ใครจะคิดว่าธรรมชาติใกล้ตัวสามารถนำมาประยุกต์เป็นเครื่องประดับได้ โดยเฉพาะฝักบัว มะกรูด หรือใยบวบ แต่เด็กศิลป์เห็นคุณค่าของลายเส้นและรูปร่าง จินตนาการสู่เครื่องประดับที่ใช้งานได้จริง สร้างความต่างกับแบรนด์ “พวงดอกไม้ จิวเวลรี”
ธรรมชาติมักสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามให้โลกใบนี้เสมอ อยู่ที่ใครจะสรรค์สร้างให้เกิดประโยชน์อย่างไร สำหรับคนที่รักในงานศิลป์อย่าง “สายน้ำผึ้ง พวงดอกไม้” เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับสมุนไพรพวงดอกไม้ จิวเวลรี เลือกเดินตามฝันหลังเรียนจบเข้าทำงานที่ จิม ทอมป์สัน รับหน้าที่ซ่อมภาพโบราณที่ได้จากวังนานถึง 8 ปี พร้อมศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านจิวเวลรีที่ ม.ศิลปากร เมื่อค้นพบว่าตนเองก็ชอบในงานจิวเวลรีเช่นกัน
ความได้เปรียบในเรื่องความรู้ด้านการวาดภาพ ประกอบกับความชอบจิวเวลรีกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้ สายน้ำผึ้ง เกิดไอเดียนำธรรมชาติใกล้ตัวมาทำเป็นเครื่องประดับ แทนการออกแบบและเลือกใช้วัสดุนำมาเลียนแบบธรรมชาติ
“เราชอบการวาดรูปอยู่แล้ว และชอบเครื่องประดับด้วย จึงลองนำเอาธรรมชาติใกล้ตัวมาออกแบบเป็นเครื่องประดับ อาศัยพื้นฐานที่เรียนมา โดยอย่างแรกที่เลือกคือ มะกรูด เพราะเมื่อนำมาฝานกลางลูก จะเห็นลายเส้นที่สวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีใยบวบ เลือกชิ้นที่มีลายเส้นทับซ้อนกันเยอะๆ เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับจะให้ความสวยแปลกตา”
ชึ้นชื่อว่าวัสดุจากธรรมชาติ ฉะนั้นในเรื่องความแข็งแรงทนทานคงจะสู้วัสดุอื่นๆ ที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงนำมะกรูดมาเพิ่มความแข็งแรงด้วยยูรีเทน ต่อยอดเป็นสร้อยคอส่วนรูปทรงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนใยบวบ จะนำมาตัดขึ้นรูปตามต้องการ และนำมาทำเป็นต่างหู ส่วนฝักบัวขนาดเล็ก ใบไม้แห้ง ดอกบุหงาดินไทย นำมาผสมผสานกับงานทองเหลืองและเพนต์ลายด้วยสีอะคริลิก กลายเป็นเครื่องประดับจากธรรมชาติสวยเก๋ไม่ซ้ำใคร
เมื่อเครื่องประดับจากธรรมชาติเปิดตัวได้อย่างสวยงาม ลูกค้าต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สายน้ำผึ้งก็ต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยเครื่องประดับจากงานเพนต์ ที่เรียกได้ว่า ฝีมือขั้นเทพ เพราะเน้นความละเอียดในเรื่องของลายเส้น ที่ใครพบเห็นก็จะคิดว่าเป็นงานปั๊ม ไม่ใช่งานแฮนด์เมดอย่างแน่นอน
“หลังจากที่เรานำวัสดุธรรมชาติมาทำเป็นเครื่องประดับได้ระยะหนึ่ง การตอบรับดีมาก แต่บางครั้งก็ติดปัญหาในเรื่องวัสดุที่หายาก หรือมีราคาปรับขึ้นตามฤดูกาล ทำให้เราบริหารต้นทุนลำบาก จึงหันมาทำเครื่องประดับงานเพนต์ โดยใช้ดินไทยมาปั้นขึ้นรูป เช่น ผีเสื้อ นกฮูก ทำออกมาเป็นต่างหู สร้อยคอ และแหวน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน จากจุดเด่นในเรื่องฝีมือการเพนต์ ความละเอียดของเนื้องาน โดยราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท ไปจนถึง 2,100 บาท”
สำหรับหน้าร้านหลักอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักรโครงการ 7 โซนศิลปะ รวบรวมสินค้าทั้งหมดจากฝีมือของสายน้ำผึ้งล้วนๆ โดยกว่า 90% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบงานศิลปะ และงานแฮนด์เมด โดยเจ้าของร้านจะนั่งเพนต์งานให้ลูกค้าเห็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง เพราะในช่วงแรกที่เปิดร้านลูกค้าจะไม่เชื่อว่าเป็นงานแฮนด์เมด โดยเฉพาะต่างหูผีเสื้อ ที่หากมองเพียงผ่านตาจะเข้าใจว่าเป็นงานปั๊ม แท้จริงแล้วเป็นงานแฮนด์เมดล้วนๆ ที่เพนต์ออกมา 7 สีให้ลูกค้าเลือก
ดูเหมือนงานเพนต์สิ่งของที่มีขนาดเล็กๆ จะเป็นงานยาก แต่สำหรับสายน้ำผึ้งแล้ว เขาบอกว่าเป็นงานที่สนุก และมีความสุขที่จะทำ โดยสัปดาห์หนึ่งจะทำต่างหูออกมาประมาณ 40 คู่เพื่อขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นสินค้าขายดีของทางร้าน ส่วนรายได้ไม่ต้องพูดถึง เพราะมากกว่าเงินเดือนประจำแน่นอน ขณะนี้ธุรกิจเริ่มอยู่ตัวมีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งมีความสุขกับงานที่ตนเองรักและรักที่จะอยู่กับมัน
***สนใจติดต่อ 08-1711-4173 หรือที่ Facebook : Mim Away***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *