“ถ้าคิดจะเปิดร้านกาแฟต้องทำด้วยตัวเอง ห้ามซื้อแฟรนไชส์เด็ดขาด” ประโยคประกาศิตจากผู้เป็นพ่อ หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม “นายเงี๊ยบ” เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ย่านพุทธมณฑลและบางขุนนนท์ ทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนศึกษาวงการกาแฟอย่างจริงจัง ตั้งแต่ต้นกล้าไปจนถึงกาแฟเสิร์ฟใส่แก้วถึงมือลูกค้า กับร้าน “กาแฟนายเงี๊ยบ”
ความโด่งดังของลูกชิ้นปลานานกว่า 40 ปี ที่ “นายสมชาติ สาลีพัฒนา” หรือ นายเงี๊ยบ ปลุกปั้นมาด้วยความตั้งใจและให้ความจริงใจแก่ลูกค้ามาโดยตลอด มาวันนี้ธุรกิจอยู่ตัว นายเงี๊ยบพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ขอทำบุญ เที่ยว และมีเวลาดูแลสุขภาพตนเองก็เพียงพอแล้ว จากการที่ธุรกิจเดินมาไกลเกินฝัน จากเดิมเป็นเพียงร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเล็กๆ ย่านศาลเจ้าพ่อเสือ ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งชอบรับประทานลูกชิ้นปลา จนศึกษากรรมวิธี นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นสูตรความอร่อยเฉพาะตัว เปิดร้านขยายสาขาใหญ่โต ที่ไม่ขอขยายธุรกิจแล้ว
ล่าสุดผันตัวเองมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยดูแลกิจการร้านก๋วยเตี๋ยว พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้แก่ลูกชาย “นายธนกร สาลีพัฒนา” เดินตามฝัน ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักบ้าง เหมือนผู้เป็นพ่อครั้งมีไฟวัยหนุ่ม กับธุรกิจร้านกาแฟนายเงี๊ยบ ซึ่ง ธนกร บอกว่า ธุรกิจนี้เกิดมาจากความสงสัยในรสชาติของกาแฟที่แม้จะเป็นแบรนด์เดียวกันแต่กลับแตกต่าง จึงเริ่มศึกษาปัจจัยที่ส่งผลดังกล่าว แต่เมื่อเริ่มศึกษาลงลึกอย่างจริงจัง กับรู้สึกหลงรัก ลงทุนเดินทางตามเส้นทางเมล็ดกาแฟ ตั้งแต่การปลูกเป็นต้นกล้า การคั่วไปจนถึงกรรมวิธีการชงกาแฟ ทำให้รู้ว่ารสชาติกาแฟที่แตกต่างกันนั้นเกิดจากตัวแปรหลายปัจจัยและทุกขั้นตอนการผลิต เช่น แรงในการกดเมล็ดกาแฟ อุณหภูมิในการคั่วเมล็ดกาแฟ และความร้อนของน้ำ รวมถึงคุณภาพเครื่องชงที่ต้องรักษาอุณหภูมิน้ำให้คงที่ตามที่ต้องการ
“ธุรกิจกาแฟที่เราเห็นเปิดกันมากมายจริงๆ แล้วหากศึกษาดีๆ จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายหากจะเปิดร้านกาแฟให้ได้มาตรฐาน ดีต่อสุขภาพผู้บริดภค เพราะบางครั้งเมล็ดกาแฟที่คั่วนานจนเกินจะเป็นโทษต่อร่างกายมากกว่าสร้างผลดีต่อสุขภาพลูกค้า ซึ่งตรงจุดนี้ผมเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยได้ศึกษาการคั่วเมล็ดกาแฟ ยอมลงทุนซื้อคั่วเองจากตุรกี ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ จากการคั่วในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เมื่อนำไปชงจะได้กาแฟที่ดีต่อสุขภาพ”
ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ธนกร ได้ศึกษาวงการกาแฟมาได้ระดับกนึ่ง ก็ตัดสินใจเปิดร้าน “กาแฟนายเงี๊ยบ” ชูคอนเซ็ปต์กาแฟเพื่อสุขภาพ สนองผู้บริโภคทุกระดับ รวมถึงลูกค้ายังได้ร่วมทำบุญ เพราะทุก 1 บาท จากราคากาแฟทุกแก้ว จะบริจาคทำบุญร่วมสร้างอุโบสถ ให้แก่วัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ที่ครอบครัวนายเงี๊ยบศรัทธาอยู่
สำหรับเมนูเครื่องดื่มในร้านก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเครื่องดื่มประเภทกาแฟสูตรร้อน-เย็น ปั่น เช่น เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ ลาเต้ และนายเงี๊ยบเย็น (เอสเพรสโซ่เย็น) จากเครื่องชงกาแฟระดับพรีเมียม ที่นักชงแฟระดับโลกใช้ในการแข่งขันนำเข้าจากอิตาลีแบรนด์ Victoria Arduino ส่วนชานั้นทางร้านมีทั้งแบบชาไทย ชาซีลอน และชาเขียวมัจฉะ ที่นายธนกร ไม่ใช้ผงชา หรือชาเขียวชนิดใบ แต่สั่งทำเป็นไซรัปชาเขียวพิเศษ ที่ให้ทั้งความหอมจากชาเขียวแท้ แถมไม่มีสารสังเคราะห์ใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค
ส่วนอนาคตแฟรนไชส์นายธนกร จะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรไชส์ ซึ่งกำลังศึกษาขั้นตอน ระบบเพื่อไม่ให้เสียรสชาติและลูกค้าประจำ ซึ่งมาตรฐานต้องเหมือนกันทุกสาขา รวมถึงต้องคำนวณต้นทุนให้ผู้ลงทุนใช้เงินทุนไม่มากนัก สามารถยึดเป็นอาชีพหลักได้ โดยคาดว่าภายใน 1-2 ปี จะทำการขายแฟรนไชส์ได้ แต่ขณะนี้ขอทำร้านกาแฟนายเงี๊ยบ ซึ่งเป็นร้านต้นแบบย่านพุทธมณฑลให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคก่อน
***สนใจติดต่อ 0-2441-0655, 0-2888-9010, 08-3980-3636 หรือที่ www.naingieb.com***
