ขนมครองแครงถูกนำมายกเครื่อง โดยใส่รสชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยสร้างสีสันความหลากหลาย แถมกินได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญขยายหาลูกค้าวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยลิ้มลองขนมโบราณชนิดนี้มาก่อน ถือเป็นไอเดียเพิ่มมูลค่าสินค้าของขนมแบรนด์เก๋ อย่าง “เล็กจนโต”
เนื่องจากครอบครัวทำกิจการผลิตและขายส่งขนมครองแครง ทายาทรุ่น 3 อย่าง “อภิณพร ทองดี” จึงคลุกคลีอยู่กับขนมชนิดนี้มาตั้งแต่จำความได้ และเมื่อมีโอกาสเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว ได้จุดไอเดียสร้างสรรค์ขนมครองแครงรสชาติใหม่
เธอ อธิบายเสริมว่า ครอบครัวยึดอาชีพขายขนมครองแครงมาเกือบ 60 ปี บุกเบิกโดยคุณย่าตั้งแต่ พ.ศ.2496 ต่อเนื่องถึงรุ่นคุณพ่อ ถือเป็นผู้ผลิตขนมครองแครงเจ้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการ โดยมีปริมาณการผลิตหลักพันกิโลกรัมต่อวัน โดยช่องทางตลาดทั้งหมดเป็นการขายส่ง ซึ่งลูกค้าจะซื้อไปติดแบรนด์ต่างๆ นานาของตัวเอง ดังนั้น จึงอยากขยายตลาดเพิ่มเติมด้วยการขายปลีกภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
“คุณพ่อจะไม่ได้ให้ความสำคัญด้านตลาดมากนัก เพราะทุกวันนี้ก็มีลูกค้าขาประจำแน่นอน และยอดขายส่งก็ดีต่อเนื่อง จนเมื่อดิฉันเข้ามาช่วยงาน ก็อยากเพิ่มตลาดขายปลีกควบคู่ไปด้วย แต่ถ้าจะขายครองแครงแบบเดิม ความน่าสนใจคงไม่มาก และยังไปแย่งลูกค้ากับคนที่รับขนมเราไปขายด้วย ทำให้คิดที่จะฉีกตลาดออกไปจากเดิม โดยเพิ่มรสชาติครองแครงให้หลากหลาย เชิญชวนคนรุ่นใหม่อยากมาทดลอง” อภิณพร เผยที่มา
เพราะคลุกคลีอยู่กับขนมครองแครงมาตลอดชีวิต นำมาสู่ชื่อแบรนด์ “เล็กจนโต” เพื่อสื่อถึงความเชี่ยวชาญในการทำขนมชนิดนี้มายาวนาน พร้อมนำเสนอจุดเด่นเคลือบรสชาติต่างๆ ลงบนขนมครองแครงแบบดั้งเดิม โดยมีให้เลือก 6 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแลต ไวท์ช็อกโกแลต ชีส สตอเบอรี่ สาหร่าย และดั้งเดิม
เจ้าของไอเดีย เสริมว่า ตัวเนื้อครองแครงจะเป็นแบบต้นตำรับ ซึ่งเป็นสูตรประจำครอบครัว มีจุดเด่นที่ไม่อบน้ำมัน และไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ขณะที่รสชาติต่างๆ ที่นำมาเคลือบ รวมถึงวิธีทำ ประยุกต์จากการทำเบเกอรี่ อาศัยลองผิดลองถูกและเรียนรู้ด้วยตัวเอง นานกว่า 6 เดือน จนได้รสชาติที่เชื่อว่าอร่อยลงตัว และเคลือบกับตัวครองแครงได้กำลังดี ไม่หนา หรือเบาจนเกินไป
นอกจากนั้น ขนมครองแครงแนวใหม่ยี่ห้อนี้ ได้เสริมมิติด้านภาพลักษณ์ให้เป็นสินค้าเกรดบน โดยใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี ราคาขายปลีกกล่องละ 55 บาท (ปริมาณ 150 กรัม) อายุการเก็บรักษานาน 2 สัปดาห์ ปัจจุบัน มีช่องทางขาย วางที่ร้านกาแฟชื่อ “รักยิ้ม” ใน ซ.รัชดา 32 ออกบูทงานแสดงสินค้าต่างๆ และกำลังเปิดรับตัวแทนขายอีกด้วย
ทั้งนี้ กำหนดผู้บริโภคเป้าหมายไปที่วัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ชอบหรือยังไม่เคยกินขนมครองแครงมาก่อน ให้สามารถมากินขนมโบราณชนิดนี้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น จะขยายไปสู่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อซื้อกลับไปเป็นของฝากจากประเทศไทย
ในด้านการผลิต อภิณพร ระบุว่า ปัจจุบัน ยังเป็นลักษณะอุตสาหกรรมครัวเรือน ถือเป็นข้อจำกัดไม่สามารถผลิตในปริมาณมากๆ ได้ โดยเฉพาะขั้นตอนการปั้นตัวครองแครง ซึ่งต้องปั้นด้วยมือทีละตัว จึงเสียเวลามาก อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเตรียมแผนนำเครื่องจักรมาช่วยแบ่งเบาภาระในหลายๆ ขั้นตอน เพื่อช่วยขยายกำลังผลิต รวมถึง ปรับปรุงโรงงานผลิตให้ได้มาตรฐานสูงขึ้นด้วย
เธอ ทิ้งท้ายด้วยว่า การปรับรูปแบบขนมครองแครง ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าจากการขายส่งกว่าเท่าตัว และหวังว่า ในอนาคตจะช่วยขยายตลาดกว้างขึ้น ควบคู่กันทั้งระหว่างขายส่งและขายปลีก ซึ่งจะทำให้อาชีพมีความแข็งแรงและมั่นคงมากขึ้นไปอีก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.08-7977-5278 หรือ www.lekjonto.com