ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว สถานที่พักสำหรับผู้มาเยือน จ.สุพรรณบุรี จะมีแค่โรงแรมในตัวเมืองเท่านั้น กระทั่ง “ท.พ.อนุศักดิ์ คงมาลัย” และ “เพิ่มศักดิ์ แสงประสิทธิโชค” ร่วมกันบุกเบิกธุรกิจรีสอร์ทแห่งแรกของเมืองสุพรรณ ในชื่อ “วังยางรีสอร์ท โฮเทล แฮนด์ สปา” โดยนำเสนอเป็นสถานที่พักผ่อนอันสงบ และสวยงามพร้อมต้อนรับผู้มาเยือน เปรียบเหมือนห้องรับแขกของจังหวัด
จากจุดเด่นดังกล่าว ส่งให้รีสอร์ทแห่งนี้ มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จมายาวนานถึงปัจจุบัน ทว่า ในยุคนี้ที่เศรษฐกิจชะลอตัว วังยางรีสอร์ทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ พลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยเสนอตัวเองเป็นทางเลือกสถานที่พักผ่อนใกล้กรุงฯ ช่วยประหยัดทั้งเวลาเดินทาง และประหยัดค่าน้ำมัน
ศิริพร วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วังยางริเวอร์พาร์ครีสอร์ท จำกัด อธิบายว่า กลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ หน่วยงานทั้งเอกชน และรัฐบาลที่มาใช้สถานที่จัดประชุมสัมมนาต่างๆ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนก่อนปิดงบประมาณประจำปีของหน่วยงานภาครัฐ ห้องพักจะแน่นขนัดไม่เพียงพอบริการ
อย่างไรก็ตาม ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจชะลอตัวจากวิกฤตน้ำมันแพง หลายหน่วยงานโดยเฉพาะภาคเอกชน รัดเข็มขัดโดยตัดงบส่วนสัมมนาต่างจังหวัดออกไป กระทบยอดผู้เข้าพักลดลง จากปัญหาดังกล่าว ผู้บริหารวังยางรีสอร์ทฯ พลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยเสนอตัวเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในราคาประหยัด พร้อมกับหาลูกค้ากลุ่มใหม่ทดแทนควบคู่กันไป
“ช่วงน้ำมันราคาแพง หลายหน่วยงานที่เคยไปสัมมนาไกลๆ ก็เลือกมาที่สุพรรณฯ แทน เพราะเดินทางสะดวก ประหยัดค่าน้ำมัน ราคาที่พักก็ไม่แพง อยู่ในงบประมาณที่รับได้ ทำให้เราได้ลูกค้ากลุ่มนี้มาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป”
นอกจากนั้น ขยายหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ต้องการแหล่งพักผ่อนราคาประหยัด เดินทางสะดวก เช่น นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ มาจัดกิจกรรมรับน้อง และครอบครัวมาพักผ่อนสุดสัปดาห์ เป็นต้น รวมถึง สร้างเครือข่ายกับบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากภาคเหนือแล้วกำลังจะต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางภาคตะวันออก หรือภาคใต้ให้มาแวะพักที่วังยางรีสอร์ทฯ ซึ่งปัจจุบันจะมีทัวร์ต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศสมาแวะพักไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งต่อเดือน ครั้งละประมาณ 40 คน
ผู้จัดการทั่วไป ระบุว่า การขยายตลาดลักษณะนี้ สิ่งสำคัญต้องให้ลูกค้าทุกกลุ่มที่เข้าพักรู้สึกพออกพอใจในบริการ ทั้งด้านมาตรฐานการบริการ รวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมรองรับได้เหมาะสม เช่น สำหรับกลุ่มประชุมสัมมนา มีห้องประชุมขนาดต่างๆ ไว้รองรับ ทั้งห้องขนาด 200 คน 80 คน และ 40 คน ภายในมีอุปกรณ์ทันสมัยครบถ้วน ซึ่งส่วนนี้ ผู้บริหารวังยางรีสอร์ทฯ ยอมลงทุนปรับปรุง และสร้างอาคารใหม่ โดยใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพราะถือเป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก โดยได้สินเชื่อสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
อีกทั้ง มีลานกิจกรรม และลานกีฬา ไว้รองรับการละเล่นเชื่อมสัมพันธ์ภายในองค์กร หรือกิจกรรมรับน้อง นอกจากนั้น เสริมโปรแกรมเพื่อสุขภาพ เช่น นวดสปา บริการสระว่ายน้ำ เรือพาย จักรยาน เป็นต้น และเพื่อให้ผู้เข้าพักเกิดความประทับใจ จึงร่วมมือกับชุมชนพ่วงกิจกรรมวิธีชีวิตชุมชนไว้ด้วย โดยให้ผู้เข้าพักได้ตักบาตรทางน้ำ ลงเรือไหว้พระเก้าวัด และพาไปดำนาเกี้ยวข้าว เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษา และชาวต่างชาติ
ศิริพร ระบุว่า การทำตลาดของวังยางรีสอร์ทฯ อาศัยลูกค้าที่เคยเข้าพักบอกปากต่อปาก รวมถึง มีทีมขายไปเสนอแพจเกจราคาประหยัดแก่หน่วยงานต่างๆ และออกงานแฟร์ด้านการท่องเที่ยว โดยเฉลี่ยรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่าย ประมาณ 1-1.5 ล้านบาทต่อเดือน ลูกค้าประมาณ 60% คือ หน่วยงานต่างๆ ส่วนที่เหลือกระจายทั้งกลุ่มครอบครัว นักท่องเที่ยวต่างชาติ และอื่นๆ
ทั้งนี้ วังยางรีสอร์ทฯ มีพื้นที่กว่า 50 ไร่ มีห้องพักทั้งหมด 55 ห้อง ทั้งแบบ บ้านเดี่ยวติดริมน้ำ แบบอาคาร บ้านบังกะโล บ้านเรือ และบ้านรถไฟ สามารถรองรับแขกได้สูงสุด 155 คนต่อวัน ราคาที่พัก 800-1,200 บาท มีพนักงานประจำ 35 คน
ในส่วนปัญหานั้น ศิริพร ระบุว่า ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว มีจุดด้อย หากเป็นฤดูท่องเที่ยวจะมีคนต้องการเข้าพักพร้อมๆ กันจนห้องพักไม่พอบริการ ส่วนนอกฤดูท่องเที่ยว ผู้เข้าพักจะลดลงกว่าครึ่ง ปัญหาธุรกิจจึงต้องพยายามหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มาเสริม และบริหารให้มีแขกเข้าพักต่อเนื่องตลอดทั้งปี
******************
โทร.035-548-869-71 หรือ www.wangyangresort.com