ผู้ประกอบการไม้ยางพาราตรังกระทบค่าแรง 300 บาท พ่วงยอดสั่งซื้อลดลง ร้องรัฐฯ ยื่นมือช่วยก่อนธุรกิจปิดกิจการ วอนอย่าให้เกษตรกรต้องรับกรรมสังเวยนโยบายรัฐฯ
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ตรัง เปิดเผยถึงผลกระทบการขึ้นค่าแรง 300 บาท ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ช่วงต้นปี 2556 นั้น ในส่วนของ จ.ตรัง ผู้ประกอบการบางส่วนได้ปรับขึ้นค่าแรงมาตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนก่อน หรือบางส่วนมีค่าแรงที่สูงกว่าวันละ 300 บาทอยู่แล้ว รวมทั้งได้ปรับเปลี่ยนระบบการจ้างงานแบบรายวันมาเป็นแบบจ้างเหมา แต่ในขณะที่ผู้ประกอบการอีกส่วนหนึ่งไม่สามารถปรับตัวสู้ได้ เช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา และธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะคุณภาพของแรงงานไม่ได้ตรงตามที่ต้องการ ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงทำให้โรงงานไม้ยางพาราหลายแห่งต้องลดกำลังผลิตลง
ทั้งนี้ ออเดอร์หรือยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศยังไม่ค่อยกระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนที่กำลังถึงจุดอิ่มตัว ส่งผลให้ราคาไม้ยางพาราปรับตัวลดลงเกือบ 50% จากลูกบาศก์เมตรละ 500 บาทเหลือแค่ลูกบาศก์เมตรละ 300 บาทเศษ และมีแนวโน้มจะลดต่ำลงไปมากกว่านี้ในช่วงต้นปีหน้า เมื่อเจอปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงซ้ำเติมทำให้ต้องแบกรับต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น ประกอบกับไม่สามารถขึ้นราคาไม้ยางพาราได้ เพื่อความอยู่รอด ทำให้ท้ายสุดภาระต้องตกไปอยู่ที่เกษตรกร นอกจากนี้ยังห่วงว่าร้านค้าย่อย และธุรกิจเอสเอ็มอีจะไปไม่รอดต้องปิดกิจการไป จึงอยากให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าว
