สมัยนี้อายุเป็นเพียงตัวเลข ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นเด็กรุ่นใหม่ในวัย 30 นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สิ่งเหล่านี้เกิดจากมุมมอง และการกล้าลงทุนเมื่อเห็นโอกาสที่พุ่งเข้ามา บวกธุรกิจพื้นฐานของครอบครัว ทำให้ล่าสุดเกิดคอมมูนิตีมอลล์แห่งใหม่ขึ้นย่านบางบอน “เดอะทรี บางบอน” แม้จะเป็นชื่อใหม่ยังไม่คุ้นหู แต่กลับสร้างความต่างเหนือคู่แข่งด้วยมุมมองเจาะลึกความต้องการผู้บริโภค
เมธนี ชัยขจรเดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทูบี แอสเซทส์ จำกัด วัยเพียง 32 ปี เล่าว่า ตนและครอบครัวที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มาหลายปีเล็งเห็นศักยภาพของที่ดินย่านบางบอน ซอยเพชรเกษม 69 เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ประชากรมีกำลังซื้อสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร ดังนั้นหากพัฒนาที่ดินผุดเป็นคอมมูนิตีมอลล์ขนาดกะทัดรัด แต่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้ตรงจุด น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว
ประกอบกับพื้นที่บริเวณถนนเพชรเกษม และบริเวณโดยรอบถนนเอกชัย-บางบอน การจราจรค่อนข้างแออัด การเดินทางไปจับจ่ายซื้อสินค้า หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปรับประทานอาหารจึงค่อนข้างลำบาก แม้พื้นที่นี้จะห่างจากบิ๊กซีเพียง 3 กม. และห้างเดอะมอลล์ บางแค 10 กม. ก็ตามแต่กลับใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติมาก
จากปัญหานี้เองทำให้เมธนีตัดสินใจเปิดคอมมูนิตีมอลล์แห่งใหม่ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “The Tree Bangbon” (เดอะทรี บางบอน) บนเนื้อที่ 6 ไร่เศษ สร้างทางเลือกใหม่แก่คนในชุมชน เพิ่มความสะดวกสบาย หลีกเลี่ยงความแออัดจากรถติด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Tree Lifestyle Neighborhood Mall : เล็ก ครบ ร่มรื่น สะดวก เข้าถึงง่าย”
“แม้เราจะเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่ก่อนลงมือดำเนินธุรกิจนี้ก็ได้มีการจัดทำผลสำรวจความต้องการ และพฤติกรรมผู้บริโภคในละแวกนั้นว่ามีความต้องการอะไรเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเราพบว่าร้านอาหารที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นห้องแอร์เป็นสิ่งสำคัญ ครั้นจะให้เดินทางไปเดอะมอลล์ บางแค น่าจะไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป ดังนั้นเมื่อเราสร้างเดอะทรีก็ให้ความสำคัญเรื่องร้านอาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยสินค้าประเภทบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ไปรษณีย์ สปา และซูเปอร์มาร์เกต เป็นต้น โดยคนทุกเพศ ทุกวัย สามารถมาใช้บริการได้”
'เล็ก แต่ครบ' เป็นสโลแกนที่ผู้บริหารเดอะ ทรี บางบอน เน้นย้ำอยู่เสมอ พร้อมเน้นความร่มรื่น หวังให้กลายเป็นจุดนัดพบ และจุดศูนย์กลางงานกิจกรรมต่างๆ ให้แก่คนในชุมชน ทำให้การออกแบบโครงหลังคาคล้ายต้นไม้ใหญ่ ทุกอาคารมีทางเดินเชื่อมถึงกัน ขณะที่พื้นที่ส่วนกลางสร้างผ้าใบสีขาวปกคลุมแสงแดด ร่มรื่นตลอดเวลา เพราะมีสนามเด็กเล่นให้พ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาวิ่งเล่นได้ โดยมีพื้นที่จอดรถยนต์ได้ 150 คัน และจักรยานยนต์อีก 40 คัน
สำหรับการจัดสรรพื้นที่ให้บริการแก่ลูกค้าบนเนื้อที่ขายประมาณ 2,500 ตร.ม. มีร้านค้าให้บริการแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ 1. Food & Beverage, Supermarket ของ Max Value เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และกว่า 10 ประเภทร้านอาหารที่มีความหลากหลาย โซนที่ 2 Kids & Education โซนสำหรับเด็ก ได้แก่ โรงเรียนเสริมวิชา, กวดวิชา, สอนดนตรี, สอนภาษา, ร้านของเล่นและเสื้อผ้าเด็ก โซนที่ 3 Health & Beauty โซนความสวยความงาม เอาใจผู้รักสุขภาพและความสวยงาม เช่น ร้านทำผม, ร้านทำเล็บ, Spa, นวดแผนไทย, เสริมความงาม และโซนที่ 4 Life Style Retail ได้แก่ ร้านทอง, ร้านแว่น, ร้านดอกไม้, ร้านขายยา, สารพัดบริการ, ล้างรถ หลักๆ จะมีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 60 ร้านค้า โดยค่าเช่าพื้นที่เริ่มต้นที่ 400-750 บาท/ตร.ม./เดือน
อนาคตทีมผู้บริหารเดอะทรี บางบอน มีโครงการจะซื้อที่ดินบริเวณข้างเคียงเพิ่มเพื่อเพิ่มธุรกิจด้านบริการ เช่น ฟิตเนส, กรูมมิ่ง, ธนาคาร และศูนย์บริการมือถือทั้ง 3 ค่าย เพื่อความครบวงจรที่ลูกค้ามาที่เดียวสามารถอยู่ได้ทั้งวัน โดยไม่จำเป็นต้องมารับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว แต่มาใช้บริการอื่นๆ ได้ ซึ่งก้าวต่อไปของเดอะทรีฯ จะวางตำแหน่งเป็นศูนย์รวมด้านการศึกษาด้วย หลังได้พันธมิตรที่ดีจากสถาบันสอนภาษาต่างๆ เช่น H igh Plus เสริมภาษาอังกฤษ, อาอิวัง สร้างเสริมวิชาคณิตศาสตร์, 45 Music Academy, Artino Art School, เพียรรัตนา สอนเสริมวิชาภาษาจีน, The Gate Study โรงเรียนกวดวิชา, ติวภาษาญี่ปุ่น, ร้านเครื่องเขียน เพื่อนเรียน, ร้าน Dream Kids Accessories for kids, ร้านของเล่น Kid Town Thailand เป็นต้น
เรียกได้ว่าเป็นคอมมูนิตีมอลล์น้องใหม่ที่ขอเกาะกระแสเมืองใหญ่ขยายสู่ชานเมือง สร้างความต่าง 'เล็กแต่ครบ' ได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์วิถีชุมชนได้ตรงจุด
***สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 09-0409-9955, 09-0409-8989 หรือที่ www.thetreebangbon.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


