ยาหอม เป็นยาสมุนไพรที่เกิดจากภูมิปัญญาไทย มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เดิมมีการใช้กันในราชสำนัก แต่หลังจากที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้มีการตั้งคลินิกแพทย์ตามหัวเมืองต่างๆ ยาหอมก็ได้ถูกเผยแพร่ และมีการปรุงจำหน่ายกลายเป็นยาสามัญประจำบ้านจากอดีตจนถึงปัจจุบันนับร้อยปี
ขายยาหอมผ่านเรื่องเล่า ทางวัฒนธรรม
เนื่องจากการปรุงยาหอมไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องใช้วัตถุดิบ สมุนไพรที่หาได้ยากและมีราคาสูงในปัจจุบัน ดังนั้น จึงมียาหอมที่เป็นต้นตำรับ และขายกันในตลาดเพียงไม่กี่ราย และถ้าจะพูดถึงยาหอมที่เป็นสูตรระดับพรีเมียม ก็ต้องยกให้ ยาหอมของ “บ้านหมอหวาน” หรือ บำรุงชาติสาสนายาไทย ต้นตำรับยาหอมที่มีเรื่องเล่ามานานนับร้อยปี
นางสาวภาสินี ญาโณทัย ทายาทรุ่นที่ 4 ของ บำรุงชาติสาสนายาไทย เล่าถึง ยาหอมของบ้านหมอหวานอย่างภาคภูมิใจ ว่า ยาหอมของบ้านหมอหวาน เกิดขึ้นมานานกว่า 80 ปี โดยคุณตาทวด คือ นายหวาน รองม่วง แพทย์แผนโบราณ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทำการคิดค้นสูตรยาหอมออกมาด้วยกัน 4 ตำรับ
โดยยาหอมทั้ง 4 ตำรับประกอบด้วย ยาหอมสุรามฤทธิ์ มีสรรคุณแก้ ใจสั่น เป็นลม บำรุงหัวใจ ตัวยาสำคัญ คือ โสมเกาหลี พิมเสนเกล็ด อำพันทอง หญ้าฝรั่น ชะมดเช็ด และคุลิก่า 2. ยาหอมอินทรโอสถ แก้อาการ เหนื่อย อ่อนเพลีย แก้ไอ แก้เสมหะ ตัวยาสำคัญคือ รากแฝกหอม อบเชยญวน เห็ดนมเสือ หญ้าฝรั่น ชะมดเช็ด โคโรค 3. ยาหอมประจักร์ แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ตัวยาสำคัญ คือ พิมเสน โสมเกาหลี ชะมดเช็ด หญ้าฝรั่น เหง้าขิงแห้ง 4. ยาหอมสว่างภพ แก้วิงเวียน หน้ามืด แก้ ไข้ สะท้านร้อนสะท้านหนาว ตัวยาสำคัญ คือ ใบพิมเสน หญ้าฝรั่น โสมเกาหลี ชะมดเช็ด
“ในอดีต ยาหอมทั้ง 4 ตำรับได้รับความนิยมอย่างมาก และก็ยังคงถ่ายทอดทั้งกรรมวิธี และกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมด้วย เครื่องมือโบราณ ที่ใช้ในการปรุงยา ขายให้ได้กับลูกค้า โดยตนเองมารับหน้าที่ในการดูแลกิจการ ต่อจากรุ่นแม่ และป้า และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไปของสังคมเมืองไทย ทำให้ปัจจุบันความนิยมในการบริโภค ยาหอมได้ลดน้อยลงไปทุกที ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อ และทัศนคติที่มีต่อ ยาหอม ที่ถูกมองว่า เป็นเรื่องล้าสมัย สรรพคุณในการรักษาไม่ชัดเจน และขาดผลการรับรองทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน เป็นอุปสรรคในการทำให้ยาหอมกลับมาได้ความนิยมอีกครั้ง”
สร้างความเข้าใจคนรุ่นใหม่
ดังนั้น หน้าที่ของ บำรุงชาติสาสนายาไทย จึงต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีและถูกต้อง เกี่ยวกับยาหอมให้กับคนรุ่นหลัง โดยการนำเสนอรูปแบบเรื่องราวในอดีตของยาหอม ที่แสดงถึง ศาสตร์และศิลป์ ที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษให้กับมามีชีวิตอีกครั้ง ในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ในแบบเดิมที่นำกลับมาทำใหม่ และ ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับขั้นตอนการปรุงยาหอม เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการปรุงยา ทุกอย่างเรายังคงใช้ของเก่า รวมทั้งใช้บ้านซึ่งเดิมเป็นสถานที่ปรุงยาของหมอหวานมาเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดถึงความเก่าแก่ของยาหอมหมอหวานอีกทางหนึ่ง
นางสาวภาสินี เล่าว่า เธอได้มารับดูแลกิจการต่อจากป้า และแม่อย่างเต็มตัวได้ประมาณ 6 เดือน ซึ่งการเข้ามาทำจุดนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะสร้างค่านิยมของคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจ หรือใช้ยาหอม แต่สำหรับตนเองกลับคิดไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำเป็นสิ่งที่เรามีความชื่นชอบอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องใช้เวลาในการที่จะบอกเล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับคนรุ่นใหม่รับรู้
สำหรับที่ผ่านมาก่อนที่คุณภาสินี จะเข้ามาทำอย่างเต็มตัว ลูกค้ายาหอมของบ้านหมอหวานจะเป็นกลุ่มเดิมที่เคยใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ราย สูตรยาหอมและขั้นตอนการทำจะยังคงรูปแบบเดิม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานทำมือ โดยป้าจะรับหน้าที่ในทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้การทำในแต่ละครั้งจะได้จำนวนไม่มาก โดยไม่ได้มีการว่าจ้างแรงงานแต่อย่างใด เพราะคุณป้าพอใจที่จะทำด้วยตัวเองมากกว่า เพื่อจะได้รักษาคุณภาพให้คงที่
ในส่วนของการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่คุณภาสินี เข้ามารับดูแลกิจการ ก็คือ การได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น จากการทำประชาสัมพันธ์ และการแนะนำสินค้าตามสถานที่ที่ดูว่าน่าจะต้องกลุ่มเป้าหมาย เช่น ที่สถานที่ปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถาน ซึ่งการออกร้านที่เสถียรฯ เป็นโอกาสให้เราได้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และค่อนข้างจะตรงกลุ่มลูกค้าที่เราวางไว้ เพราะที่เสถียร จะมีคนมาปฏิบัติธรรมกันเป็นครอบครัว เมื่อเด็กเห็นจะสนใจ เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในบ้านจะแนะนำ ทำให้เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น
ทำชุดของขวัญขายในโอกาสพิเศษ
นอกจากนี้ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น จึงได้มีการจัดทำในลักษณะของกิ๊ฟเซ็ท ของขวัญ เพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อกลับไปฝากญาติผู้ใหญ่ในโอกาสพิเศษ แม้ไม่ใช้เองแต่ก็สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ ในส่วนของกล่องใส่กิ๊ฟเซ็ท เป็นการลอกเลียนแบบมาจากกล่องไม้ ที่คุณตาทวดได้รับพระราชทานมา โดยภายในกล่องจะบรรจุยาหอมทั้ง 4 ตำรับ
จากการออกร้านที่ต่างๆ จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่เด็กจะจูงผู้ใหญ่มาซื้อ เพราะชื่นชอบในรูปแบบ หรือวัยรุ่น ซื้อให้แม่ หรือ ยาย เพราะบางครั้งผู้ใหญ่จะรู้สึกเขินอายที่จะซื้อยาหอม เพราะหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ล่าสมัย เป็นเรื่องของคนแก่ และในอนาคตมีแผนที่จะไปร่วมกับร้านสปา โดยการนำสินค้าไปให้บริการภายในร้านสปา หลังจากการให้บริการ ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ดื่ม เกิดสนใจลูกค้าซื้อกลับไปชงดื่มที่บ้านด้วย
ส่วนราคายาหอมของบ้านหมอหวานอาจจะแตกต่างจากยาหอมทั่วไป เพราะให้ความสำคัญกับคุณภาพของส่วนผสม และทำตรงตามตำรับยา ซึ่งทำได้ครั้งละไม่มาก เนื่องจากเป็นงานที่ต้องอาศัยฝีมือล้วนๆ ราคาจึงค่อนข้างสูง ซึ่งจะเห็นว่าสมุนไพรหลายชนิดนั้นเริ่มหายากในปัจจุบัน และมีราคาสูงมากทำให้เราต้องมีการปรับราคาตามไปด้วย ส่วนราคาขายปัจจุบันทำขายเป็นเม็ด เช่น สูตรสุรามฤทธิ์ ราคาเม็ดละ 30 บาท ส่วนอีกสามสูตรจะขายราคาเม็ดละ 5 บาทถึง 7 บาท ชุดของขวัญ ราคาเริ่มต้น 580 บาท ไปจนถึง 1580 บาท
โทร. 08-6316-6309 , www.mowaan.com