อธิบดีกรมการค้าภายในแนะผู้ประกอบการไม่ควรขึ้นราคาสินคาในช่วงน้ำมันแพง ชี้จะส่งผลการขยายตลาดสินค้าตัน เผยภาคการผลิตกระทบน้อย จากเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นพลังงานหลัก คาดอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ราคาสินค้ายังน่าจะคงที่ หากราคาน้ำมันอยู่ในระดับไม่ต่างจากปัจจุบันมากนัก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยขณะนี้ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตและภาคการขนส่ง ซึ่งที่ผ่านมาภาคการผลิตได้หันไปใช้พลังงานทางเลือกในการผลิตสินค้าแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง อย่าง ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ส่วนภาคการขนส่ง ถือว่าได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้มีผลต่อราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งสินค้าแต่ละชนิดอยู่ที่ประมาณ 30%
ทั้งนี้ทางอธิบดีกรมการค้าภายใน แนะนำผู้ประกอบการว่ายังไม่ควรขึ้นราคาสินค้าในเวลานี้ เพราะจะทำให้โอกาสในการขยายตลาดสินค้าของผู้ประกอบการลดน้อยลง ประกอบกับขณะนี้อำนาจการซื้อสินค้าของประชาชนมีไม่มากนัก จะเน้นไปที่กลุ่มสินค้าประเภทก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านเป็นหลัก ซึ่งถือว่าปัจจุบันภาวะการค้ายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ จึงไม่เหมาะที่ผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้
“จะเห็นได้ว่าแม้ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังไม่ปรับขึ้นมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เลือกที่จะขึ้นราคาสินค้าส่งออกแทน และหันไปลดต้นทุนการผลิตด้านอื่นๆ แทนการขึ้นราคาสินค้า ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นส่วนน้อย” อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว
อย่างไรก็ตามนางวัชรี คาดว่าในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ราคาสินค้าในประเทศไทยยังไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นนัก หากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับปัจจุบันไม่สูงมากไปกว่านี้ แต่ต่อไปต้องประเมินข้อดีข้อเสียทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคที่อาจจะได้รับผลกระทบการขึ้นราคาสินค้าเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย