แค่ผ้าพันคอผืนเดียวคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านำมาผูกในสไตล์ทั่วไปแบบคุ้นตา แต่วันนี้สามารถผูกได้กว่า 25 แบบ จากแพตเทิร์นการตัดเย็บให้ผ้าพันคอธรรมดาผูกได้ไม่ซ้ำในแต่ละวัน กลายเป็นผู้ประกอบการรายแรกในไทยกับไอเดียประยุกต์ผ้าพันคอผูกง่ายดั่งใจกับ ”Easy scarf”
อดีตครีเอทีฟสาว “นริศรา กำเนิดเสนา” ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจ “ผ้าพันคอ Easy scarf” อาศัยความชอบในเรื่องออกแบบ นำผ้าพันคอธรรมดามาประยุกต์ให้พันได้หลากหลายสไตล์ โดยเธอเล่าที่มาธุรกิจนี้ให้ฟังว่า เดิมทำงานอยู่ในวงการครีเอทีฟ ประชาสัมพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานบริหารด้านงานโฆษณา ทำให้มีพื้นฐานในเรื่องออกแบบ และโดยส่วนตัวเป็นคนชอบวาดรูป สนใจสินค้าประเภทที่มีเรื่องของไอเดียเข้ามาเกี่ยวข้อง
กระทั่งน้องสาวที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ได้นำผ้าพันคอที่ผูกได้ 3-4 แบบมาให้ดู ใช้วิธีการสอดตามที่ออกแบบไว้ เธอรู้สึกว่าน่าจะทำได้มากกว่านี้ จึงลองตัดแพตเทิร์น พร้อมเลือกใช้ผ้าไหมซาตินคุณภาพดีมาตัดเย็บ และทดลองขายได้ประมาณ 2 ล็อต ได้รับคำติชมจากลูกค้ามากมาย นำมาปรับปรุงแก้ไข จนลงตัวที่ผ้าพันคอ Easy scarf อย่างในปัจจุบัน
“เราลองออกแบบผ้าพันคอใหม่ โดยเย็บช่องสำหรับสอดปลายผ้าเพื่อให้ผูกง่ายขึ้น แถมยังผูกได้หลายแบบตามแต่โอกาสการใช้งาน แรกๆ ก็ผูกได้ประมาณ 10 กว่าแบบ แต่ตอนนี้ได้กว่า 25 แบบแล้ว (ในเว็บไซต์สอนวิธีการผูกที่มากกว่า) จากผ้าพันคอผืนเดียวกันที่มีการปรับขนาดให้เหมาะสมกับคนเอเชีย นอกจากนี้ยังสามารถนำมาผูกผม กระเป๋า และหมวกได้ง่ายๆ ไม่ต่างกับการนำมาทำเป็นผ้าพันคอ”
จากเทคนิคการออกแบบที่สามารถผูกได้หลายแบบแล้ว จุดขายอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าของ Easy scarf บอกว่าไม่ควรมองข้ามคือ เนื้อผ้าต้องนิ่ม ไม่ระคายเคืองผิว สีไม่ซีดจาง ไม่ยับง่าย และต้องไม่ลื่นจนเกินไปเพราะจะทำให้หลุดง่าย ซึ่งผ้าไหมซาตินเหมาะสมที่สุด โดยนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ขณะที่ลวดลายของผ้าก็สำคัญ ต้องครอบคลุมกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหาร พนักงานออฟฟิศ ที่ต้องแต่งกายให้ดูดี น่าเชื่อถือ และสื่อถึงความเป็นผู้นำ หากนำผ้าพันคอมาผูกเข้ากับชุดยูนิฟอร์มหรือชุดทำงานจะทำให้ดูภูมิฐานขึ้น
โดยลายยอดฮิต คือ ม้าลาย และลายเสือ ส่วนผ้าโทนดำจะต้องมีไว้เพราะขายได้ตลอดเนื่องจากเข้ากับเสื้อผ้าได้ง่าย ส่วนสีฉูดฉาดยอดขายจะรองลงมา นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจ Easy scarf ยังรับตัดผ้าพันคอยูนิฟอร์มตามองค์กรต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะธนาคารจะเป็นลูกค้าหลัก โดยนำผ้ามาให้ก็สามารถทำได้ ใช้เวลาตัดเพียง 2 วันก็รอรับสินค้าได้เลย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่พอใจมากเพราะไม่ต้องเสียเวลากับการผูกผ้าพันคอในทุกๆ วัน
ปัจจุบันผ้าพันคอ Easy scarf ไม่มีหน้าร้าน อาศัยตระเวนออกบูทตามห้างสรรพสินค้า หรืองานแสดงสินค้าต่างๆ มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งเธอบอกว่าเป็นหน้าร้านที่ดี เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุน แถมยังเหมาะต่อสินค้าของเธอที่ต้องอาศัยการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ฉะนั้นการไปหาลูกค้าเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยราคาเริ่มต้นที่ 189 บาท/ผืน ขายได้วันละหลายร้อยผืน จากลูกค้าที่ซื้อไปใช้เอง และนำไปเป็นของขวัญของฝาก โดยทางร้านได้ออกแบบกล่องกระดาษสำหรับใส่ผ้าพันคอให้ดูดีขึ้นด้วย
หากไม่หยุดคิด เห็นสินค้าอะไรก็นำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่า น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย เหมือนอดีตพนักงานประจำรายนี้ที่มีความสุขกับผ้าพันคอ “Easy scarf” ของเธอ
***สนใจติดต่อ 08-1889-2151 หรือที่ www.easyscarf.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
