จ.เพชรบุรี มีร้านขายขนมของฝากชื่อดัง เปิดอยู่แล้วจำนวนมาก เมื่อเป็นหน้าใหม่ “พันธ์สุข ฟู้ดส์แอนด์ฟาร์ม” (1,000Sook Food&Farm) เลือกจะต่าง โดยผสานผสมระหว่างสิ่งปลูกสวยงามแปลกตา สไตล์อเมริกัน-อิงลิชคันทรี กับขนมไทยเมืองเพชรสูตรต้นตำรับ พร้อมกิจกรรมเสริมครบวงจร สร้างทางเลือกใหมให้ลูกค้าทั้งอร่อยลิ้นและอิ่มบรรยากาศ
ด้วยประสบการณ์ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน อ.ชะอำ เห็นศักยภาพอีกเหลือเฟือของการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ก่อแรงบันดาลใจให้ “สมสุข ทรัพย์อัประไมย” และ “ชปาพันธ์ เงินมูล” ริเริ่มโครงการ“พันธ์สุข ฟู้ดส์แอนด์ฟาร์ม” ตั้งแต่ 5 ปีก่อน บนเนื้อที่ 16 ไร่ ตั้งอยู่ริม ถ.เพชรเกษม ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปิดตัวเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา
“จากที่เราสองเดินทางท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศ เห็นร้านของฝากชื่อดังที่ต่างๆ จะมีบริการครบวงจร ขณะที่เราเป็นคนเพชรบุรี เมืองแห่งของฝากอยู่แล้ว เลยเกิดแรงบันดาลใจ อยากจะจำลองรูปแบบดังกล่าวมาไว้ที่บ้านเกิดให้คนไทยได้สัมผัส เลือกสร้างบรรยากาศสไตล์อเมริกัน-อิงลิชคันทรี เพราะเป็นความชอบส่วนตัว และยังไม่เคยมีมาก่อนในท้องถิ่น” สมสุข ระบุไอเดียตั้งต้น
นอกจากสถานที่ดึงดูดแล้ว สิ่งสำคัญควบคู่กัน สินค้าในร้านต้องโดนใจ เจาะจงขายขนมไทยขึ้นชื่อประจำ จ.เพชรบุรี กว่า 30 รายการ โดยทางร้านทำขึ้นเอง จากฝีมือแม่ครัวท้องถิ่นและใช้วัตถุดิบแบบต้นตำรับ เช่น หม้อแกงอบด้วยเตาถ่าน ใช้น้ำตาลโตนดแท้ๆ รวมถึง ขนมอื่นๆ เช่น บ้าบิ่น ทองหยิบ ฝอยทอง ฯลฯ ล้วนทำตามสูตรโบราณแท้ๆ
พร้อมกันนั้น คัดสรรของดีทั่วประเทศมาขายในร้าน ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ส่งสินค้านับพันรายการมาขาย ทั้งประเภทของกิน และสินค้าที่ระลึก โดยทางร้านเปิดให้ฝากขายได้ฟรี แล้วหักส่วนแบ่งจากยอดขายประมาณ 30% โดยมีความพิเศษ จะเริ่มหักเงิน ต่อเมื่อผู้ฝากสินค้ามียอดขายถึงหนึ่งหมื่นบาทเสียก่อน ซึ่งเป็นแนวคิดการค้า ที่ต้องการสร้างโอกาสแก่รายย่อย
“ผมเคยผ่านประสบการณ์เช่าพื้นที่เปิดร้านขายของ ซึ่งเจ้าของโครงการเรียกเก็บเงินตั้งแต่แรกเข้า ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีรายได้เลย เมื่อเรามาทำโครงการเอง ผมเลยเข้าใจหัวอก อยากเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเล็กๆ มีสินค้าแค่ 50 ชิ้นก็มาฝากขายได้ และเมื่อมีรายได้พอจะเป็นทุนไปหมุนต่อค่อยแบ่งมาให้ผม ส่วนรายที่ขายไม่ดี ผมก็จะช่วยจัดโปรโมชั่น เพราะผมเชื่อว่า ถ้าเขาอยู่ได้ ผมก็อยู่ได้” สมสุข อธิบาย
ด้วยแนวคิดหลักของ“พันธ์สุขฯ”ต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่มาซื้อของฝากเท่านั้น แต่ต้องการให้เกิดความประทับใจ เป็นพื้นที่แห่งความสุขอยากกลับมาเที่ยวซ้ำเรื่อยๆ อันจะส่งให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืน ดังนั้น ภายในพื้นที่ 16 ไร่ ถูกจัดเต็มด้วยบริการเสริมต่างๆ ตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ลานจอดรถรับได้ 200 คัน ห้องน้ำสวยสะอาด รวมถึง ร้านอาหารสเต็กเฮาส์ และพระเอก คือ “โซนฟาร์ม” พื้นที่กว่า 5 ไร่ เปิดให้เข้าเที่ยวชม ราคาตั๋วเด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท ภายในมีมุมถ่ายภาพต่างๆ และหลายกิจกรรม เช่น เลี้ยงแกะ เลี้ยงกระต่าย ขี้ม้าปาเป้า ชมสวนดอกไม้ ฯลฯ อีกทั้ง ยังจัดกิจกรรมพิเศษตามเทศกาลต่างๆ และในอนาคตจะมีเครื่องเล่นแอดเวนเจอร์ เช่น บอลลูนยักษ์บรรทุก นักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวบนท้องฟ้า เป็นต้น
โครงการนี้ ลงทุนค่าซื้อที่ดินและก่อสร้างกว่า 200 ล้านบาท เหตุที่เลือกทำเลนี้ เพราะเป็นเส้นทางเชื่อมการท่องเที่ยวระหว่างกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ และอยู่ห่างจากสี่แยกชะอำเพียง 10 กิโลเมตร ปัจจุบันมีลูกค้ามาเยือนวันละประมาณ 1,000 คน ทั้งครอบครัว วัยรุ่น และกรุ๊ปทัวร์ รายได้มาจากขายสินค้าของฝาก ร้านอาหาร และค่ากิจกรรมต่างๆ เฉลี่ยประมาณ 6 ล้านบาทต่อเดือน ต่ำกว่าเป้าที่คาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามกระแสบอกต่อ และวางเป้าจะคืนทุนได้ใน 6 ปี
ในขณะที่ธุรกิจรายอื่นๆ ลักษณะใกล้เคียงกับพันธ์สุขฯ ซึ่งพัฒนาที่ดินสู่แหล่งท่องเที่ยว มักเน้นหารายได้จากการเปิดให้ผู้ค้าภายนอกมาเช่าพื้นที่เปิดร้านขายของ แต่สำหรับผู้ประกอบการรายนี้ กลับปฏิเสธรายได้ก้อนโต ด้วยเหตุผลต้องการดูแลงาน“บริการ”ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจแก่แขกที่มาเยือน และที่สำคัญให้กลับมาซ้ำสม่ำเสมอ
“ผมเชื่อว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจนี้สำเร็จ ตัดสินจากความประทับใจของลูกค้า ซึ่งมาจากสินค้าต้องมีคุณภาพราคายุติธรรม บรรยากาศสถานที่สวยงาม และบริการประทับใจ ซึ่งบทเรียนที่เราเห็นในหลายสถานที่ เมื่อเปิดให้คนนอกมาเช่า การบริหารยากมาก เกิดการแข่งขันกันเองในหมู่ผู้ค้า กระทบงานบริการ ทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วไม่ประทับใจ” สมสุข อธิบาย พร้อมทิ้งท้ายว่า
“แม้ว่าในเพชรบุรี จะมีธุรกิจใกล้เคียงกันหลายแห่ง แต่ผมไม่เคยมองเป็นคู่แข่งเลย ตรงกันข้ามคิดว่าทุกรายเป็นพันธมิตร เพราะแต่ละแห่งก็มีจุดเด่นของตัวเอง นักท่องเที่ยวสามารถตระเวนเที่ยวได้หลายแห่ง พันธ์สุขฯ ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งผมอยากให้ลูกค้าเข้ามาแล้วเกิดความสุขประทับใจ แล้วอยากมาซ้ำอีกเรื่อยๆ”
@@@@“พันธ์สุขฯ” ชื่อนี้มีที่มา@@@@ |
ชื่อ “พันธ์สุข ฟู้ดส์แอนด์ฟาร์ม” มาจากการผสมคำระหว่างชื่อเจ้าของธุรกิจทั้งสองท่าน คือ “ชปาพันธ์ เงินมูล” และ “สมสุข ทรัพย์อัประไมย” นำมาเป็น “พันธ์” + “สุข” = “พันธ์สุข” และยังเล่นคำพ้องเสียงกับ “1,000 สุข” สื่อความหมายเป็นดินแดนที่เข้ามาแล้ว พบแต่ความสุข อันหลากหลาย |
เปิดบริการ 8.30 - 20.30 น. ทุกวัน FB:1000Sook Food and Farm
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *