เพียงเพราะต้องการลบความรู้สึกที่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ในวัยเพียง 7 ปี ที่ไม่ได้รับการแจกลูกโป่งในห้างสรรพสินค้า กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้อยากทำลูกโป่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ได้เอง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปต่อแถว หรือรอรับการแจกลูกโป่งอีกต่อไป แต่ใครจะคิดว่าความผิดหวังในอดีตจะก่อเกิดเป็นอาชีพ ที่สร้างรายได้ และความสุขไปพร้อมๆ กัน กับความมหัศจรรย์ของลูกโป่ง
นายเป็นต่อ เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในวงการบิดลูกโป่ง หรือการนำลูกโป่งมาประดับตกแต่งสถานที่ ภายใต้แบรนด์ Bangkok Balloon ของนายรุ่งโรจน์ สุวรรณธาดา ที่ชื่นชอบลูกโป่งไม่แพ้เด็กทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่ว่าในอดีตมีปมในใจ จากการไม่ได้รับแจกลูกโป่งในห้างสรรพสินค้า ซึ่งถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงจะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นายเป็นต่อกลับเก็บความผิดหวังนั้นไว้ในใจ คิดว่าหากโตขึ้นจะต้องทำลูกโป่งแบบนี้ให้ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องไปต่อแถวรอรับลูกโป่งจากคนอื่นอีกต่อไป
“เหตุการณ์ครั้งนั้น ถือเป็นความผิดหวังที่เราจดจำมาตลอดของเด็กจังหวัดร้อยเอ็ด คนหนึ่ง ที่นานๆ จะได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ สักที แต่ก็ไม่ได้ลูกโป่งกลับบ้าน จึงคิดว่าหากสามารถบิดลูกโป่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ได้ก็คงจะดี จนกระทั่งโตขึ้น ต้องการเรียนทางด้านการถ่ายภาพ แต่ทางบ้านก็อยากให้เรียนด้านคอมพิวเตอร์ อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งในขณะเรียนบังเอิญได้ไปเจอหนังสือที่สอนทำการบิดลูกโป่ง ที่ขายพร้อมอุปกรณ์จึงตัดสินใจซื้อ พร้อมนำมาฝึกด้วยตัวเองที่บ้าน และก็ทำได้ แต่ในขณะนั้นไม่คิดที่จะนำมาทำเป็นอาชีพจริงจัง แต่ด้วยในช่วงวัยรุ่นรักในการถ่ายภาพ ต้องการซื้อกล้องถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์ในราคา 35,000 บาท แต่มีเงินติดตัวเพียง 2,500 บาท เท่านั้น จึงคิดนำเงินจำนวนดังกล่าวมาเรียนกับเจ้าของหนังสือคือ อ.ปรีชา กระจ่างทอง เพื่อนำความรู้ดังกล่าวมาหารายได้ เพื่อซื้อกล้องถ่ายรูป”
ซึ่งสนามฝึกฝนฝีมืออยู่ตามร้านอาหารที่นายเป็นต่อขอเข้าไปบิดลูกโป่งเพื่อทำแจกให้กับลูกค้าในร้านอาหาร โดยได้ค่าแรง 150 บาท/ 3 ชั่วโมง และได้ทิปจากลูกค้าด้วย ซึ่งรายได้ที่ได้รับก็ไม่มากมายนัก จึงทำได้ระยะหนึ่งก็ต้องหยุด จนกระทั่งมีรุ่นพี่ชักชวนให้ไปบิดลูกโป่งที่ร้านอาหารที่เจ้าของเป็นชาวเยอรมนี ที่จ้างเป็นรายวันคือ 1,000 บาท/วัน รวมถึงได้ทิปด้วยทำให้ในที่สุดก็สามารถซื้อกล้องได้ และทำงานตรงนี้ต่อไปอีก 6 เดือน จนร่างกายเริ่มโทรมอาจารย์สังเกตเห็น จึงให้เลือกว่าจะเรียนหรือทำงาน ทำให้นายเป็นต่อคิดหาทางนำลูกโป่งมาสร้างรายได้ในช่วงกลางวัน ซึ่งสุดท้ายมาลงตัวที่งานตกแต่งสถานที่ เช่น งาน Event, งานแต่งงาน เป็นต้น พร้อมกับชวนเพื่อนมาช่วยงานอีก 2-3 คน
“งานนอกสถานที่ที่เป็นงานกลางวันคืองานแต่งงานของรุ่นพี่ที่รักในการถ่ายรูป ซึ่งงานนั้นใช้ลูกโป่งในการตกแต่งสถานที่เยอะมาก ซึ่งแขกที่มาในงานต่างชื่นชอบ และบอกปากต่อปากในเรื่องฝีมือ ส่งผลให้หลังจากนั้นมีคนติดต่อเข้ามาตลอดให้นำลูกโป่งไปตกแต่งสถานที่ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ที่ทำให้เรามีรายได้มากขึ้น และสามารถซื้ออุปกรณ์ในงานตกแต่งสถานที่ด้วยลูกโป่งได้อีกด้วย อย่าง โครงเหล็ก เครื่องสูบลูกโป่ง และลูกโป่งคุณภาพดี”
เมื่อเรียนจบทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำให้นายเป็นต่อสินใจหยุดดำเนินธุรกิจนี้ แต่ในช่วงระยะเวลาเพียง 6 เดือน ก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายทนกระแสเรียกร้องของลูกค้าไม่ไหว จึงตัดสินใจรับงานต่อ พร้อมกับการทำเว็บไซด์ เพื่อให้เป็นหน้าร้าน รวมทั้งยังจับมือกับเพื่อนที่ทำงานด้านการจัดอีเว้นต์ และช่างภาพ เข้ามาร่วมเครือข่ายธุรกิจด้วย เพื่อสร้างความครบวงจรให้ลูกค้าได้มากขึ้น
“จุดเด่นของเราอยู่ที่ฝีมือ และรูปแบบที่เราพยายามพัฒนาฝีมือ และศึกษาข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งหากลูกค้าต้องการให้ลูกโป่งเป็นตัวอะไรเราก็จะพยายามฝึกฝนซึ่งลองทำประมาณ 10 ครั้ง ก็สามารถทำออกมาตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ ในขณะที่วัตถุดิบเราก็เลือกใช้ลูกโป่งอย่างดี มีความบางและเหนียว จากโรงงานผลิตในประเทศไทย ที่เน้นการส่งออกเกือบ 100% นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าอุปกรณ์ และลูกโป่งจากต่างประเทศด้วย เนื่องจากสีของลูกโป่งในไทย สีสันไม่ตรงกับที่เราต้องการ ในการนำไปบิดเป็นรูปแบบต่างๆ"
เมื่อฝีมือการบิดลูกโป่งของนายเป็นต่อเป็นที่ยอมรับของลุกค้า นายเป็นต่อจึงคิดอยากจะถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้กับผู้ที่สนใจต่อยอดเป็นอาชีพเสริม ด้วยการเปิดสอนการบิดลูกโป่งในราคา 5,000 บาท (10 ชั่วโมง เรียน 2 วัน) พร้อม หนังสือบิดลูกโป่งมหัศจรรย์ที่นายเป็นต่อเขียนขึ้นเองที่บอกขั้นตอนการบิดลูกโป่งอย่างละเอียดขั้นพื้นฐาน 1 เล่ม ลูกโป่งในขณะการสอน 100 ลูก และลูกโป่งยาว 400 ลูก สำหรับการฝึกฝนด้วยตัวเอง ซึ่งหากพัฒนาฝีมือได้ระดับหนึ่งก็สามารถนำไปทำเป็นอาชีพเสริมด้วยต้นทุนต่ำได้
***สนใจติดต่อ 08-1171-2620 หรือที่ www.bangkokballoon.com***