ต้องออกตัวก่อนว่าเรื่องราวที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้คุณรวยขึ้น หรือสร้างผลกำไรจาก “ตู้แลกเหรียญ” นี้ ไม่มีส่วนต่างที่ได้จากการแลกเหรียญ หรือเงินส่วนเกินใดๆ ทั้งสิ้น แต่มันเป็นตู้แห่งความมีน้ำใจ เพราะเอื้อธุรกิจตู้หยอดเหรียญที่มันยืนเคียงข้างให้รวยขึ้น!
จากอัตราการเติบโตของธุรกิจหยอดเหรียญมานานนับสิบปี จนตอนนี้หลายคนมองว่าถึงจุดอิ่มตัวจากรายได้ของผู้ประกอบการที่น้อยลง รวมถึงจำนวนธุรกิจนี้ก็มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง แต่หากถามผู้ที่คร่ำหวอดในวงการนี้ คำตอบที่ได้กลับสวนทาง จากเหตุผลที่ผู้คนลดจำนวนการใช้งานลงมาจาก “ไม่มีเหรียญให้แลก”...
เมื่อปัญหาเกิดต้องแก้ไข ทีมงาน บริษัท เซอร์บ็อกซ์ จำกัด “ชนินทร์ ปิ่นแก้ว” R&D Manager และ “กิตติศักดิ์ รักธรรม” Production Manager สองเพื่อนซี้และหุ้นส่วนธุรกิจจึงคิดค้นและพัฒนา “แสนดี (Sandee) ตู้แลกเหรียญ” ขึ้น อาศัยประสบการณ์และความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ร่ำเรียนมาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มาปรับใช้ในธุรกิจ
ย้อนกลับไปก่อนที่ธุรกิจตู้แลกเหรียญจะเริ่มขึ้น นายชนินทร์ได้เป็นหนึ่งในทีมผลิตเครื่องเติมเงินมือถือในยุคแรกๆ ทั้งที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ กระทั่งเรียนจบก็พบว่าธุรกิจตู้ที่มีเหรียญเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นยังมีช่องโหว่ แม้ภาพรวมภายนอกจะสามารถทำงานและทำเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงคือ “ไม่มีเหรียญ” ให้หยอดเพื่อใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนทั้งที่ความต้องการยังมี เห็นได้ชัดกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญตามหอพักนักศึกษา เด็กเหล่านี้จะใช้เวลากลางวันเรียนหนังสือ กลางคืนอ่านหนังสือ ติวกับเพื่อน และเป็นเวลาที่หลายคนคิดจะซักผ้า
ดังนั้นไอเดีย “ตู้แลกเหรียญ” จึงเกิดขึ้น นำร่องนำไปวางเคียงข้างเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญตามหอพักนักศึกษา พร้อมเก็บสถิติการใช้งาน ผลปรากฏว่าเครื่องซักผ้าทำงานได้เกือบ 24 ชั่วโมง ยอดการใช้งานช่วงกลางคืนเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบันในตลาดมีตู้ที่ต้องใช้เหรียญกว่า 4 แสนตู้ และมากกว่า 20,000 จุดให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ
สำหรับความพิเศษของ “ตู้แลกเหรียญ แสนดี” นั้นอยู่ที่ความง่ายในการใช้งาน โดยธนบัตรลงไปเหรียญ 10 บาทก็จะออกมา ขณะที่การซ่อมบำรุงก็เลือกใช้อุปกรณ์ที่ปรับเปลี่ยนง่าย ไม่สร้างความลำบากให้เจ้าของธุรกิจ รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกก็ดูดี มีสไตล์ ราคาไม่สูงจนเกินไปเพียง 29,000 บาทเท่านั้น ภายในบรรจุเหรียญสิบได้ 1,250 เหรียญ คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการหยอดเหรียญโตขึ้น และเพียงแค่ระยะเวลาเพียง 4 เดือน เขาขายตู้แลกเหรียญไปได้แล้วกว่า 200 ตู้
ไม่เพียงแต่ในไทยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการหยอดเหรียญจะได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า ลาว อินโดนีเซีย ก็ถือเป็นตลาดที่น่าลงทุน ในช่วงเวลาที่สอดคล้องไปกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เช่น พม่า ลาว โอกาสการลงทุนอีกประมาณ 4-5 ปี ขณะที่อินโดนีเซียก็มีผู้สนใจนำไปตั้งคู่กับเครื่องซัก อบ รีดอัตโนมัติ
อนาคตทางทีมงานเตรียมหาตัวแทนจำหน่ายตู้แลกเหรียญตามต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่สนใจ และความรวดเร็วในการซ่อมบำรุง โดยเฉพาะขั้นตอนการติดตั้งต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญรู้จักความแข็งของเนื้อปูนบริเวณนั้นๆ เป็นอย่างดี เพราะถ้าพื้นปูนไม่แข็งแรงพออาจทำให้ตู้ล้มและง่ายต่อการโจรกรรม บางครั้งต้องให้ผู้ประกอบการเทพื้นปูนใหม่เพื่อทำการติดตั้ง และขณะเดียวกันจะพัฒนาให้แลกเหรียญชนิดอื่นๆ ได้ด้วย อย่าง เหรียญ 5 บาท ตามคำเรียกร้องของลูกค้าที่จะนำไปตั้งหน้าห้องน้ำโดยไม่ต้องจ้างคนเฝ้า
นับเป็นไอเดียการต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เดิมออกมาได้อย่างงดงาม ถึงแม้ตัวธุรกิจเองจะไม่ส่งผลกำไร แต่หากมองในระยะยาวถือว่าคุ้มค่ามากจากการเอื้อให้ธุรกิจอื่นรวยได้...
***สนใจติดต่อ 08-9816-6130, 09-1819-9110, 08-4633-0924 หรือที่ www.cirbox.co.th***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *