โอ่งน้ำล้น ‘แก่นจันท์เซรามิก’ เชื่อมธรรมชาติตอบโจทย์ฮวงจุ้ย

จากแนวคิดและการสร้างสรรค์ของผู้ผลิต จ.ราชบุรี ภายใต้ชื่อ ‘แก่นจันท์เซรามิก’ นำมาสู่ผลงานโอ่งน้ำล้นเซรามิก ตอบความต้องการลูกค้าได้ทั้งความสวยงามโดดเด่น เหมาะใช้ตกแต่งบ้านหรือสวย ขณะเดียวกัน ยังช่วยเสริมความเชื่อในศาสตร์ฮวงจุ้ยได้อย่างดี


นรินทร์ สุขพอดี ผู้ดูแลธุรกิจผลิตภัณฑ์เซรามิก “แก่นจันท์เซรามิก” เล่าว่า ผู้บุกเบิกธุรกิจ คือ คุณพ่อของเธอ (บุญนำ สุขพอดี) ได้แรงบันดาลใจจากครอบครัวเป็นชาวจังหวัดราชบุรี ดินแดนขึ้นชื่อด้านการผลิตโอ่งน้ำ จึงอยากนำของดีประจำท้องถิ่นมาสร้างเป็นอาชีพ

“ส่วนตัวแล้ว คุณพ่อไม่เคยมีความรู้ด้านการปั้นโอ่งเลย อาศัยเป็นคนรักการแต่งสวน ทำให้อยากจะผลิตโอ่งเซรามิกที่เหมาะจะใช้เป็นของแต่งสวนมากกว่าจะผลิตโอ่งลายมังกรทั่วไป ซึ่งมีผู้ผลิตจำนวนมากแล้ว อีกทั้ง ความนิยมในการใช้ ก็เหลือไม่มากนัก” ทายาทธุรกิจ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเมื่อราว 7-8 ปีที่แล้ว

จากความตั้งใจดังกล่าว บุญนำเพียรศึกษากรรมวิธีการผลิตด้วยตัวเอง พร้อมลงทุนกว่า 1 ล้านบาทสร้างโรงงาน “แก่นจันท์เซรามิก” โดยผลิตงานแล้วแบกขึ้นท้ายรถกระบะวิ่งจากราชบุรีมาขายส่งตามร้านในตลาดสวนจตุจักร ที่กรุงเทพฯ

ทว่า เวลานั้น สินค้ายังขาดความโดดเด่น แบบและสีสันเหมือนกับโอ่งทั่วๆ ไปในท้องตลาด ประกอบกับยังไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจอยู่ในระดับแค่ประคองตัว

“หลังจากทำได้ประมาณ 2 ปี เริ่มสะสมประสบการณ์มากขึ้น ยิ่งเมื่อไปออกงานแสดงสินค้า ลูกค้ามักเข้ามาถามว่าสินค้ามีสไตล์เด่นอย่างไร? ทำให้คุณพ่อเริ่มคิดรูปแบบโอ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บังเอิญเวลานั้น ต้นลั่นทม เปลี่ยนชื่อเป็นลีลาวดี ทำให้มีผู้นิยมปลูกลีลาวดีในบ้านจำนวนมาก ช่วยจุดประกายให้คุณพ่อคิดลายดอกลีลาวดีประดับบนโอ่ง เพื่อให้ลูกค้าซื้อโอ่งไปวางไว้คู่กับต้นลีลาวดี” ทายาทธุรกิจ เผย

นอกจากนั้น จากเดิมมีแค่สีพื้น 3 สีเท่านั้น คือ เขียว น้ำเงิน และน้ำตาล ได้แปลงโฉมด้วยเทคนิคผสมสีให้ออกมาหลากหลาย เน้นสดใส สว่าง เหมาะจะนำไปวางในสวน ขณะที่การเผาใช้เตาผืน สีที่ออกมาจึงมีลักษณะค่อนข้างไหลย้อย ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเผาจากเตาไฟฟ้า

อีกทั้ง จากความเชื่อทางฮวงจุ้ยของคนไทยที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการมีน้ำล้นน้ำผุดอยู่หน้าบ้าน ดังนั้น “แก่นจันท์เซรามิก” ใช้โอกาส นำโอ่งมาประยุกต์เป็นโอ่งน้ำผุดรายแรกๆ ของประเทศ ทำให้สินค้าสามารถตอบสนองลูกค้าได้ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการแต่งสวน และผู้ที่มีความเชื่อด้านฮวงจุ้ย

ทั้งนี้ วางตำแหน่งสินค้าเป็นทางเลือกของลูกค้าระดับกลางจริงๆ ที่อาศัยตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ สามารถซื้อไปประดับบ้านได้ด้วยตัวเอง ในระดับราคาไม่สูงเกินไป ขายราคาชุดละตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท ผลิตจากช่างฝีมือชาวราชบุรีแท้ๆ

นรินทร์ เล่าว่า ผลจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้า พร้อมนำศาสตร์ฮวงจุ้ยมาร่วมเป็นจุดขาย ช่วยให้ยอดขายสูงจากเดิมมากกว่าเท่าตัว

“หลังจากออกสินค้าแบบใหม่ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจ บางคนไม่เคยคิดจะแต่งสวนมาก่อน ก็เกิดอยากแต่งบ้านและสวนขึ้นมา เพราะนอกจากสวยงาม ยังช่วยเสริมเรื่องฮวงจุ้ยด้วย โดยกลุ่มลูกค้าหลัก จะเน้นระดับกลาง เช่น คนทำงานกินเงินเดือนสามารถซื้อหาเป็นชุดสำเร็จรูปติดตั้งได้เอง ต่างกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่จะเน้นทำตลาดกับกลุ่มองค์กร หรือลูกค้าตลาดบน” นรินทร์ อธิบาย

ทั้งนี้ สินค้าของ “แก่นจันท์เซรามิก” เน้นโอ่งขนาดกลางถึงใหญ่ มีรวมกันกว่า 80 แบบ ด้านช่องทางจำหน่าย ขายปลีกผ่านหน้าร้าน เช่น ริมถนนราชพฤกษ์ ใกล้วงเวียนพระราม 5 สนามหลวง 2 และย่านมีนบุรี เป็นต้น และขายส่งผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ตลาดนัดสวนจตุจักร และตัวแทนที่ จ.เชียงใหม่ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังผลิตตามคำสั่งซื้อของบริษัทบ้านจัดสรรชื่อดังหลายราย

ด้านการผลิตนั้น วัตถุดิบใช้ดินขาวจาก จ.ลำปาง และสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นดินคุณภาพสูงที่สุดในประเทศ ส่วนแรงงานผลิต มีประมาณ 30 คน โดยใช้เวลาทำงาน หากเป็นขนาดกลางประมาณ 20 วัน/ชิ้น ส่วนชิ้นใหญ่ประมาณ 30 วัน/ชิ้น

สำหรับปัญหาธุรกิจนั้น ทายาทธุรกิจ เล่าว่า หลังจากสินค้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้มีผู้ผลิตหลายรายเลียนแบบสินค้า พยายามแย่งฐานลูกค้าโดยเสนอขายตัดราคา

ทว่า เนื่องจากผู้ผลิตเลียนแบบ ต้องลดคุณภาพทั้งด้านวัตถุดิบ ขั้นตอนเผา และการลงสี เพื่อจะขายในราคาถูกกว่า สินค้าที่ออกมาจึงขาดคุณภาพ เกิดปัญหารั้วและแตก ในที่สุด ลูกค้าที่หันไปลองซื้อสินค้าจากคู่แข่งจะกลับมาซื้อสินค้าของ “แก่นจันท์เซรามิก” อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ปัญหาที่หนักหนาอย่างแท้จริงในเวลานี้ คือ สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว จากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่พื้นฐานแล้ว สินค้าของแต่งสวนต่างๆ ถือเป็นสินค้ากลุ่มฟุ่มเฟือย เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคจะหยุดซื้อสินค้ากลุ่มนี้ก่อนเป็นอันดับแรก

“ยอมรับว่า ตอนนี้ยอดขายลดลงอย่างน่าใจหาย จากเฉลี่ยปีที่แล้ว ยอดขายยังไม่หักค่าใช้จ่าย ประมาณเดือนละ 3 แสนบาท มาปีนี้ เหลือเดือนละไม่ถึงแสน เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ปรากฏว่า ขาดทุน ดังนั้น พยายามใช้จ่ายอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด เพื่อประคับประคองธุรกิจ โดยเฉพาะดูแลคนงานให้อยู่รอดไปด้วยกัน และตั้งความหวังว่า สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นในเร็ววัน” นรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

************************

โทร.08 1550 6646 , 08 6554 3355 หรือwww.kanchanceramic.com