กสอ.เผย แผนงบประมาณปี 2555 มุ่งเน้นการสร้างผู้ประกอบการใหม่ต่อเนื่อง เป็นปีที่ 10 ผ่าน โครงการ “เสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่” (New Entrepreneurs Creation) หรือ โครงการNECชี้ 10 ปีสร้างผู้ประกอบการกว่า 10,000 ราย เกิดเม็ดเงินการลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 40,000 ราย ตั้งเป้าปีที่ 11 สร้างผู้ประกอบการ 1,400 ราย เกิดเม็ดเงินลงทุน 1,400 ล้านบาท จ้างงาน 4,200 ราย
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อปี 2545 โครงการ “เสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่” (New Entrepreneurs Creation) หรือ โครงการNEC ได้ถูกบรรจุในแผนงบประมาณประจำปีเป็นปีแรก ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และเป็นโครงการที่จัดได้ว่ามีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมติดต่อกันกว่า 10 ปี
จากแนวคิดที่จะสร้างผู้ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะเป็นผู้ประกอบการใหม่ โดยเน้นการเติมเต็มความรู้ด้านการจัดการธุรกิจ การวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ และการบริการให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเริ่มต้นกิจการได้
สำหรับผลการดำเนินงาน ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 91,303 ราย ผ่านการคัดเลือกจำนวน 61,255 ราย เป็นผู้ผ่านกระบวนการสร้างผู้ประกอบการจำนวน 57,967 ราย และสามารถก่อตั้งธุรกิจหรือสามารถขยายธุรกิจได้ จำนวน 10,487 ราย หรือโดยเฉลี่ยร้อยละ 18 ก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในการจัดตั้งธุรกิจหรือการขยายธุรกิจจำนวน 13,204.89 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวน 45,234 ราย
นายพสุ กล่าวต่อว่า สำหรับการก้าวต่อในปีที่ 11 ซึ่งตรงกับปีงบประมาณ 2555 การสร้างผู้ประกอบการใหม่ยังคงเป็นภารกิจหลักของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยสำนักพัฒนาผู้ประกอบการ เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการ และร่วมมือกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมในภูมิภาค สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สมาคม/องค์กรอิสระ และสถาบันเฉพาะทางภายใต้กำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานร่วมดำเนินงาน รวมจำนวนกว่า 80 หน่วยงาน
ทั้งนี้ ล้วนมีประสบการณ์ในการสร้างผู้ประกอบการใหม่และมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดำเนินงาน เน้นการคัดเลือกผู้มีแนวคิดและความพร้อมที่จะก้าวเป็นผู้ประกอบการตัวจริง ผนวกกับการเสริมทักษะและศักยภาพเพื่อนำสู่การก่อตั้งธุรกิจหรือสามารถขยายธุรกิจเดิมได้จริง ด้วยหวังจะเพิ่มอัตราผลสัมฤทธิ์จากปี 2554 ซึ่งสามารถทำให้ผู้เข้าสู่กระบวนการสร้างผู้ประกอบการจัดตั้งธุรกิจได้สำเร็จ ในอัตราร้อยละ 30 ให้เป็นร้อยละ 40 ในปี 2555
โดยคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้มีศักยภาพและมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริงเพียงจำนวน 3,500 ราย เพื่อเข้ารับการถ่ายทอดความรู้และทักษะการประกอบการด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นขึ้นเป็นจำนวน 162 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการจัดตั้งธุรกิจหรือขยายธุรกิจ จำนวน 1,400 กิจการ/ราย และก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนจากการจัดตั้งธุรกิจกิจการละ 1 ล้านบาท หรือมีมูลค่ารวมจำนวน 1,400 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานกิจการละ 3 ราย หรือจำนวนรวม 4,200 ราย
โดยรูปแบบการสร้างผู้ประกอบการ เน้นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ “Adult Learning” ซึ่งเป็นการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมโดยผสมผสานระหว่างประสบการณ์ของผู้รับการอบรมเข้ากับองค์ความรู้ใหม่ๆ จากวิทยากร ร่วมกับการเรียนรู้แบบเชิงปฏิบัติการ “Learning by Doing” เพื่อให้เกิดการ “คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น” และบริการคำปรึกษาแนะนำ จากที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญตลอดจนผู้มีประสบการณ์ทางธุรกิจ หรือเรียกว่า “Coach” เข้าไปทำงานกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยมองปัญหาที่ผู้ประกอบการยังมองไม่เห็น และช่วยผู้ประกอบการในการ "สร้างความรู้" เพื่อแก้ปัญหา ตลอดจนถ่ายทอด ความรู้ และ กระบวนการคิดต่างๆ ที่จำเป็น ที่จะทำให้ ผู้ประกอบการ สามารถเดินไปยังเป้าหมายทางธุรกิจที่ตนเองวางไว้ให้เป็นจริงได้
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อปี 2545 โครงการ “เสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่” (New Entrepreneurs Creation) หรือ โครงการNEC ได้ถูกบรรจุในแผนงบประมาณประจำปีเป็นปีแรก ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และเป็นโครงการที่จัดได้ว่ามีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมติดต่อกันกว่า 10 ปี
จากแนวคิดที่จะสร้างผู้ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะเป็นผู้ประกอบการใหม่ โดยเน้นการเติมเต็มความรู้ด้านการจัดการธุรกิจ การวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ และการบริการให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเริ่มต้นกิจการได้
สำหรับผลการดำเนินงาน ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 91,303 ราย ผ่านการคัดเลือกจำนวน 61,255 ราย เป็นผู้ผ่านกระบวนการสร้างผู้ประกอบการจำนวน 57,967 ราย และสามารถก่อตั้งธุรกิจหรือสามารถขยายธุรกิจได้ จำนวน 10,487 ราย หรือโดยเฉลี่ยร้อยละ 18 ก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในการจัดตั้งธุรกิจหรือการขยายธุรกิจจำนวน 13,204.89 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวน 45,234 ราย
นายพสุ กล่าวต่อว่า สำหรับการก้าวต่อในปีที่ 11 ซึ่งตรงกับปีงบประมาณ 2555 การสร้างผู้ประกอบการใหม่ยังคงเป็นภารกิจหลักของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยสำนักพัฒนาผู้ประกอบการ เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการ และร่วมมือกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมในภูมิภาค สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สมาคม/องค์กรอิสระ และสถาบันเฉพาะทางภายใต้กำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานร่วมดำเนินงาน รวมจำนวนกว่า 80 หน่วยงาน
ทั้งนี้ ล้วนมีประสบการณ์ในการสร้างผู้ประกอบการใหม่และมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดำเนินงาน เน้นการคัดเลือกผู้มีแนวคิดและความพร้อมที่จะก้าวเป็นผู้ประกอบการตัวจริง ผนวกกับการเสริมทักษะและศักยภาพเพื่อนำสู่การก่อตั้งธุรกิจหรือสามารถขยายธุรกิจเดิมได้จริง ด้วยหวังจะเพิ่มอัตราผลสัมฤทธิ์จากปี 2554 ซึ่งสามารถทำให้ผู้เข้าสู่กระบวนการสร้างผู้ประกอบการจัดตั้งธุรกิจได้สำเร็จ ในอัตราร้อยละ 30 ให้เป็นร้อยละ 40 ในปี 2555
โดยคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้มีศักยภาพและมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริงเพียงจำนวน 3,500 ราย เพื่อเข้ารับการถ่ายทอดความรู้และทักษะการประกอบการด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นขึ้นเป็นจำนวน 162 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการจัดตั้งธุรกิจหรือขยายธุรกิจ จำนวน 1,400 กิจการ/ราย และก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนจากการจัดตั้งธุรกิจกิจการละ 1 ล้านบาท หรือมีมูลค่ารวมจำนวน 1,400 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานกิจการละ 3 ราย หรือจำนวนรวม 4,200 ราย
โดยรูปแบบการสร้างผู้ประกอบการ เน้นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ “Adult Learning” ซึ่งเป็นการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมโดยผสมผสานระหว่างประสบการณ์ของผู้รับการอบรมเข้ากับองค์ความรู้ใหม่ๆ จากวิทยากร ร่วมกับการเรียนรู้แบบเชิงปฏิบัติการ “Learning by Doing” เพื่อให้เกิดการ “คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น” และบริการคำปรึกษาแนะนำ จากที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญตลอดจนผู้มีประสบการณ์ทางธุรกิจ หรือเรียกว่า “Coach” เข้าไปทำงานกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยมองปัญหาที่ผู้ประกอบการยังมองไม่เห็น และช่วยผู้ประกอบการในการ "สร้างความรู้" เพื่อแก้ปัญหา ตลอดจนถ่ายทอด ความรู้ และ กระบวนการคิดต่างๆ ที่จำเป็น ที่จะทำให้ ผู้ประกอบการ สามารถเดินไปยังเป้าหมายทางธุรกิจที่ตนเองวางไว้ให้เป็นจริงได้