xs
xsm
sm
md
lg

'หมวกนักรบ' ไอเดียโอทอป เพิ่มค่ายางพาราขายความต่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลำดวน ครูกระชัง - เอนก พลจันทึก
บ่อยครั้งที่สินค้าในชุมชนจะผลิตออกมาคล้ายๆ กัน จากการเรียนรู้กรรมวิธีการผลิตที่หาไม่ยากนัก ทำให้โอกาสการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ใหม่ในชุมชนน้อยลง แต่หากสามารถต่อยอดรูปแบบใหม่จากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมก็คงสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ “หมวกคาวบอย ตราหัวม้า” คิดนอกกรอบออกแบบชุดนักรบ และหมวกอัศวิน เพิ่มรายได้จากการขายหมวกคาวบอยไม่น้อย
หมวกคาวบอยขายใบละ 100 บาท
ลำดวน ครูกระชัง และเอนก พลจันทึก สองสามีภรรยา ผู้เข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจหมวกคาวบอย แบรนด์หัวม้า จ.นครราชสีมา เล่าว่า เดิมครอบครัวไม่ได้ประกอบอาชีพการผลิตหมวกคาวบอยมาก่อน แต่คนในชุมชนมีการผลิตอยู่บ้าง ต่อมาคุณยายของลำดวน สนใจในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงตัดสินใจไปเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตจากคนรู้จัก โดยเรียนการทำหมวกคาวบอยจากแผ่นยางพารา เมื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตขั้นพื้นฐานทุกขั้นตอน ก็มาถ่ายทอดวิชาให้แก่ลูกหลานหวังให้นำไปประกอบอาชีพและมีรายได้เสริมต่อไป

หากย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ช่วงบุกเบิกธุรกิจรูปแบบของหมวกคาวบอยไม่แตกต่างจากตามท้องตลาดทั่วไปมากนัก รวมถึงการเจาะลวดลายด้านข้างของหมวกยังเป็นลายแมงมุมที่คุณยายได้ไปเรียนรู้มา โดยเป็นงานเจาะมือเพื่อขึ้นลวดลายทั้งสิ้น จนกระทั้งเอนกผู้เป็นหลานเขย ได้รับคำแนะนำจากภาครัฐฯ ให้สร้างตราสินค้าของตนเอง ซึ่งต้องเริ่มจากการคิดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสื่อถึงตราสินค้าด้วย สุดท้ายกลายมาเป็นลายหัวม้า ที่สื่อถึงความเป็นคาวบอย และเป็นที่มาของแบรนด์ “หัวม้า” ในที่สุด
ชุดนักรบถูกใจเด็กๆ
“เราก็เหมือนชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่ต้องการผลิตหมวกคาวบอยเพื่อจำหน่าย หวังเป็นรายได้เพิ่มให้แก่ครอบครัว แต่เมื่อหน่วยงานจากภาครัฐฯ คือ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาให้คำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจ ทำให้เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น จากการสร้างแบรนด์ให้เกิดการจดจำจากลูกค้า และให้นำสินค้าเข้าสู่กระบวนการคัดสรรเป็นสินค้าโอทอปในปี 2553 ได้มาเพียง 3 ดาว ต่อมาในปี 2554 ที่ผ่านมาได้ 4 ดาว จากการพัฒนาฝีมือการผลิตขึ้น”

เมื่อการผลิตหมวกคาวบอยอยู่ตัว ประกอบกับเริ่มมีคู่แข่งมากขึ้น ทำให้อเนก ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าใหม่เพื่อให้อยู่รอดในการทำตลาด โดยทำหมวกนักรบพระเจ้าตาก และพระนเรศวร ออกมาสร้างความฮือฮาให้แก่ลูกค้าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับดีมาก ทั้งหมวกสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ และขนาดใหญ่มากที่ต้องสั่งทำเป็นพิเศษ ลูกค้านิยมนำทำเป็นร่มตามโรงแรมและรีสอร์ท เพื่อสร้างสีสันให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน

“หลังจากมีผู้ประกอบการหลายรายทำหมวกคาวบอยกันมากขึ้น โดยขายบริเวณริมถนน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไปยังจังหวัดชัยภูมิ ทำให้เราคิดออกแบบหมวกใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร ก็นึกถึงหมวกนักรบสมัยโบราณของไทยๆ เนื่องจากยังไม่มีใครทำขาย ซึ่งสินค้าต้นแบบที่กำลังผลิตอยู่นั้นมีลูกค้าเข้ามาถามหาหมวกรูปแบบแปลกใหม่ เราจึงนำเสนอหมวกนักรบไปทั้งที่ยังทำไม่เสร็จ แต่เมื่อลูกค้าสนใจและสั่งจองทันทีทำให้เชื่อมั่นว่าหมวกนักรบจะทำตลาดได้ไม่แพ้หมวกคาวบอยที่ลูกค้าคุ้นเคยแล้ว”
หมวกนักรบสินค้าขายดี
ปัจจุบันหมวกนักรบมีกว่า 10 แบบ ทั้งสีดำ สีแดงสดใส ต่อมาพัฒนาเป็นชุดนักรบ หลังจากมีลูกค้าเรียกร้องและแนะนำว่าน่าจะผลิตให้ครบชุด ที่นอกจากเด็กๆ จะนำไปใส่เล่นแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในการแสดงหรือการจัดงานอีเวนต์ได้อีกด้วย ทำให้อเนก ผลิตชุดนักรบออกมาจำหน่ายในราคาชุดละ 750 บาท หมวกนักรบ 150-200 บาท และหมวกคาวบอยเพียง 100 บาทเท่านั้น

ล่าสุดสินค้าแบรนด์หัวม้า ยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาสินค้าในรูปแบบแปลกใหม่ เพราะเชื่อว่าการจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดต้องสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งด้วยการดีไซน์ จึงส่งหมวดอัศวินที่เน้นสีสัน พร้อมหน้ากากด้านหน้าขยับขึ้นลงได้ ส่วนด้านหลังออกแบบเป็นลายไฟ และหัวหนาม เอาใจกลุ่มลูกค้าเด็กโดยเฉพาะ รวมถึงตามโรงเรียนต่างๆ มักสั่งซื้อไปจัดการแสดงของเด็กๆ อีกด้วย
หมวกอัศวินแบบหัวหนาม
สำหรับกระบวนการผลิตนั้นเป็นกลุ่มชาวบ้านทั้งสิ้นที่พัฒนาฝีมือเรื่อยมา ส่วนใหญ่ผลิตในจำนวนให้เพียงพอต่อการจำหน่ายในปัจจุบัน แต่หากมีการสั่งออร์เดอร์ล็อตใหญ่จำนวน 100 ใบ ต้องใช้เวลาผลิตประมาณ 10 วัน โดยยอดขายและกำไรไม่ได้หวือหวานักแต่ก็ทำให้ชาวบ้านอยู่รอดได้มีรายหล่อเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยอนาคตจะออกแบบหมวกแปลกใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
หมวกอัศวินด้านหลังเป็นลายไฟ
***สนใจติดต่อกลุ่มทำหมวกจากยางพาราและพรมสักราช เลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาโทร. 08-7963-2734***
กำลังโหลดความคิดเห็น