ก.คลัง เลื่อนแผนควบกิจการเอสเอ็มอีแบงก์ และบสย. เกรงลูกค้าหวั่นไหว นำไปสู่การเบี้ยวชำระหนี้ ประกอบการ ศก.ชะลอตัว และการเมืองวุ่น หากเร่งรวมกิจการจะยิ่งใส่ไฟให้เกิด NPL มากยิ่งขึ้น
แหล่งข่าวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์ ) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวที่ว่า กระทรวงการคลัง เตรียมจะควบรวมกิจการระหว่างเอสเอ็มอีแบงก์ กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นั้น อาจจะต้องชะลอแนวคิดดังกล่าว ไว้ก่อน เนื่องจากการรวมกิจการ อาจจะส่งผลกระทบทำให้ลูกหนี้ของธนาคารเกิดความไม่มั่นใจ ซึ่งจะนำไปสู่การไม่ยอมมาชำระหนี้ตามกำหนด
นอกจากนั้น จากปัญหาการเมืองที่มีผลกระทบทำให้เศรษฐกิจซบเซา และมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อยู่แล้ว จะยิ่งทำให้ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารปรับตัวสูงขึ้น จากที่อยู่ระดับสูงกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่า 44% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2550
แหล่งข่าวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์ ) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวที่ว่า กระทรวงการคลัง เตรียมจะควบรวมกิจการระหว่างเอสเอ็มอีแบงก์ กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นั้น อาจจะต้องชะลอแนวคิดดังกล่าว ไว้ก่อน เนื่องจากการรวมกิจการ อาจจะส่งผลกระทบทำให้ลูกหนี้ของธนาคารเกิดความไม่มั่นใจ ซึ่งจะนำไปสู่การไม่ยอมมาชำระหนี้ตามกำหนด
นอกจากนั้น จากปัญหาการเมืองที่มีผลกระทบทำให้เศรษฐกิจซบเซา และมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อยู่แล้ว จะยิ่งทำให้ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารปรับตัวสูงขึ้น จากที่อยู่ระดับสูงกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่า 44% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2550
