คงเหมือนหลายๆ ที่ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีม แต่น้อยคนที่จะฝันไกลถึงการเปิดร้าน และทำไอศกรีมส่งขายตามร้านทั่วไป ด้วยรสชาติแปลกใหม่ ชื่อเมนูไม่ซ้ำใคร อย่างร้าน “Gelato 44 C” ไอเดียเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการทำไอศกรีมตามรสชาติที่ตนเองชอบ เน้นเครื่องจัดเต็ม
แค่ชื่อร้านก็สะดุดตา เพราะพลันให้คิดว่าเป็นไอศกรีมที่อยู่ในอุณหภูมิสูงถึง 44 องศา หรืออย่างไร แต่คิดผิดถนัด เพราะสองหุ้นส่วนธุรกิจ “ภัทรภร คมโนภาส” หรือ คุณอุ๊ และ “นริศรา จิรกรกิตตินันท์” หรือ คุณบี มาเฉลยให้ฟังว่าเป็นอุณหภูมิความร้อนที่ทำให้คนถึงตายได้ เปรียบเปรยเหมือนใครที่ได้ลิ้มลองรสชาติไอศกรีม Gelato 44 C ก็อาจตายได้เช่นกัน เพราะรสชาติไอศกรีมที่กลมกล่อม อร่อยถูกปากทุกเพศทุกวัย
ส่วนที่มาของธุรกิจนี้เกิดจากคุณอุ๊ ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีมมาตั้งแต่เด็กๆ แต่รู้สึกว่ารสชาติไอศกรีมแบบเดิมๆ ยังไม่เร้าใจ ต้องการนำรสชาติที่ตนเองชอบมารับประทานคู่กัน และคิดว่าเป็นรสชาติที่ลงตัวหากนำมาผสมรวมกันได้ เธอจึงตัดสินใจไปเรียนทำไอศกรีมเจลาโต พร้อมเปิดร้านกาแฟที่ จ.ระยอง เป็นการทดลองตลาด และฝีมือการทำไอศกรีมเจลาโตของตนเอง
เมื่อคิดจะทำธุรกิจเป็นครั้งแรกความแปลกและแตกต่างต้องมี เริ่มจากความต่างในเรื่องรสชาติ เช่น คริสมาสต์ เป็นการหลอมรวมไอศกรีมรสกีวีกับสตรอเบอรี่เข้าไว้ด้วยกัน, รสนมอาโออ, วนิลามิยาบิ ไอศกรีมรสวนิลาผสมนมฮอกไกโด , รสหญ้าอ่อน มีส่วนผสมของใบเตยและมะพร้าวขูด (รสชาติยอดฮิต) , รสช็อกโกแลตมิ้นต์ และมะม่วงร่องอก เป็นต้น
ปัจจุบันหน้าร้าน Gelato 44 C ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำหน่ายไอศกรีมเจลลาโต และเครื่องดื่มที่หาดื่มไม่ได้จากที่ไหน ชูความต่าง และความตื่นตาตื่นใจด้วยน้ำแข็งแห้ง พร้อมขวดแก้วขนาดเล็กใส่น้ำหวานสีต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกสรร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นเอง ขณะเดียวกันเครื่องดื่มพื้นฐานก็มีเช่นกัน ภายในร้านมีที่นั่งประมาณ 80 ที่นั่ง
“จากการที่ร้านเราเปิดในย่านมหาวิทยาลัยลูกค้าหลักจึงเป็นเด็กนักศึกษาเกือบทั้งหมด ดังนั้นในเรื่องสีสันความแปลกใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในเรื่องเมนู และรสชาติที่เรามีกว่า 40 รสชาติ โดยในแต่ละวันจะผลิตออกมาประมาณ 20 รสชาติเท่านั้น ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน แต่ยังคงมีรสชาติทั่วไปที่หลายคนคุ้นเคยอยู่ เช่น ช็อคโกแลต สตรอเบอรี่ วนิลา”
ส่วนจุดเด่นของไอศกรีมอยู่ที่เป็นสูตร Low Fat ลูกค้าสามารถรับประทานได้หลายลูกโดยไม่เลี่ยน ไม่หวานจนเกินไป ขณะที่มีเนื้อผลไม้แบบจัดเต็ม ขายในราคาสกู๊ปละ 39 บาท หรือลูกค้าที่รับประทานเป็นกลุ่มเพื่อนทางร้านก็จัดเซตไว้ให้ มีชื่อเก๋ๆ ให้เรียกขานกัน คือ 'เซเลบ' ราคา 279 บาท ได้ 7 สกู๊ป พร้อมทอปปิ้ง 4 อย่าง ส่วนเซต 'ปาปารัสซี่' มี 5 สกู๊ป ราคา 209 บาท เลือกทอปปิ้ง 3 อย่าง ซึ่งทั้ง 2 เซตนี้สำหรับรับประทานภายในร้านเท่านั้น โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 200 ถาด หรือประมาณ 600 กิโลกรัม/วัน ผลัดเปลี่ยนรสชาติกันไป
หลังจากที่หลายคนชื่นชอบในรสชาติไอศกรีม และไอเดียตกแต่งร้าน ทำให้มีผู้สนใจอยากเปิดร้านลักษณะนี้บ้าง จึงขอซื้อแฟรนไชส์ ทำให้คุณอุ๊กลับมานั่งคิดทบทวนถึงความเป็นไปได้ ศึกษาระบบการบริหารจัดการเพื่อการควบคุมคุณภาพและบริการให้ดีที่สุด ทำให้อนาคตเธอวางแผนธุรกิจนี้ว่า จะเปิดแฟรนไชส์อย่างจริงจังในเร็วๆ นี้ กำหนดเงินลงทุนไว้เบื้องต้นประมาณ 800,000 บาท บนเนื้อที่ 30-40 ตร.ม. พร้อมเพิ่มเมนูไอศกรีมให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยยังคงความแปลกใหม่ไว้เช่นเดิม
***สนใจติดต่อ 08-5444-2995 หรือที่ IG/FB : GELATO44C***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *