สสว.ได้งบเพิ่ม 200 ลบ. หนุนเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเชื่อมวัฒนธรรมเพิ่มค่ารับเปิดเสรีอาเซียน คาดงบคลอดต้นปีหน้า พร้อมเสนอรัฐบาลจูงใจเอสเอ็มอีพัฒนาศักยภาพได้รับความช่วยเหลือจากผลกระทบค่าแรง 300 บ.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาห กิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ให้ สสว. เพิ่มเติมอีก 200 ล้านบาท หลังจากรัฐบาลชุดก่อนอนุมัติให้มา 800 ล้านบาท รวมเป็น 1,000 ล้านบาท โดยงบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าว สสว.จะนำไปใช้ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี ในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของไทยให้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม เพื่อเสริมศักยภาพให้สามารถรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าตัวเงินงบประมาณจริงจะมาถึงประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม 2555
ผอ.สสว. เผยด้วยว่า แนวทางพัฒนาของ สสว. ในปีหน้า (2555) จะสอดคล้องกับแผนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ 3 พ.ศ.2555-2559 ที่มี 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. สนับสนุนปัจจัยแวดล้อมเอื้อต่อการทำธุรกิจ 2.เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEsไทย 3. สร้างความเติบโตอย่างสมดุลตามศักยภาพพื้นที่ และ4.เชื่อมโยงเอสเอ็มอีไทยกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนมาตรฐานช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อาจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายค่าแรง 300 บาทนั้น ผอ.สสว. ระบุว่า ขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากนโยบายของรัฐบาลเสียก่อน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสำรวจของ สสว. พบว่า แรงงานในภาคเอสเอ็มอีทั้งประเทศที่ยังมีค่าแรงไม่ถึง 300 บาทต่อวัน มีประมาณ 5 ล้านคน โดย สสว. เสนอว่า มาตรฐานช่วยเหลือที่จะออกมา ควรเป็นมาตรการประเภทจูงใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่พัฒนาศักยภาพ หรือขีดความสามารถตัวเอง จึงจะได้รับสิทธิ์พิเศษ เช่น คูปองชดเชยส่วนต่างค่าแรงที่เพิ่มขึ้น กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน (Labor Fund) ช่วยสนับสนุนดอกเบี้ย การลดภาษีให้แก่ธุรกิจที่พัฒนาประสิทธิภาพ เป็นต้น
