xs
xsm
sm
md
lg

เจาะประสบการณ์ 'ทายาทเดอะมอลล์' พลิกผืนผักปฏิวัติเกษตรไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ชยะพงส์ นะวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ-เบสท์ จำกัด ทายาทเดอะมอลล์ กรุ๊ป
เด็กรุ่นใหม่น้อยคนรักที่จะมุ่งมั่นกับงานเกษตร และยิ่งเป็นเด็กวัยเพียง 25 ปี ยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ สนใจในเทคโนโลยี แต่สำหรับทายาทเดอะมอลล์ กรุ๊ป เห็นการเฟ้นหาพืชผักคุณภาพดีมาขายให้ลูกค้า กลับมองเป็นเรื่องสนุก คิดนำเทคโนโลยีพัฒนาระบบเกษตรไทยยั่งยืน

“ผมเป็นนักการเกษตรรุ่นใหม่” เป็นคำกล่าวของ 'ชยะพงส์ นะวิโรจน์' กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ-เบสท์ จำกัด เด็กหนุ่มไฟแรงทายาทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จบเศรษฐศาสตร์ จากสหรัฐอเมริกา ที่หันมาเอาดีทางด้านการเกษตร หลังพบว่านับวันคนหนุ่มคนสาวจะหันหลังให้กับภาคการเกษตรกันมากขึ้นจากความยากลำบาก ทุกอย่างควบคุมยากโดยเฉพาะเรื่องดินฟ้า อากาศ และภัยธรรมชาติ รายได้ไม่คุ้มเสีย กลายเป็นภาพชินตากับผู้ใหญ่วัยกลางคนที่ยังยึดอาชีพนี้อยู่

ด้วยความที่คลุกคลีกับพืชผลทางการเกษตรมาตลอดตั้งแต่จำความได้ เพราะครอบครัวดำเนินธุกริจห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และหนึ่งภาระกิจที่สำคัญ คือ เฟ้นหาพืชผักตามแหล่งค้าส่ง แปลงปลูกผักขนาดใหญ่ รวมถึงมีฟาร์มเป็นของตัวเอง “ไร่ฟ้าประทาน” อ.วังเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อนำผลผลิตมาจำหน่ายให้แก่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ภายใต้บริษัท เอ-เบสท์ จำกัด

“ผมมองว่าคนรุ่นใหม่เริ่มหันหลังให้ภาคการเกษตร แล้วในอีก 15 ปี ข้างหน้าใครจะผลิตอาหารให้พวกเรากิน ทั้งที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบกว่าหลายประเทศ ซึ่งน่าเสียดายหากคนไทยต้องซื้ออาหารจากต่างประเทศนำเข้ามารับประทาน ดังนั้นหากสามารถทำการเกษตรให้เป็นอุตสาหกรรม มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จัดระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน น่าจะทำให้งานด้านการเกษตรง่ายขึ้น และคนรุ่นใหม่จะกลับมาให้ความสำคัญอีกครั้ง”

เมื่อต้องเข้ามารับหน้าที่บริการจัดการ บริษัท เอเบสท์ จำกัด เขายอมรับว่า ช่วงแรกไม่รู้เรื่องการเกษตรมากนักมีคำถามมากมาย แต่ความมุ่งมั่นเกินร้อยอยากทำให้ “ภาคการเกษตรกลายเป็นอุตสาหกรรม” ให้ได้! เขาเริ่มลงพื้นที่เข้าถึงแหล่งค้าส่งพืชผักขนาดใหญ่ อย่าง ตลาดไท นำแนวคิดด้านเศรษฐศาสตร์มาปรับใช้ ให้การการเกษตรแบบดั้งเดิมกลายเป็นอุตสาหกรรม ที่หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องยาก เพราะกำลังเล่นอยู่กับ 'ของสดที่มีอายุสั้น'

แต่เขากลับคิดว่าแล้วทำไมองค์กรใหญ่อย่าง ซีพี ยังจัดสรรอาหารหลากหลายชนิดกลับทำได้ ขณะที่ผักผลไม้ยังไม่มีใครทำ ทั้งที่เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคนไทยและนิยมบริโภคกันอยู่แล้ว

หัวใจหลักคือการสร้างตลาดที่เข้มแข็ง เพื่อให้ผักที่ปลูกมีแหล่งกระจายสินค้า แต่จะไปกำหนดราคาขายเท่าเดิมตลอดกาลคงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับฤดูกาล แถมบรรดาพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง ยังไม่ยอมตกลงราคารับซื้อเท่าเดิมตลอดทั้งปี ขอปรับเปลี่ยนราคาทุกสัปดาห์ หรืออย่างมากก็แค่ 1 เดือนเท่านั้น

ปัญหาเกิด...แต่เขายังเชื่อมั่นในความคิด ที่เชื่อว่าต้องมีคู่ค้าที่ต้องการรับซื้อผักราคาเดิมตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลเมื่อราคาผักพุ่งสูง บริษัทแรกที่สนใจข้อเสนอของเขา คือ เอ็มเคสุกี้ จัดส่งผักบุ้งให้ โดยเขาไปซื้อผักบุ้งจากเกษตรกรมาในราคา 12 บาท/กิโลกรัม แต่เมื่อพายุเข้าทำลายแปลงปลูกผักที่เคยดิวไว้ทั้งหมด เขาต้องไปตระเวนหาผักบุ้งจากรายอื่นมาส่งให้ เพราะไม่ต้องการทำผิดสัญญา ซึ่งเขาต้องแบกรับต้นทุนที่สูงถึงกิโลกรัมละ 44 บาท! ทุนหายกำไรหด บริษัทฯ เกือบเจ๊งด้วยน้ำมือเขาจากชั่วโมงบินที่น้อยเกินไป

เขาต้องกลับมาจัดกระบวนทัพใหม่ กำหนดราคาเป็นรายไตรมาส ตามช่วงฤดูกาล หรือประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น และกลายเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับเงื่อนไขเวลาค้าขายพืชผลทางการเกษตร

แผนต่อไปเขาพุ่งเป้าไปที่ผลไม้ โดยมองว่า ปัจจุบันมีการนำจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ผลไม้นอกชักแถวเข้าห้างกันเป็นว่าเล่น ขณะที่ผลไม้ไทยกลับล้นตลาดทุกปี แต่ผู้ประกอบการกลับมองข้ามสินค้าที่เน่าเสียง่าย อายุสั้นไม่ต่างจากพืชผักเมื่อเกิดการเน่าเสีย เพราะนั่นคือต้นทุนและผลกำไรล้วนๆ

แต่กล้วยหอมโดล (Dole) กลับทำได้ ส่งขายเซเว่นกินกันเพลิน เด็กหนุ่มทายาทธุรกิจเดอะมอลล์ กรุ๊ปไม่รอช้า ตั้งเป้านำผลไม้ไทยเข้าร้านสะดวกซื้อบ้างแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ถนัด ครอบครัวไม่เคยปลูกกล้วยหอม เชี่ยวชาญแต่การปลูกผักบางชนิด เขาจึงต้องลุยเข้าสวนกล้วยพูดคุยกับเกษตรกร ระบุสเปคที่ต้องการ และนำมาบ่มเองประมาณ 40 ชั่วโมง จึงส่งขายให้เซเว่น ด้วยน้ำหนักต่อลูกประมาณ 120 กรัม แต่ไม่เกิน 140 กรัม ผิวต้องเหลืองสวย ไม่มีตำหนิ ซึ่งเกษตรกรก็สามารถทำให้ได้

ครั้งแรกเขาส่งกล้วยให้เซเว่นกว่า 4,000 ลูก วันที่สองส่งอีก 300 ลูก ยอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนสาขาที่เซเว่นกระจายกล้วยหอมเพิ่ม ขณะนี้กล้วยหอมของบริษัทฯ เข้าไปแชร์ตลาดในเซเว่นได้แล้วกว่า 93% กลายเป็นบทพิสูจน์ว่าคนไทยก็ทำได้ ไม่ต้องให้ต่างชาติมายึดอาชีพเกษตรกรไทย แต่ต่อไปเขาจะต้องพยายามทำเครื่องบ่มกล้วยหอมให้ได้คุณภาพ 100% ไม่ให้เกิดการสูญเสีย

ส่วนเรื่องผักก็ยังไม่ทิ้ง เขาสำรวจว่าขณะนี้ผักชนิดใดจากจีนที่กำลังตีตลาดไทย 'สลัดแก้ว' เป็นผักที่กำลังนำเข้ามาจากจีนเป็นจำนวนมาก โดยเขาคิดว่าสามารถแย่งชิงตลาดกลับมาได้ นำร่องที่ไร่ฟ้าประทาน ก็ปลูกสลัดแก้วได้ หรือเบเบี้ไต้หวัน ผักเหล่านี้เขามั่นใจจะทำตลาดแข่งกับผู้นำเข้ารายใหญ่ได้

แม้เด็กหนุ่มไฟแรงจะเพิ่งมือเปื้อนดิน เท้าเปื้อนโคลน เพียงไม่กี่ปี แต่แววตาที่มุ่งมั่นกับการเกษตรแนวใหม่ ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่หลายคนต้องจับตามองและเป็นกำลังใจให้ทายาทเดอะมอลล์ กรุ๊ปคนนี้...
กำลังโหลดความคิดเห็น