ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ดิ้นหนีตาย ผนึกกำลังตั้งสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ หวังสร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาศักยภาพแฟรนไชส์ไทยสู้ศึกแฟรนไชส์ต่างแดนแย่งตลาด พร้อมรับมือเปิดเสรีอาเซียน
นายณรัตน์ไชย หลีระพันธ์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ และเอสเอ็มอีไทย เผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์และไลเซนส์ รวมกว่า 500 ธุรกิจ มีมูลค่าการค้าในประเทศ ในปี 2544 ประมาณ 85,000 ล้านบาท และในปี 2552 มูลค่าประมาณ 135,000 ล้านบาท
ทว่า ที่ผ่านมาแฟรนไชส์ไทยมีจุดอ่อนสำคัญ คือ ไม่สามารถพัฒนาและเติบโตได้เท่าที่ควร จากอุปสรรคหลายปัจจัย ทั้งผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยขาดความพร้อมด้านระบบบริหารจัดการ และมาตรฐานแฟรนไชส์ ความสามารถของบุคลากร และภาษา เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่สามารถจะแข่งขันกับแฟรนไชส์ต่างชาติได้ โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีแฟรนไชส์ไทยที่สามารถไปทำตลาดในต่างประเทศได้เพียง 10 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าแฟรนไชส์เพื่อนบ้าน
จากการเปิดเสรีการค้าอาเซียนที่มีผลแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะทำให้แฟรนไชส์ต่างชาติที่มีความเข้มแข็งรุกเข้ามาทำตลาดไทย และแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากแฟรนไชส์ไทย ดังนั้น เพื่อจะแก้ไขและรับมือปัญหาดังกล่าว ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย ได้รวมตัวกันตั้งสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (Franchise and Licenses Association หรือ FLA) เพื่อจะสร้างความเข้มแข็ง ขยายเครือข่าย และเพิ่มความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย
สำหรับแนวทางของสมาคมฯ จะให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยสู่สากล เช่น จะถ่ายทอดความรู้จากผู้ประกอบการแฟรนไชส์รายใหญ่ที่มีศักยภาพพร้อมแก่ผู้ประกอบการระดับกลางและเล็ก จัดอีเว้นท์ทั้งในและต่างประเทศร่วมกัน มีการจัดแผนการตลาดส่งเสริมสมาชิก และนำเสนอความต้องการและข้อคิดเห็นสู่หน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเฉพาะกลุ่มแฟรนไชส์ เป็นต้น
ด้านขั้นตอนดำเนินการของสมาคมฯ เบื้องต้นจะเป็นการรับสมัครสมาชิก ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการแฟรนไชส์ชั้นนำของไทยทั้งหมด รวมกว่า 50 แบรนด์จะเข้ามาเป็นสมาชิก เช่น The Pizza Company , Moly care , 94 Coffee , โชคดีติ่มซำ , นีโอ สุกี้ เป็นต้น และหลังจากนี้ จะเลือกคณะกรรมการสมาชิก เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกประธานสมาคมฯต่อไป