“เอสเอ็มอีแบงก์” เผยแนวโน้มปีนี้มุ่งปล่อยสินเชื่อสนับสนุนกลุ่มพลังงานทดแทน ชี้สอดคล้องกับความต้องการของโลก และช่วยลดต้นทุนของปท. ตั้งเป้ายอดโต 1 หมื่นล้าน ลดหนี้เสียเหลือ 13,000 ลบ. เผยคาดได้รับจัดสรรเงินกู้ซอฟท์โลนช่วยผู้ประสบอุทกภัย 1 พันล้าน
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารภายในปีนี้ (2555) จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน พลังงานบริสุทธิ์ เพื่อให้สอดคล้องแนวโน้มโลกที่ต้องการลดการใช้พลังงาน รวมถึง ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตของประเทศด้วย
ทั้งนี้ ในสิ้นปีนี้ ทางธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อเติบโตประมาณ 10% หรือมูลค่าประมาณ 10,000 บาท จากยอดสินเชื่อคงค้างที่ปัจจุบันอยู่ที่ราว 100,000 ล้านบาท รวมถึง ตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้จะลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ให้เหลือไม่เกิน 13,000 ล้านบาท จากขณะนี้ที่อยู่ในระดับ 15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของสินเชื่อรวม
นอกจากนั้น ในระยะสั้น 3-6 เดือนจากนี้ ทางเอสเอ็มอีแบงก์จะยังไม่มีปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นแต่อย่างใด เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่ให้มีภาระดอกเบี้ยสูงมากจนเกินไป และพยายามจะรักษาแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ให้นานที่สุด ยกเว้น จะเกิดปัจจัยภายนอกใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง ซึ่งทางธนาคารอาจจะต้องทบทวนอัตราดอกเบี้ยใหม่อีกครั้ง
นายโสฬส เผยด้วยว่า สำหรับเงินกู้อัตราพิเศษ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย จากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ตาม พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย พ.ศ 2555 (ซอฟท์โลน) ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะพิจารณาจัดสรรวงเงินให้แก่สถาบันการเงินแต่ละแห่ง ซึ่งทางเอสเอ็มอีแบงก์คาดว่าจะได้รับจัดสรร ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อจะนำมาปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงประมาณ 500 ล้านบาท และกลุ่มได้รับผลกระทบทางอ้อม ประมาณ 500 ล้านบาท