เอสเอ็มอีกลุ่มไลฟ์สไตล์เน้นส่งออก เจอหนักบาทแข็ง ต้นทุนพุ่ง ตลาดหด เกิดภาวะสมองไหล หลายรายหันไปทำธุรกิจซื้อมาขายไป เล็งยื่นข้อเสนอภาครัฐเข้ามาอุ้มสร้างเลือดใหม่ทดแทน
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยว่า จากค่าเงินบาทที่แข็งต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าแรงรายวัน และวัตถุดิบปรับเพิ่ม รวมถึงตลาดส่งออกหลายแห่งหดตัว กระทบให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมดีไซน์ และไลฟ์สไตล์หลายรายหันไปทำธุรกิจอื่น ในส่วนสมาชิกของสมาคมฯ ที่มีอยู่ประมาณ 1,500 ราย ปัจจุบันจำนวนกว่า 10% หรือประมาณ 150 ราย ออกจากจากอุตสาหกรรมนี้ไปแล้ว โดยหันไปทำธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะประเภทค้าปลีก ซื้อมาขายไป ซึ่งง่ายและกำไรดีกว่า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวในภาพรวมจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยขาดการผลิตสินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีมูลค่าสูง
“จากการสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเอสเอ็มอีกลุ่มไลฟ์สไตล์ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้ปิดกิจการ แต่เกิดอาการถังน้ำก้นรั่ว คือ หลายรายหันไปทำธุรกิจอื่นๆ เช่น รับสินค้าจากจีนมาขายต่อ ซึ่งทำให้เขาสามารถอยู่รอดได้ ซึ่งภาวะนี้จะทำให้สินค้าของไทยด้อยคุณค่าลง เพราะขาดการสร้างสรรค์” นายจิรบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ พยายามหาแนวทางแก้ปัญหาที่ผู้ประกอบการกลุ่มไลฟ์สไตล์ไหลออกด้วยการเติมคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้ประกอบการทดแทน โดยจะพยายามยื่นข้อเสนอไปยังภาครัฐด้วยการขอให้เชื่อมโยงการสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ากับโครงการที่ภาครัฐมีอยู่แล้ว เช่น กองทุนตั้งตัวได้ เป็นต้น
นอกจากนั้น ประสานกับหลายหน่วยงานเพื่อช่วยสร้างตลาดในประเทศ เชื่อมโยงการผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์กับการท่องเที่ยวไทย และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาหาวัตถุดิบในประเทศ ลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น
อีกทั้งทางสมาคมฯ เตรียมยื่นข้อเสนอไปยังภาครัฐให้เข้ามาช่วยเหลือในการลดค่าธรรมเนียม หรือเข้ามาสนับสนุนจ่ายค่าธรรมเนียมในการซื้อฟอร์เวิร์ด เป็นต้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *