“รัชพล แย้มแสง” หรือที่แฟนคลับบ้านนักล่าฝันเรียกติดปากว่า “มิวสิค AF” นอกจากจะมีผลงานในวงการบันเทิงแล้ว อีกอาชีพที่ลงมือทำอย่างจริงจัง คือ เปิดร้าน “ปัง-อบ-นวด” ขายขนมปังชิ้นใหญ่ไส้ทะลักตามเทรนด์ฮิต ชูจุดเด่นคุณภาพยอดเยี่ยมกล้าท้าพิสูจน์ นับเป็นฝันครั้งใหม่ที่อยากตามล่าหาความสำเร็จ
“ร้านนี้เกิดจากกลุ่มเพื่อนสนิทของผมพูดคุยกันว่าพวกเราอยากจะทำร้านขนมปัง เพราะเป็นเทรนด์ฮิต ตลาดกว้าง หลังจากนั้น ก็เริ่มศึกษาหาความรู้การทำขนมปังอย่างจริงจัง รวมถึงทดลองชิมขนมปังของเจ้าอื่นๆ เพื่อนำมาปรับปรุง หาสูตรและรสชาติที่เป็นของเราเอง” มิวสิคเล่าจุดเริ่มของร้าน และเสริมต่อว่า
จุดเด่นของขนมปังร้าน “ปัง-อบ-นวด” คือ เนื้อแป้งจะนุ่มและเหนียวกว่าโดยเฉลี่ยขนมปังประเภทนี้ ซึ่งปัจจัยมาจากส่วนผสมแป้งกับยีสต์ที่คัดคุณภาพดี ซึ่งการใส่วัตถุดิบดังกล่าวต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ ดังนั้น การตั้งราคาจึงอยู่ที่ชิ้นละ 25 บาท ในขณะที่รายอื่นๆ ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 20 บาท
“เรื่องรสชาติและความเหนียวนุ่มของขนมปังผมว่ามันขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งของเราเลือกลักษณะนี้ ซึ่งต้นทุนจะมากกว่า ทำให้ต้องขายสูงกว่าเจ้าอื่น แต่ผมคิดว่าราคาแพงกว่ามันเป็นข้อดี ทำให้เราต่างจากเจ้าอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า ซึ่งผมมั่นใจเรื่องคุณภาพ ถ้าลูกค้าได้ชิมจะถูกใจ ในขณะเดียวกันเราก็มีจัดโปรโมชันซื้อ 4 แถม 1 เท่ากับชิ้นละ 20 บาท ทำให้เรื่องราคาสูงกว่าไม่ได้เป็นประเด็นที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ” เด็กสร้างบ้านเอเอฟระบุ
ร้าน “ปัง-อบ-นวด” มิวสิคร่วมทำกับเพื่อนอีก 3 คน ลงขันเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท แต่ละคนมีหน้าที่ต่างกันไปตามความถนัด อย่างนักร้องหนุ่มอาศัยเป็นคนในวงการบันเทิงรับหน้าที่ดูแลการตลาด โดยเริ่มเปิดตั้งแต่ประมาณต้นปี 2557 ที่ผ่านมา เป็นร้านห้องแถวอยู่ตรงข้ามห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน มีทั้งหมดเกือบ 30 ไส้ ส่วนใหญ่เป็นไส้พื้นฐานยอดฮิตทั่วไป แต่จะมีบางไส้คิดพิเศษเพื่อเสริมความหลากหลาย เช่น ไส้หมูกะปิ มะพร้าววานิลลา แซลมอนพริกไทยดำ เป็นต้น
“ที่เลือกทำเลนี้เพราะเป็นจุดที่คนต้องมาต่อรถจำนวนมาก และมีลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น พนักงานออฟฟิศ และผู้ใหญ่ สามารถขายได้ทั้งวัน ส่วนการทำตลาดเบื้องต้น ผมจะอาศัยตัวเองเป็นสื่อแนะนำร้าน เช่น กระจายข่าวผ่านแฟนคลับ และใช้สังคมออนไลน์สื่อสารกับลูกค้า เช่น โพสต์รูปกิจกรรมร้าน นอกจากนั้นผมยังแต่งเพลงประจำร้านเอง และทำมิวสิกวิดีโอโปรโมตร้านเองอีกด้วย ซึ่งการที่เราเป็นคนในวงการยอมรับว่ามันเป็นข้อได้เปรียบทำให้คนรู้จักธุรกิจเร็ว อีกทั้งชื่อของเราก็ช่วยการันตีคุณภาพ เมื่อลูกค้ามาลองชิมแล้วรู้สึกว่ามันอร่อยจริง ก็ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสติดตลาดมากกว่า”
มิวสิคเล่าต่อว่า นับแต่เปิดร้านมาประมาณ 6 เดือนได้รับผลตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยยอดขายประมาณ 500-600 ชิ้นต่อวัน อย่างไรก็ตาม ความยากของการทำธุรกิจมาจากหุ้นส่วนทุกคน ล้วนมีงานประจำอยู่แล้ว การดูแลร้านให้สมบูรณ์ทั่วถึง โดยเฉพาะควบคุมพนักงานร้านให้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องนับเป็นเรื่องยากมาก เท่าที่ผ่านมาใช้วิธีหุ้นส่วนทุกคนจะสลับกันเข้ามาดูแลร้านทุกวัน นอกจากนั้น วางระบบคอมพิวเตอร์กำกับด้านบัญชีและสต๊อกสินค้า รวมถึงอาศัยวิธีนับถุงใส่ขนมปังที่ใช้ไปในแต่ละวันเทียบกับรายได้ที่เข้ามาเพื่อป้องกันเงินรั่วไหล
จากผลตอบรับดีดังกล่าว เขาบอกด้วยว่า ขณะนี้ได้เริ่มขยายธุรกิจ โดยเปิดขายแฟรนไชส์ไปแล้ว 2 สาขา ได้แก่ บางกะปิ และ จ.สระบุรี โดยเงื่อนไขร่วมเป็นแฟรนไชส์นั้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 6 แสนบาท แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 1 แสนบาท ที่เหลือเป็นค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เตาอบ กับค่าตกแต่งร้าน โดยสาขาต้องรับวัตถุดิบจากส่วนกลาง ได้แก่ แป้งสด และก่อนเปิดร้านต้องเข้ารับการอบรม ส่วนผลตอบแทน เฉลี่ยแล้วสาขาแฟรนไชส์จะมีกำไรจากยอดขายต่อชิ้นประมาณ 45% (ยังไม่หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าพนักงาน)
มิวสิคบอกด้วยว่า เป้าหมายต่อไป ระยะสั้นพยายามปรับปรุงร้านของตัวเองให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อเป็นร้านต้นแบบให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างแท้จริง ส่วนแผนระยะยาว ต่อไปแบรนด์ “ปัง-อบ-นวด” จะไม่ได้มีเพียงแค่ขนมปังลักษณะนี้เท่านั้น แต่จะขยายไปสู่เบเกอรีชนิดอื่นๆ รวมถึงอยากทำเป็นชุดอาหารกล่อง เพื่องานจัดเลี้ยง สัมมนาต่างๆ ส่วนตัวเชื่อว่าหากไปถึงจุดนั้น ธุรกิจจะเกิดความยั่งยืน
โทร. 09-4665-2966, 08-7797-6666 หรือ FB:pungobnuad , IG:pungobnuad
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *