สสว.เร่งเอสเอ็มอีไทยปรับตัวรับเปิด AEC ชี้ภาคธุรกิจอาหารได้เปรียบคู่แข่ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ส่ออ่วม ระบุ สสว. ตั้งศูนย์ BOI ภาคเอสเอ็มอี หนุนบุกตลาดอาเซียน
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในการปาฐกถา อาเซียน เอสเอ็มอี ฟอรั่ม (ASEAN SME Forum) ภายในงาน "ไทยแลนด์อินดัสเตรียลแฟร์ 2012" (Thailand Industrial Fair 2012) ว่า จากที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งจะทำให้เกิดการค้าเสรีในหมู่สมาชิก ดังนั้น เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไทยมีความได้เปรียบ ได้แก่ กลุ่มอาหาร ยางพารา อัญมณี พลาสติก และเคมีภัณฑ์ ดังนั้น เอสเอ็มอีไทยควรเร่งสร้างเครือข่ายทางการค้าเพื่อหาช่องทางกระจายสินค้า มากกว่าที่จะมุ่งเน้นการผลิตเพียงอย่างเดียว
ส่วนอุตสาหกรรมที่เอสเอ็มอีไทยอาจเสียเปรียบ เช่น อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เพราะอุปสรรคด้านต้นทุนผลิตสูงกว่า ดังนั้น เอสเอ็มอีไทยควรเร่งปรับตัวสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่เอสเอ็มอีไทย ทาง สสว.ได้จัดตั้งศูนย์บริการเอสเอ็มอีเพื่อการลงทุนอาเซียน สำหรับให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน โดยจะทำหน้าที่คล้ายบทบาทของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) แต่เจาะจงช่วยเหลือภาคเอสเอ็มอี นอกจากนั้น จะเร่งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งลงทุน จัดอบรมการใช้ภาษาในการติดต่อธุรกิจ และระบบการจัดการ เป็นต้น โดยตั้งเป้าให้ปีนี้ (2555) สามารถส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยจับคู่ธุรกิจกับต่างชาติได้ 500 ราย และเกิดมูลค่าการค้า ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท