคนพม่ายังมีความเป็นชาตินิยมอยู่สูง ดังนั้น การออกแบบก็ยังคงมีกลิ่นอายของชุดประจำชาติ เช่น เสื้อยังเป็นแบบเดิม แต่ใส่ลูกเล่น หรือเนื้อผ้า สีสันเพิ่มเติมเข้าไป ในส่วนล่างนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงเยอะหน่อยได้ เช่น กระโปรง กางเกง แทนที่จะเป็นผ้าซิ่น หรือโสร่งแบบเดิม
โดยหลังจากที่ “นิรมล” ได้นำเสื้อผ้าที่เธอออกแบบเข้าไปทำตลาดในประเทศพม่า ผ่านร้านเสื้อชื่อดังได้รับการตอบรับดีเกินคาด เพราะส่วนหนึ่งการแข่งขันยังไม่สูงมาก และออกแบบได้ในอย่างที่เขาต้องการ ยังคงรูปแบบของความเป็นชาตินิยมของพม่าอยู่ เพราะถ้าเป็นแบบที่มีความเป็นสากล หรือเป็นฝรั่งมากแบบบ้านเราก็คงจะยากที่จะเข้าถึงลูกค้าคนพม่าได้อย่างรวดเร็ว จากกลุ่มลูกค้านักธุรกิจที่อายุมากหน่อย ปัจจุบันแบบเสื้อของคุณนิรมลสามารถครองใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยทำงานอายุไม่มากด้วย
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาของการทำตลาดในประเทศพม่า ยังคงจะเป็นเรื่องของกำลังซื้อ เพราะต้องยอมรับว่ากลุ่มคนที่มีกำลังซื้อในพม่ายังมีไม่มากนัก และที่สำคัญ แม้ว่าจะมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่ แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของราคา เพราะเลือกซื้อสินค้าที่ราคาถูก และคุณภาพดีเท่านั้น แต่ปัญหาของเราตอนนี้ ก็ยังอยู่ที่ราคาเพราะเมื่อเทียบราคากับสินค้าท้องถิ่นราคาของเรายังสูงอยู่ในคุณภาพเดียวกัน ทางออกของเราก็คือ พยายามจะหนีไปทำเสื้อผ้าชั้นสูง เจาะตลาดในกลุ่มระดับบนไปเลย หรือการออกแบบเสื้อผ้าที่เจาะกลุ่มตลาดกลางและล่างเพิ่มขึ้นมา ปัจจุบันชุดเสื้อผ้าของ Niramon Couture ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 18,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาท”
โทร. 08-7966-6966
