สมัยนี้การหาโรตีรับประทาน ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดาย เพราะสามารถหารับประทานได้ตามตรอกซอกซอย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ประกอบการต่างสรรหากรรมวิธีสร้างความแตกต่าง และดึงดูดใจให้กับลูกค้า หวังให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ซึ่งการแข่งขันดังกล่าว สุดท้ายประโยชน์ก็จะมาตกอยู่ที่ผู้บริโภค เพราะจะได้ลิ้มลองโรตีที่มีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ
โดยล่าสุดได้มีผู้ประกอบการรายหนึ่ง ที่ถึงแม้ขณะนี้จะคลุกคลีอยู่ในวงการสื่อสารมวลชน แต่ก็ยังเจียดเวลาไปประกอบธุรกิจเล็กๆ ช่วงหลังเลิกงาน หวังเป็นรายได้เสริม และต่อยอดให้อาชีพนี้เป็นทางออกให้กับผู้ที่กำลังตกงานในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง
นายวิฑูรย์ ศรีชัยศักดิ์ หรือ โกเหน่ง เจ้าของธุรกิจ “โรตี-ตัดกรอบ” ที่ได้มีการนำแป้งโรตีสูตรเฉพาะ มาทอดกรอบ และตัดเป็นชิ้นๆ โรยหน้าด้วยนม น้ำตาล และเครื่องโรยหน้าอื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งธุรกิจนี้เริ่มต้นจากการที่ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 คิดหาอาชีพเสริมด้วยการทำโรตีขาย ในช่วงหลังเลิกงาน ซึ่งในช่วงแรกเป็นการทำโรตีแบบธรรมดาทั่วไป ต่อมาจึงคิดดัดแปลง มาทำเป็นโรตี-ตัดกรอบ เพื่อสร้างความแตกต่าง ซึ่งแนวคิดดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า
“ผมได้สูตรการทำแป้งโรตีมาจากญาติ ที่ทำโรตีอยู่เดิม ซึ่งจุดเด่นคือเมื่อนำมาทำโรตี แป้งจะกรอบมาก และเมื่อนำมาตัดระหว่างการทอด จะทำให้ได้โรตีที่กรอบ จนดูจากภายนอกจะเหมือนแผ่นเกี๊ยวทอดกรอบ ต่อมาเมื่อคิดทำโรตีตัดกรอบแล้ว ผมก็จึงออกแบบรถเข็นควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างจุดขายและดึงดูดลูกค้า ซึ่งสินค้าก็ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จากที่เริ่มขายในซอยเรวดี จ.นนทบุรี ขายดีและทำขายไม่ทัน”
สำหรับจุดเด่นของโรตี-ตัดกรอบ นอกจากชื่อจะชวนให้ลิ้มลองแล้ว รูปลักษณ์ของสินค้ายังแปลกใหม่ไม่เหมือนใครอีกด้วย คือ เมื่อตัดโรตีให้เป็นแผ่นพอดีคำแล้ว นำมาจัดวางราดด้วยช็อคโกแลต กล้วยหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกชิด ฝอยทอง ลูกเกด หรือ อื่นๆ ตามชอบใจ แต่หน้าที่ลูกค้านิยมคือ ราดนม (ราคา 20 บาท 12 ชิ้น) หรือช็อคโกแลต เพื่อนำไปรับประทานกับกาแฟ ในตอนเช้า และบางคนก็นิยมซื้อไปแล้วเก็บแช่ในตู้เย็น และนำมาอบไมโครเวฟก่อนรับประทาน
เมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัว โกเหน่ง ก็คิดจะขายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ และเน้นไปที่ผู้ที่ตกงาน และต้องการมีอาชีพ เนื่องจากในช่วงแรกโกเหน่งก็คิดขายแฟรนไชส์ให้คนทั่วไปที่มีความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจ แต่เมื่อได้มีคุณป้า ติดต่อเข้ามาว่าต้องการทำธุรกิจนี้เพราะตกงาน ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นคุณป้าไม่มีเงินลงทุนในการซื้อรถเข็น แต่โกเหน่งก็ให้รถเข็นคุณป้าไปตั้งขายที่เซียร์ รังสิต จนกระทั่งสามารถปลดหนี้ และมีรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัว
และนี่เองคงเป็นการจุดประกายให้กับพนักงานช่างภาพของช่อง 5 ที่คิดขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ แต่ไม่มีเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์ใดๆ ซึ่งจะพิจารณาผู้ที่ตกงานเป็นอันดับแรก เพราะมั่นใจว่าอาชีพนี้จะช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกงานได้อย่างแท้จริง
“การลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ของผมจะไม่มีการเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์ใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ผู้ลงทุน จะต้องซื้อรถเข็น พร้อมอุปกรณ์ในราคาประมาณ 20,000-30,000 บาท แต่หากผู้ลงทุนมีหน้าร้านอยู่แล้ว การลงทุนก็จะน้อยลงไป ส่วนขั้นตอนการทำทางผมจะเป็นผู้สอนให้ ในขณะแฟรนไชส์ซีจะต้องซื้อหัวเชื้อ (ราคา 100 บาท สามารถนำไปปั้นแป้งโรตีได้ 60 ลูก) เพื่อนำไปผสมกับแป้งโรตี เพื่อให้เกิดความกรอบ และคงความเป็นเอกลักษณ์ของโรตี-ตัดกรอบ แบบเดียวกัน ซึ่งส่วนผสมมาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีสารเพิ่มความกรอบ”
ปัจจุบันร้านโรตี-ตัดกรอบ มีทั้งหมด 5 สาขา คือที่ เซียร์ รังสิต เปิดขายตั้งแต่เวลา 14.00-21.00 น. ตลาดนัดหลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (พระราม 7) เปิดขายวันจันทร์-ศุกร์ เว้นวันหยุดราชการ เวลา 06.00-14.00 น. ตลาดศรีเขมา ย่านบางซื่อ เวลา 18.00-21.00 น. ห้างแพลตตินั่ม มอลล์ ชั้น 6 และหน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี อ.เมือง จ.พิษณุโลก
***สนใจติดต่อ 08-6537-7779***
