“สวนสามพราน” จับมือหน่วยงานภาครัฐจัดงาน “วันสังคมสุขใจ” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย.นี้ ณ สวนสามพราน จ.นครปฐม ชวนชอปชิมสินค้าเกษตรอินทรีย์สดๆ จากไร่โดยผู้ปลูกตัวจริง ภายใต้บรรยากาศตลาดน้ำย้อนยุค ตั้งเป้าช่วยเสริมช่องทางตลาดแก่เกษตรกร และปลุกกระแสตื่นตัวเกษตรอินทรีย์
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพรานริเวอร์ไซด์ (สวนสามพราน) และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ในฐานะประธานจัดงาน “วันสังคมสุขใจ” ครั้งที่ 1 เปิดเผยว่า จากที่สวนสามพรานได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และหน่วยงานท้องถิ่น จัดโครงการสามพรานโมเดล ตั้งแต่เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรในท้องถิ่น อ.สามพราน จ.นครปฐม ปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีทำเกษตรจากใช้สารเคมีมาเป็นระบบเกษตรอินทรีย์
ที่ผ่านมาทางโครงการได้สนับสนุนเกษตรกร ทั้งในด้านความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ การแปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์ การพัฒนามาตรฐานเข้าสู่ระบบ IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movement) และที่สำคัญ ช่วยสนับสนุนด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ 2 ไร่ในสวนสามพรานทำเป็น “ตลาดนัดสุขใจ” เปิดโอกาสให้เกษตรกรที่อยู่ในโครงการมาออกร้านขายสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ฟรีๆ ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ รวมถึงรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมาใช้ในโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรมากยิ่งขึ้น รวมถึงปลุกกระแสความสำคัญของสินค้าเกษตรอินทรีย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดงาน “วันสังคมสุขใจ” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย.นี้ ณ สวนสามพราน จ.นครปฐม ภายในงานจะมีกิจกรรมสำคัญ เช่น การออกร้านขายผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่อยู่ในโครงการสามพรานโมเดลกว่า 100 ชนิด ทั้งประเภทสินค้าเกษตรอินทรีย์สดๆ จากไร่ หรือสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูป
สำหรับภายในงานจะจัดบรรยากาศให้เป็นตลาดน้ำ และตลาดบนแนวย้อนยุค รวมถึงมีกิจกรรมให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการให้ความสำคัญต่อเกษตรอินทรีย์ เช่น การเวิร์กชอปสุขภาพจากการบริโภค วิธีปลูกผักอินทรีย์ ตรวจสุขภาพฟรีกับแพทย์แผนไทย และต้นแบบสร้างบ้านดิน ฯลฯ
“เราจัดงานนี้เป็นครั้งแรก และตั้งใจจะจัดต่อเนื่องทุกๆ ปี ผมคาดหวังว่า วันสังคมสุขใจ จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกรได้มีกำลังใจจากที่สินค้าเกษตรอินทรีย์ได้การตอบรับของตลาดที่กว้างขึ้น ด้านผู้บริโภคได้เจอเกษตรกรโดยตรง มีโอกาสซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ในราคาถูก มั่นใจได้เรื่องความสะอาด ปลอดภัย ตลอดจนภาคสังคมทั่วไปเกิดการตื่นตัวหันมาช่วยกันสนับสนุนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้ครบวงจร และนำโครงการสามพรานโมเดลไปขยายผลสู่การสร้างชุมชนอื่นๆ” นายอรุษกล่าว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *