ใครว่าช่องว่างทางการตลาดสำหรับผลิตประเภทเครื่องดื่ม เริ่มเข้าสู่ทางตัน เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เห็นแต่ร้านกาแฟสด แต่หากมองให้ดีเครื่องดื่มประเภทผสมนมเหล่านี้ยังมีโอกาส หากทำให้เข้าถึงง่าย พร้อมดับกระหายได้ทุกที่ทันใจ อย่างเครื่องดื่มชาบรรจุขวด “ชาตาหนวด” ขอแชร์ตลาดรายใหญ่เจาะลูกค้าชุมชน ซูเปอร์มาร์เก็ตหมู่บ้าน องค์กรรัฐ-เอกชน ขายเครื่องดื่มเย็นเป็นวุ้นท้าลมร้อน
ไอเดียเครื่องดื่มบรรจุขวด พร้อมติดแบรนด์ “ชาตาหนวด” เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาของเด็กหนุ่ม “นายธงชัย ลายเสมา หรือ บาส” ที่อยู่ว่างเป็นไม่ได้ต้องหาอะไรทำ ไม่ให้เวลาปล่อยว่างไปโดยเสียเปล่า เห็นผู้เป็นแม่ (นิภา ลายเสมา) ชงชานม ชาเขียว นมชมพู บรรจุขวดขายในมินิมาร์ทเล็กๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นร้านของตัวเอง หวังเป็นเมนูเสริม แต่รสชาติกลมกล่อมโดนใจลูกค้า ลำพังอยากจะขยายตลาดแต่ติดปัญหาเรื่องคน ผู้เป็นแม่ไม่กล้าเอ่ยปากบอกลูก
ซึ่งลูกชายคนเดียว ก็เห็นโอกาสนี้เช่นกัน ปรึกษามารดาถึงความเป็นไปได้ในการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น เพราะต้องการนำสินค้าไปฝากขายตามร้านขายของที่มีตู้แช่ หรือ ร้านมินิมาร์ท ในละแวกบ้านย่านบางกรวย พร้อมคิดแบรนด์ และออกแบบโลโก้สินค้าเองที่ชื่อว่า “ชาตาหนวด” ที่เพื่อนๆ มักเรียกว่าตาหนวดจากการชอบไว้หนวดของเขานั่นเอง
ความพิเศษของชาตาหนวด จุดขายอยู่ที่รสชาติกลมกล่อม หอมละมุน ของใบชาที่เลือกใช้ ไม่หวานจนเกินไปนัก รวมถึงทุกขวดเขาจะแช่เย็นจนเครื่องดื่มกลายเป็นวุ้น หวังเป็นเครื่องดื่มดับกระหายโดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง แต่ขณะนี้มีเพียง 5 เมนูเครื่องดื่มเย็นให้เลือกสรร แต่ไฮไลท์เมนู 3 รสชาติ ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล คือ ชานมเย็น ชาเขียว และนมชมพู ส่วนอีก 2เมนูเป็นเครื่องดื่มปราศจากนม อย่าง น้ำพั้นท์ (เลือกใช้น้ำส้มสดแมนดารินอย่างดี) และน้ำเก็กฮวย ที่ได้รับความนิยมรองลงมา
เมื่อทุกอย่างลงตัวทั้งรสชาติ กำลังการผลิต และแบรนด์ ก็ถึงเวลาทำตลาดอย่างจริงจัง เขาอาศัยความสนิทกับเพื่อนร่วมคอร์ทแบต ย่านพระราม 5 เปิดตลาดให้ลิ้มลอง และช่วยโปรโมทสินค้าด้วยวิธีปากต่อปาก รวมทั้งนำเสนอสินค้าตามร้านมินิมาร์ทแถวบ้าน เป็นการขายขาด แต่ดูแลคุณภาพเป็นระยะโดยจะเข้าไปนำเครื่องดื่มใหม่ไปเปลี่ยนที่ร้านทุก 2 วันดังนั้นลูกค้ามั่นใจได้ว่าเครื่องดื่มชาตาหนวดสดใหม่แน่นอน ทั้งที่สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน รับประกันว่าไม่มีวัตถุกันเสียอย่างแน่นอน
ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก กับราคาขายส่งเพียง 15 บาท (ขนาด 350 ซีซี) ทำให้กำลังการผลิตเครื่องดื่มชาตาหนวดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน จากเดิมมารดาผลิตประมาณวันละ 60 ขวด แต่ขณะนี้อยู่ที่ 120 ขวด/ วัน แล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจของเด็กหนุ่มวัยเรียน
นอกจากเขาจะบุกตลาดด้วยการเข้าไปหาลูกค้าเองแล้ว การทำตลาดผ่านโซเชียล มีเดีย อย่าง อินสตาแกรม (Instagram) ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่ช่วยในการกระจายสินค้า และให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ทั้งสั่งซื้อเป็นหลักร้อยขวด เพื่อไปใช้ในการประชุมสัมมนา ซึ่งการส่งในระยะที่ไกล จะต้องสั่งในหลักร้อยขวดขึ้นไป
ส่วนแผนธุรกิจอนาคตในแง่การเพิ่มช่องทางจำหน่าย เด็กหนุ่มไฟแรง บอกว่า เล็งนำสินค้าไปขายตามสนามกีฬา เช่น สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล และสนามแบต เพราะเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ รวมถึงการแช่เครื่องดื่มเป็นวุ้นให้ลูกค้าจะช่วยดับกระหายจากการเล่นกีฬาได้ดี นอกจากนี้เตรียมเอกสารเพื่อขอมาตรฐาน อย. (องค์การอาหารและยา) สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และอาจจะช่วยขยายตลาดไปตามโรงพยาบาลได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่ในเรื่องรูปลักษณ์ของสินค้าอาจจะเปลี่ยนเป็นขวดที่ออกแบบเอง แต่ยังคงไว้ที่ขนาด 350 ซีซี เท่าเดิม เพราะส่วนผสมลงตัวแล้ว ส่วนหน้าร้านเป็นแผนต่อไปในอนาคต เป็นคิออส (Kiosk) เล็กๆ มีทั้งเมนูชงสดให้ลูกค้า และแบบบรรจุขวด ที่ยังคงความสดใหม่และรสชาติกลมกล่อมไม่ผิดเพี้ยน
แม้จะเพียงก้าวแรกกับธุรกิจเล็กๆ ของเด็กหนุ่มแต่ถือเป็นก้าวย่างสำคัญ สำหรับการต่อยอดธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ที่เริ่มจากความรักในสิ่งที่ทำ และพร้อมมีความสุขไปกับมัน
***สนใจติดต่อ 08-6905-7147 หรือที่ Instagram : basclubz***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *