คำว่าเทคโนโลยี หากนำมาใช้โดยไม่มีการต่อยอดก็คงเป็นเพียงเครื่องมือที่ใครๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการหนุ่มไฟแรงเจ้าของบริษัท “ดีสมาร์ท โซลูชั่น” รู้ดี ดังนั้นเมื่อคิดจะทำธุรกิจเกี่ยวกับไอทีต้องมีความแตกต่าง ก้าวล้ำกว่ารายอื่น แม้จะเป็นแค่เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่หลายคนคุ้นเคยก็ตาม
ปัจจุบันอุปกรณ์ด้านไอทีมีขายอยู่เกลื่อนเมือง ทั้งเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ประตูเลื่อนอัตโนมัติ เครื่องทาบบัตร เครื่องกั้นผ่านเข้า-ออก หรือสัญญาณกันขโมย แต่จะทำอย่างไรให้สินค้ามีความแตกต่างจากผู้ประกอบการที่นำเข้าเครื่องมือเหล่านี้และนำไปจำหน่ายต่อ
หัวใจหลักคงอยู่ที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานได้จริงของลูกค้า รวมถึงราคาก็ต้องไม่สูงเกินไปนัก โจทย์เหล่านี้บริษัทฯ สามารถปลดล็อกได้หมดภายใต้การบริการธุรกิจของ “นายฐิติกร รักไทย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีสมาร์ท โซลูชั่น จำกัด หนุ่มวิศวะ เคมี แต่กลับชื่นชอบงานด้านไอทีและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเขาเริ่มจากการเป็นพนักงานบริษัทขายเครื่องสแกนลายนิ้วมือยี่ห้อหนึ่งได้ประมาณ 1 ปี เริ่มมองเห็นลู่ทางในแง่การตลาดเกี่ยวกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ ตัดสินใจเป็นผู้นำเข้าเอง ลงทุนบินไปดูโรงงานผลิตเครื่องสแกนลายนิ้วมือยังต่างประเทศแถบเอเชียด้วยตัวเอง
สะดุดตากับเครื่องสแกนลายนิ้วมือพร้อมกล้องในตัว ที่หากย้อนไปประมาณ 6 ปีที่แล้วยังไม่มีผู้นำเข้าเครื่องลักษณะนี้ เมื่อเขานำเข้ามาก็พัฒนาซอฟต์แวร์ โปรแกรมต่างๆ เพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานของคนไทย เริ่มจากการใช้ระบบ 2 ภาษา (ไทย-อังกฤษ) บันทึกเวลาเข้า-ออก พร้อมใบหน้าพนักงาน ที่ผู้บริหารสามารถดึงข้อมูลมาดูได้ตลอดเวลา ภายใต้แบรนด์ MAX SOLUTION (แมกซ์โซลูชัน) ในรุ่น Smart BT99 Plus ขจัดปัญหาการลงเวลาแทนกัน
นอกจากนี้เขายังได้พัฒนาโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถมองภาพจากกล้องหน้าเครื่องและบันทึกภาพเพื่อดูย้อนหลังผ่านโปรแกรมได้แบบเรียลไทม์ (Real-time Monitoring) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกล้องวงจรปิดและสามารถควบคุมประตูพร้อมเชื่อมต่อกระดิ่งเพื่อตั้งเวลาเปิด-ปิดได้ พร้อมด้วยระบบการปรับปรุงคุณภาพลายนิ้วมืออัตโนมัติ อีกทั้งตัวเครื่องสามารถรองรับลายนิ้วมือได้ 3,000-10,000 ลายนิ้วมือ และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64MB และเพิ่มความจุได้ด้วย Micro SD ถึง 1GB รวมถึงมีหน่วยความจำแสดงผลการจัดเก็บลายนิ้วมือพนักงานผ่านหน้าเครื่อง หรือผ่านอุปกรณ์ USB Fingerprint Reader เพื่อบันทึกผ่านคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยความจำรหัสพนักงานได้มากกว่า 13 หลัก และสามารถใช้ตัวอักษรกับรหัสประจำตัวพนักงานได้
“เครื่องสแกนลายนิ้วมือรุ่น Smart BT99 Plus เหมาะสำหรับติดตั้งในทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงพยาบาล หรือบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทที่มีสาขาย่อยหลายสาขา รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ที่สามารถใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการตรวจสอบและควบคุมประตูในการเข้า-ออกสถานที่ได้เช่นกัน พร้อมรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับระบบกลอนประตูไฟฟ้าต่างๆ และกำหนดสิทธิการผ่านประตูได้อย่างเป็นอิสระ จำหน้าเป็นรายบุคคลได้”
ต่อมาก็มีการนำเข้าเครื่องสแกนลายนิ้วมือรุ่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายแก่ผลิตภัณฑ์ MAX SOLUTION รวมถึงยังเพิ่มทางเลือกในเรื่องราคาให้แก่ลูกค้าด้วย อย่างรุ่น DS-10P ราคา 4,900 บาท รุ่น H5 ราคา 5,500 บาท หรือเครื่องลงเวลาและควบคุมประตูด้วยลายนิ้วมือ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังพัฒนา เครื่องสแกนใบหน้า ระบบกลอนประตูไฟฟ้า ระบบประตูอัตโนมัติ เครื่องลงเวลา รปภ. และเครื่องทาบบัตร เป็นต้น โดยเมื่อมีการนำเข้าเครื่องเหล่านี้นายฐิติกรจะนำมาพัฒนาซอฟต์แวร์ และโปรแกรมใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่งผลให้ที่ผ่านมามีลูกค้าจากองค์กรทั้งรัฐฯ และเอกชนชั้นนำของไทยสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคต นายฐิติกรยังคงไม่ทิ้งงานด้านระบบนิรภัย และการรักษาความปลอดภัย ล่าสุดได้เจรจากับผู้ผลิตฟิล์มนิรภัยรายใหญ่ของโลกอย่าง STEC เป็นผู้ผลิตฟิล์มติดรถยนต์ และอาคารให้ แต่เขานำมาติดแบรนด์เองชื่อว่า Max Guandian ช่วยเพิ่มความแข็งแรงแก่กระจกถึง 400 เท่า จากความหนาของฟิล์ม 14 มม. มากกว่าฟิล์มนิรภัยทั่วไปตามท้องตลาดเกือบเท่าตัว ซึ่งเขาเห็นโอกาสของผลิตภัณฑ์นี้จากข่าวสารบ้านเมืองที่มีเหตุทุบกระจกรถยนต์กันเป็นว่าเล่น คาดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ธันวาคม 2556 นี้
***สนใจติดต่อโทร. 0-2871-9944, 08-9452-5204 หรือที่ www.d-smart.co.th***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *