xs
xsm
sm
md
lg

เงินกู้อุ้ม SMEs น้ำท่วม 3 วัน อนุมัติทะลุ 500 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)
"เอสเอ็มอีแบงก์" เผยยอดยื่นกู้สินเชื่อช่วยน้ำท่วมภาคใต้แค่ 3 วัน ในพื้นที่สุราษฎร์ธานี และนครศรีฯ อนุมัติแล้ว 1,400 ราย วงเงิน 500 ล้านบาท คาดยื่นกู้เต็ม 2,000 ล้าน ภายใน 1 เดือน

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 – 23 พ.ค.2554 ที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดให้บริการสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ปี 2554 ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ ตามมติครม.วันที่ 3 พ.ค. 2554 รวม 2 โครงการ วงเงินรวม 4,000 ล้านบาท คือ โครงการ 1 สินเชื่อ smePOWER เพื่อ ผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 วงเงิน 2,000 ล้านบาท กู้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท และโครงการ 2 สินเชื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มปี 2554 วงเงิน 2,000 ล้านบาท กู้รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ ระยะเพียง 3 วัน ที่เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดตัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ดังกล่าว ในพื้นที่ 2 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติฯรุนแรง ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช และอ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบอย่างล้นหลาม โดยยอด ณ 23 พ.ค. 2554 (วันจันทร์) มีผู้ลงทะเบียน จำนวน 4,432 ราย คิดเป็นวงเงิน 2,456 ล้านบาท เอกสารครบและยื่นคำขอกู้แล้ว 1,483 ราย เป็นเงิน 696 ล้านบาท และเอสเอ็มอีแบงก์ได้อนุมัติเงินกู้แล้วจำนวน 1,409 ราย คิดเป็นเงิน 501.99 ล้านบาท

สำหรับ เงื่อนไขพิเศษ คือ โครงการ 1 สินเชื่อ smePOWER เพื่อผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 วงเงิน 2,000 ล้านบาท กู้ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 6 ปี ผ่อนดอกเบี้ยโดยไม่ต้องจ่ายเงินต้น 2 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50%ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ไม่ต้องใช้หลักประกัน ไม่ต้องตรวจเครดิตบูโร ซึ่งได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ ส่วนโครงการ 2 สินเชื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มปี 2554 วงเงิน 2,000 ล้านบาท กู้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 5 ปี ผ่อนดอกเบี้ยโดยไม่ต้องจ่ายเงินต้น 1 ปี โดย 2 ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR-3%ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไปคิดดอกเบี้ย MLR ต่อปีตามประกาศธนาคาร (ปัจจุบัน MLR =7% ต่อปี) แต่ต้องใช้บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล หรือ อสังหาริมทรัพย์ หรือ หนังสือค้ำประกันจาก บสย. เป็นหลักประกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการขนาดกลางพอสมควร ซึ่งทั้ง 2 โครงการฯ เป็นสินเชื่อที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการตามนโยบายของรัฐบาล ตามมติครม.มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2554 และเอสเอ็มอีแบงก์ ได้เร่งดำเนินการทันที

นายโสฬส กล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดอื่นที่ได้รับผลกระทบตามประกาศของราชการนั้น เอสเอ็มอีแบงก์ ได้จัดทีมเคลื่อนที่เข้าไปช่วยเหลือแนะนำกับผู้ประกอบการแล้วเช่นกัน ได้แก่ สงขลา ชุมพร นราธิวาส พัทลุง ตรัง กระบี่ พังงา สตูล หาดใหญ่ ทุ่งสง และเกาะสมุย ทั้งนี้ ผู้ที่มีเอกสารครบยื่นกู้ก่อน ธนาคารจะพิจารณาให้ก่อน สามารถยื่นได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2554 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน ซึ่งคาดว่าโครงการที่ 1 น่าจะยื่นกู้เต็มวงเงิน 2,000 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 1 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น