โอกาสที่ได้รับบวกความสามารถที่มีก่อเกิดเป็นความสำเร็จบนเวทีค้นหาสุดยอดนักชงกาแฟมือพระกาฬ ในงานไทยแลนด์ อินดี้ บาริสต้า แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 5 ของ 'อโรม่า กรุ๊ป' รางวัลตกเป็นหนุ่มเจ้าของร้าน “A Cup Coffee” ที่เคยลงแข่งขันครั้งที่แล้วกลับตกรอบมาวันนี้ขอสู้ต่อกลายเป็นแชมป์ แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือประสบการณ์ และเปิดโลกกว้างวงการกาแฟมาต่อยอดธุรกิจ
จากอดีตหนุ่มออฟฟิศ ผันตัวเองมาจากเปิดร้านกาฟ “A Cup Coffee” เป็นของตัวเอง โดยมีจุดเด่นที่รถกาแฟสดเคลื่อนที่จอดตามแหล่งท่องเที่ยว และย่านออฟฟิศ “นายสุขพัฒน์ ปิยะมาดา” เจ้าของร้าน บอกว่าด้วยความที่เป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟมาก เมื่อตัดสินใจลาออกจากงานประจำคิดมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อย่างแรกที่คิดถึงคือร้านกาแฟสด เขาจึงเริ่มศึกษาข้อมูลอย่างจริงจังเลือกวัตถุดิบที่คิดว่าดีที่สุดเสิร์ฟลูกค้า
ณ เวลานั้นเขาคิดว่า ความรู้ด้านวงการกาแฟไม่น้อยหน้าใคร ไม่ว่าจะเป็นความรู้สายพันธุ์กาแฟ การชง เครื่องกาแฟ เทคนิคต่างๆ แต่แท้จริงแล้วข้อมูลเหล่านั้นถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญวงการระดับโลกที่หลายชาติหล่อหลอมวัฒนธรรมการดื่มกาแฟมายาวนานกว่าไทย
สิ่งเหล่านี้เขามาค้นพบ เมื่อเข้าร่วมเวทีค้นหาสุดยอดนักชงกาแฟ หรือบาริสต้า ที่ทางอโรม่า กรุ๊ป จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี กับงาน “ไทยแลนด์ อินดี้ บาริสต้า แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 5” รอบแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ โดยร่วมกับสมาคมกาแฟและชาไทย และผลิตภัณฑ์นกเหยี่ยวฟอลคอน (Folcon) ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อพัฒนาวงการกาแฟไทยให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล รวมถึงเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ เพื่อให้เป็นเมนูพิเศษของร้านกาแฟที่ไม่ซ้ำใคร
สุขพัฒน์ ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันโครงการดังกล่าว หลังจากเปิดร้านมาประมาณ 3 ปี การประกวดครั้งแรกเขาต้องผิดหวัง จากการเตรียมตัวที่น้อยมาก กลับมาฝึกปรือฝีมือใหม่ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการชงต่างๆ ศึกษาความรู้ด้านกาแฟทั่วโลกมากขึ้น กลับมาใหม่อีกครั้งด้วยความหวังและกำลังใจเต็มเปี่ยม สุดท้ายรางวัลแชมป์ ออฟ เดอะแชมป์ ก็ตกเป็นของเขา
“ตอนที่ผมเปิดร้านกาแฟตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว เราก็มั่นใจระดับหนึ่งในเรื่องความรู้ด้านกาแฟสด แต่เมื่อเข้าไปแข่งขันบนเวทีบริสต้า ของอโรม่า กรุ๊ป กลับทำให้ผมรู้ว่าความรู้ที่มีมันน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ รวมถึงเทคนิคต่างๆ จากคณะกรรมการที่ติชมเข้ามา ผมจึงกลับมาตั้งรับใหม่เตรียมพร้อมเต็มที่ สิ่งเหล่านั้นก็ได้มาเป็นรางวัลแชมป์บาริสต้ากลับมาครองสมใจ”
เมนูเด็ดที่ทำให้สุขพัฒน์ ได้รางวัลนี้มาครอง คือ Honey Moon Coffee เป็นเมล็ดกาแฟจากกัวเตมาลา ให้กลิ่นคล้ายผลไม้ และออกเป็นกลิ่นช็อคโกแลตเล็กน้อย กับเมล็ดกาแฟจากเอธิโอเปีย ให้กลิ่นคล้ายไวน์ เลมอน บลูเบอรี่ เมื่อนำมาผสมกันจะกลายเป็นกาแฟที่มีกลิ่นและรสชาติคล้ายผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว พร้อมความหวานจากน้ำผึ้ง ที่ได้จากเกสรผึ้งฝรั่งเศส ดื่มแบบเย็นจัด 1 ช็อตเพิ่มความสดชื่น
ปัจจุบัน Honey Moon Coffee กลายเป็นเมนูเด่นของทางร้านไม่ซ้ำใคร โดยช่วงนี้เป็นโปรโมชั่นขายเพียงแก้วละ 60 บาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับต้นทุนที่แท้จริงแล้วเรียกว่า 'ไม่คุ้มเลย' เลย แต่เขาบอกว่า ต้องการให้คนไทยได้สัมผัส และเปิดประสบการณ์ใหม่แก่วงการกาแฟที่ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ส่วนเมนูอื่นๆ ราคาเริ่มต้นที่ 40-70 บาท เช่น ชา กาแฟ เมนูสมูทตี้
แม้ A Cup Coffee จะมีจุดกำเนิดมาจากรถกาแฟเคลื่อนที่ อยู่ใน จ.ชลบุรี แต่เขายังมีหน้าร้านที่กรุงเทพฯ ด้วย ในตึกปัญจภูมิ ชั้น G ติดกับปากซอยสาทร 5 ถนนสาทรใต้ เน้นจุดขายเป็นกาแฟแบบ premium take-away coffee คือกาแฟคุณภาพดี แบบถือนำกลับ ส่วนรถกาแฟจะตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ ลูกค้าต้องคอยติดตามข้อมูลในเฟสบุค acup2009 ที่เขารับประกันว่าชงทุกแก้วด้วยใจ โดยฝีมือแชมป์บาริสต้าที่ยังต้องใฝ่หาความรู้ด้านกาแฟอย่างต่อเนื่อง
***สนใจติดต่อโทร. 08-8681-2020 หรือที่ Facebook : acup2009***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
