ย่านเข้าเดือนเมษายน สิ่งที่คนทั่วไปจะนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ คือ อากาศร้อนอบอ้าว กับเทศกาลวันสงกรานต์ ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจำนวนไม่น้อย มักหยิบเอากระแสนี้ มาต่อยอดเป็นไอเดียธุรกิจเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ โดยเฉพาะธุรกิจด้านแฟชั่น ทุกปีจะมีสินค้าแปลกใหม่ออกมาสร้างความฮือฮาเกาะกระแสได้ดีเสมอ อย่างเช่นไอเดียธุรกิจต่อไปนี้
************************************
My Happy Mom มิติใหม่กางเกงเล
เริ่มต้นจากกางเกงเล แบรนด์ My Happy Mom จากผู้ประกอบการรายเล็กๆ อย่าง “หยาดพิรุณ นุตสถาปนา” เกิดจากไอเดียที่เห็นว่า กางเกงเลแบบเดิมๆ แม้ว่าจะใส่สบาย แต่ก็มีปัญหาไม่สะดวกที่จะใส่ไปนอกสถานที่ เพราะนอกจากรูปทรงที่หลวมโพรกแล้ว การสวมโดยอาศัยการมัดปม อาจเกิดเหตุสุดวิสัยหลุดได้
ดังนั้น ได้ประยุกต์กางเกงเลแบบใหม่ให้สามารถสวมใส่ได้กระชับเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ดีไซน์คล้ายกับกางเกงขาสั้น หรือกางเกง 3 ส่วน โดยใช้เชือดผูกเอว เพื่อให้สวมใส่มั่นคงยิ่งขึ้น แถมยังใส่สบายเช่นเดิม อีกทั้ง เสริมให้มีกระเป๋ากางเกงด้วย
ทั้งนี้ เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บมีทั้งผ้าฝ้ายสีพื้น ลายดอก รวมถึง ใช้ผ้าถุงลายไทยเสริมความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับแบบของกางกางเล My Happy Mom มีทั้งหมด 5 แบบ ใช้พันธุ์ดอกไม้ต่างๆ เป็นชื่อเรียกแทน ได้แก่ เล็บมือนาง ลีลาวดี ดอกแก้ว บานชื่น และต้อยติ่ง เหตุผลเพราะรักดอกไม้ และช่วยให้จดจำได้ง่าย อีกทั้ง กระตุ้นความสนใจจากลูกค้า
หยาดพิรุณ เล่าว่า จุดเด่นของ My Happy Mom คือ เป็นงานแฮนด์เมด ฝีมือตัดเย็บละเอียดเรียบร้อย รับทำตามจำนวนสั่งซื้อ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสตรีตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน ขายในราคาตัวละ 169 - 199 บาท โดยช่วงเทศกาลอย่างปีใหม่ และสงกรานต์ จะขายดีเป็นพิเศษ ยอดเพิ่ม 2-3 เท่าตัว ลูกค้านิยมซื้อไปเป็นของฝากของขวัญ หรือซื้อไปสวมใส่เอง เวลาไปเที่ยวชายทะเล หรือใส่เล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษไว้รองรับ อย่างสงกรานต์ปีนี้ ลดราคาทุกแบบ 10% เป็นต้น
ด้านการตลาดกับจุดเริ่มต้นธุรกิจของ My Happy Mom ก็น่าสนใจเช่นกัน เจ้าของธุรกิจ เล่าถึงแรงบันดาลใจ เกิดจากอยากให้คุณแม่ ซึ่งอายุมากแล้วได้ใช้เวลาว่างทำงานเล็กๆ น้อยๆ แก้เบื่อ และเนื่องจากคุณแม่เคยเป็นช่างเย็บเสื้อมาก่อน จึงช่วยกันออกแบบและตัดเย็บเริ่มต้นจากชุดนอนดีไซน์เก๋ๆ ก่อนพัฒนาเป็นสินค้าอื่นๆ เช่น กางเกงเล กระเป๋าผ้า เป็นต้น ขายผ่านเว็บไซต์ www.myhappymom.com และจัดส่งตามไปรษณีย์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ง่าย และประหยัด เหมาะสมกับธุรกิจเล็กๆอย่างนี้
หยาดพิรุณ เล่าต่อว่า หลังขายผ่านอินเตอร์เน็ตไม่นาน ลูกค้ารู้จักมากขึ้น เกิดกระแสบอกปากต่อปาก มียอดสั่งสินค้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามเทศกาลต่างๆ จะมากเป็นพิเศษ จากเดิมหวังแค่ให้คุณแม่ทำเป็นงานอดิเรก แต่ทุกวันนี้ ยอดสั่งล้นจนบางครั้งเกิดปัญหาทำไม่ทัน ดังนั้น หากแนวโน้มยังดีเช่นนี้ ในอนาคตอาจพัฒนาเป็นธุรกิจอย่างจริงจังยิ่งขึ้น เพื่อขยายกำลังผลิตต่อไป
************************************
Glitter-Tattoo บอดี้เพนท์ ท้าสาดน้ำ
อีกธุรกิจที่จับกระแสวันสงกรานต์ คือ Glitter-Tattoo ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ทำบอดี้เพนท์ ติดตามเรือนร่าง โดยมีจุดเด่นสำคัญ ติดทนนาน โดนน้ำไม่ลอก เอาใจกลุ่มวัยรุ่นประดับร่างกายเป็นแฟชั่นเก๋ๆ อวดโชว์เวลาเล่นน้ำสงกรานต์
ชุลีวรรณ อัสววิทูรทิพย์ ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอเอ็นพี กรุ๊ป เผยว่า Glitter-Tattoo เป็นเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เอาใจกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบศิลปะตามร่างกายแต่ไม่ต้องการจะสักถาวร หันมาเลือกใช้รอยสักแบบติดชั่วคราว หรือศิลปะบอดี้เพนท์แทน อย่างไรก็ตาม ของเดิมๆ ที่ขายตามท้องตลาดมีปัญหาบางคนใช้แล้วเกิดอาการแพ้ อีกทั้ง เมื่อถูกน้ำก็จะหลุดลอก ต่างกับ Glitter-Tattoo ซึ่งมาอุดปัญหาดังกล่าวทั้งหมด เพราะกาวที่ใช้ติดกับผิว เป็นกาวคอสเมติกที่ใช้กับเครื่องสำอาง ตัดปัญหาเกิดอาการแพ้ไปได้ รวมถึง เป็นกาวชนิดพิเศษติดทนนานกว่า 3-14 วัน โดนน้ำไม่ลอก และจุดเด่นอีกประการ คือ ผงสีที่ติดลงไปจะเป็นประกายแวววาว และเรืองแสงในเวลากลางคืนด้วย
สำหรับ Glitter-Tattoo จะเป็นชุดอุปกรณ์สำเร็จรูปในตัว มีลวดลายให้เลือกนับ 1,000 แบบ ภายในชุดประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สติกเกอร์ กาว ผงกากเพชรสี และน้ำยาล้าง เป็นต้น ให้บริการในราคาครั้งละ 79 และ 89 บาท กระบวนการติดทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาแค่ 3 นาที โดยลอกสติกเกอร์ใสออกมาพร้อมกับแบบ แล้วนำไปติดตามจุดที่ต้องการ ทากาวบริเวณช่องแบบให้ทั่ว ลอกแบบออกแล้วลงผงสีตามต้องการ นำแปลงใหญ่มากดผงให้แน่น ปัดทำความสะอาดรอบๆ รอกาวแห้งเป็นอันเสร็จสมบูรณ์
ชุลีวรรณ อธิบายต่อว่า จากจุดเด่นโดนน้ำไม่ลอก จึงใช้เป็นโอกาสเชื่อมกับกระแสวันสงกรานต์ เน้นประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซื้อหาไปติดตามร่างกาย เพื่อเป็นแฟชั่นเวลาเล่นน้ำ รวมถึง หาลูกค้ากลุ่มบริษัท หรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการในเทศกาลนี้ นำโลโก้หรือแบรนด์ตัวเองมาออกแบบเป็นการเฉพาะ เพื่อติดตามเรือนร่างพนักงานเวลาลงพื้นที่ เป็นต้น
สำหรับช่องทางตลาดจะผ่าน www.glitter-tattoo.com และกำลังหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งสนใจนำไปทำเป็นธุรกิจเสริมให้บริการตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนช่วงสงกรานต์ปีนี้ จะเน้นทำตลาดตามแหล่งเล่นสงกรานต์ยอดฮิต เช่น ถนนข้าวสาร เมืองพัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น
***************************************
“ม่อฮ่อมนาโน” นวัตกรรมใหม่ใส่รับสงกรานต์
ปัจจุบัน การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า กำลังเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายพยายามผลักดัน เพื่อจะให้สินค้าไทยมีศักยภาพสามารถแข่งขันต่างชาติได้
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ผู้มีหน้าที่ผลักดันการสร้างนวัตกรรม ได้ใช้โอกาสวันสงกรานต์มาเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะด้านแฟชั่นสิ่งทอไทยตื่นตัวจะพัฒนาสินค้าให้มีคุณลักษณะพิเศษ โดยจัดทำ “ม่อฮ่อมนาโม”
ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสนช. เผยว่า “ม่อฮ่อมนาโน” มีคุณสมบัติพิเศษ 3 ประการ ได้แก่ 1.เคลือบอนุภาคนาโนพอลิเมอร์เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของผ้าให้ดูดซับน้ำได้ลดลง ทำให้ผ้าแห้งเร็ว ภายในเวลาประมาณแค่ 10-20 นาที หรือเร็วกว่าผ้าทั่วไป 2-3 เท่าตัว 2. ใช้เทคโนโลยีไมโครแคปซูล เพื่อกักเก็บน้ำมันหอมระเหยของมะลิเอาไว้ จากนั้นกลิ่นจะค่อยๆ ปล่อยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของมะลิออกมา มีอายุอยู่ได้นานประมาณการซัก 20 ครั้ง และ 3. เคลือบนาโนซิลเวอร์เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
สำหรับการพัฒนานวัตกรรมนี้ สนช. ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 250,000 บาท ดำเนินการร่วมกับเอกชน คือ บริษัท นาโนโพลิส จำกัด ร่วมถึงด้านวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ผลิตนำร่องออกสู่ตลาด ในเทศกาลสงกรานต์นี้ จำนวน 1,000 ตัว ราคาขายปลีกตัวละ 249 บาทเท่านั้น
สำหรับต้นทุนการผลิตเฉพาะค่าวัตถุดิบและการผลิตประมาณ 130 บาท/ตัว ส่วนงบประมาณโครงการที่เหลือเป็นค่าวิจัยและพัฒนาของนักวิชาการ โดยเอกชนจะรับหน้าที่ผลิตและจัดจำหน่าย หากเป็นที่นิยมจะขยายโครงการออกสู่ตลาดเต็มที่ในเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า (2552) ภายใต้ตราสินค้า “NANOVA”
“ม่อฮ่อมนาโน ที่ สนช. และบริษัท นาโนโพลิส จำกัด พัฒนาขึ้นมานี้ เดิมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้เปียกน้ำเลย ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีนั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ถ้าจะให้เสื้อไม่เปียกเลยคงเป็นเรื่องที่ทำให้คนเล่นน้ำขาดความรู้สึกบางอย่างไป จึงออกแบบเสื้อม่อฮ่อมที่ทำให้ผู้เล่นน้ำยังคงความรู้สึกเปียกอยู่ แต่จะทำให้เสื้อมีคุณสมบัติแห้งเร็ว เพื่อให้ผู้เล่นน้ำรู้สึกสบายตัว เสื้อไม่เปียกชื้น และยังเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นของดอกมะลิด้วย” ศุภชัย กล่าว
************************************
My Happy Mom มิติใหม่กางเกงเล
เริ่มต้นจากกางเกงเล แบรนด์ My Happy Mom จากผู้ประกอบการรายเล็กๆ อย่าง “หยาดพิรุณ นุตสถาปนา” เกิดจากไอเดียที่เห็นว่า กางเกงเลแบบเดิมๆ แม้ว่าจะใส่สบาย แต่ก็มีปัญหาไม่สะดวกที่จะใส่ไปนอกสถานที่ เพราะนอกจากรูปทรงที่หลวมโพรกแล้ว การสวมโดยอาศัยการมัดปม อาจเกิดเหตุสุดวิสัยหลุดได้
ดังนั้น ได้ประยุกต์กางเกงเลแบบใหม่ให้สามารถสวมใส่ได้กระชับเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ดีไซน์คล้ายกับกางเกงขาสั้น หรือกางเกง 3 ส่วน โดยใช้เชือดผูกเอว เพื่อให้สวมใส่มั่นคงยิ่งขึ้น แถมยังใส่สบายเช่นเดิม อีกทั้ง เสริมให้มีกระเป๋ากางเกงด้วย
ทั้งนี้ เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บมีทั้งผ้าฝ้ายสีพื้น ลายดอก รวมถึง ใช้ผ้าถุงลายไทยเสริมความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับแบบของกางกางเล My Happy Mom มีทั้งหมด 5 แบบ ใช้พันธุ์ดอกไม้ต่างๆ เป็นชื่อเรียกแทน ได้แก่ เล็บมือนาง ลีลาวดี ดอกแก้ว บานชื่น และต้อยติ่ง เหตุผลเพราะรักดอกไม้ และช่วยให้จดจำได้ง่าย อีกทั้ง กระตุ้นความสนใจจากลูกค้า
หยาดพิรุณ เล่าว่า จุดเด่นของ My Happy Mom คือ เป็นงานแฮนด์เมด ฝีมือตัดเย็บละเอียดเรียบร้อย รับทำตามจำนวนสั่งซื้อ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสตรีตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน ขายในราคาตัวละ 169 - 199 บาท โดยช่วงเทศกาลอย่างปีใหม่ และสงกรานต์ จะขายดีเป็นพิเศษ ยอดเพิ่ม 2-3 เท่าตัว ลูกค้านิยมซื้อไปเป็นของฝากของขวัญ หรือซื้อไปสวมใส่เอง เวลาไปเที่ยวชายทะเล หรือใส่เล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษไว้รองรับ อย่างสงกรานต์ปีนี้ ลดราคาทุกแบบ 10% เป็นต้น
ด้านการตลาดกับจุดเริ่มต้นธุรกิจของ My Happy Mom ก็น่าสนใจเช่นกัน เจ้าของธุรกิจ เล่าถึงแรงบันดาลใจ เกิดจากอยากให้คุณแม่ ซึ่งอายุมากแล้วได้ใช้เวลาว่างทำงานเล็กๆ น้อยๆ แก้เบื่อ และเนื่องจากคุณแม่เคยเป็นช่างเย็บเสื้อมาก่อน จึงช่วยกันออกแบบและตัดเย็บเริ่มต้นจากชุดนอนดีไซน์เก๋ๆ ก่อนพัฒนาเป็นสินค้าอื่นๆ เช่น กางเกงเล กระเป๋าผ้า เป็นต้น ขายผ่านเว็บไซต์ www.myhappymom.com และจัดส่งตามไปรษณีย์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ง่าย และประหยัด เหมาะสมกับธุรกิจเล็กๆอย่างนี้
หยาดพิรุณ เล่าต่อว่า หลังขายผ่านอินเตอร์เน็ตไม่นาน ลูกค้ารู้จักมากขึ้น เกิดกระแสบอกปากต่อปาก มียอดสั่งสินค้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามเทศกาลต่างๆ จะมากเป็นพิเศษ จากเดิมหวังแค่ให้คุณแม่ทำเป็นงานอดิเรก แต่ทุกวันนี้ ยอดสั่งล้นจนบางครั้งเกิดปัญหาทำไม่ทัน ดังนั้น หากแนวโน้มยังดีเช่นนี้ ในอนาคตอาจพัฒนาเป็นธุรกิจอย่างจริงจังยิ่งขึ้น เพื่อขยายกำลังผลิตต่อไป
************************************
Glitter-Tattoo บอดี้เพนท์ ท้าสาดน้ำ
อีกธุรกิจที่จับกระแสวันสงกรานต์ คือ Glitter-Tattoo ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ทำบอดี้เพนท์ ติดตามเรือนร่าง โดยมีจุดเด่นสำคัญ ติดทนนาน โดนน้ำไม่ลอก เอาใจกลุ่มวัยรุ่นประดับร่างกายเป็นแฟชั่นเก๋ๆ อวดโชว์เวลาเล่นน้ำสงกรานต์
ชุลีวรรณ อัสววิทูรทิพย์ ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอเอ็นพี กรุ๊ป เผยว่า Glitter-Tattoo เป็นเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เอาใจกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบศิลปะตามร่างกายแต่ไม่ต้องการจะสักถาวร หันมาเลือกใช้รอยสักแบบติดชั่วคราว หรือศิลปะบอดี้เพนท์แทน อย่างไรก็ตาม ของเดิมๆ ที่ขายตามท้องตลาดมีปัญหาบางคนใช้แล้วเกิดอาการแพ้ อีกทั้ง เมื่อถูกน้ำก็จะหลุดลอก ต่างกับ Glitter-Tattoo ซึ่งมาอุดปัญหาดังกล่าวทั้งหมด เพราะกาวที่ใช้ติดกับผิว เป็นกาวคอสเมติกที่ใช้กับเครื่องสำอาง ตัดปัญหาเกิดอาการแพ้ไปได้ รวมถึง เป็นกาวชนิดพิเศษติดทนนานกว่า 3-14 วัน โดนน้ำไม่ลอก และจุดเด่นอีกประการ คือ ผงสีที่ติดลงไปจะเป็นประกายแวววาว และเรืองแสงในเวลากลางคืนด้วย
สำหรับ Glitter-Tattoo จะเป็นชุดอุปกรณ์สำเร็จรูปในตัว มีลวดลายให้เลือกนับ 1,000 แบบ ภายในชุดประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สติกเกอร์ กาว ผงกากเพชรสี และน้ำยาล้าง เป็นต้น ให้บริการในราคาครั้งละ 79 และ 89 บาท กระบวนการติดทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาแค่ 3 นาที โดยลอกสติกเกอร์ใสออกมาพร้อมกับแบบ แล้วนำไปติดตามจุดที่ต้องการ ทากาวบริเวณช่องแบบให้ทั่ว ลอกแบบออกแล้วลงผงสีตามต้องการ นำแปลงใหญ่มากดผงให้แน่น ปัดทำความสะอาดรอบๆ รอกาวแห้งเป็นอันเสร็จสมบูรณ์
ชุลีวรรณ อธิบายต่อว่า จากจุดเด่นโดนน้ำไม่ลอก จึงใช้เป็นโอกาสเชื่อมกับกระแสวันสงกรานต์ เน้นประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซื้อหาไปติดตามร่างกาย เพื่อเป็นแฟชั่นเวลาเล่นน้ำ รวมถึง หาลูกค้ากลุ่มบริษัท หรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการในเทศกาลนี้ นำโลโก้หรือแบรนด์ตัวเองมาออกแบบเป็นการเฉพาะ เพื่อติดตามเรือนร่างพนักงานเวลาลงพื้นที่ เป็นต้น
สำหรับช่องทางตลาดจะผ่าน www.glitter-tattoo.com และกำลังหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งสนใจนำไปทำเป็นธุรกิจเสริมให้บริการตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนช่วงสงกรานต์ปีนี้ จะเน้นทำตลาดตามแหล่งเล่นสงกรานต์ยอดฮิต เช่น ถนนข้าวสาร เมืองพัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น
***************************************
“ม่อฮ่อมนาโน” นวัตกรรมใหม่ใส่รับสงกรานต์
ปัจจุบัน การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า กำลังเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายพยายามผลักดัน เพื่อจะให้สินค้าไทยมีศักยภาพสามารถแข่งขันต่างชาติได้
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ผู้มีหน้าที่ผลักดันการสร้างนวัตกรรม ได้ใช้โอกาสวันสงกรานต์มาเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะด้านแฟชั่นสิ่งทอไทยตื่นตัวจะพัฒนาสินค้าให้มีคุณลักษณะพิเศษ โดยจัดทำ “ม่อฮ่อมนาโม”
ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสนช. เผยว่า “ม่อฮ่อมนาโน” มีคุณสมบัติพิเศษ 3 ประการ ได้แก่ 1.เคลือบอนุภาคนาโนพอลิเมอร์เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของผ้าให้ดูดซับน้ำได้ลดลง ทำให้ผ้าแห้งเร็ว ภายในเวลาประมาณแค่ 10-20 นาที หรือเร็วกว่าผ้าทั่วไป 2-3 เท่าตัว 2. ใช้เทคโนโลยีไมโครแคปซูล เพื่อกักเก็บน้ำมันหอมระเหยของมะลิเอาไว้ จากนั้นกลิ่นจะค่อยๆ ปล่อยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของมะลิออกมา มีอายุอยู่ได้นานประมาณการซัก 20 ครั้ง และ 3. เคลือบนาโนซิลเวอร์เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
สำหรับการพัฒนานวัตกรรมนี้ สนช. ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 250,000 บาท ดำเนินการร่วมกับเอกชน คือ บริษัท นาโนโพลิส จำกัด ร่วมถึงด้านวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ผลิตนำร่องออกสู่ตลาด ในเทศกาลสงกรานต์นี้ จำนวน 1,000 ตัว ราคาขายปลีกตัวละ 249 บาทเท่านั้น
สำหรับต้นทุนการผลิตเฉพาะค่าวัตถุดิบและการผลิตประมาณ 130 บาท/ตัว ส่วนงบประมาณโครงการที่เหลือเป็นค่าวิจัยและพัฒนาของนักวิชาการ โดยเอกชนจะรับหน้าที่ผลิตและจัดจำหน่าย หากเป็นที่นิยมจะขยายโครงการออกสู่ตลาดเต็มที่ในเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า (2552) ภายใต้ตราสินค้า “NANOVA”
“ม่อฮ่อมนาโน ที่ สนช. และบริษัท นาโนโพลิส จำกัด พัฒนาขึ้นมานี้ เดิมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้เปียกน้ำเลย ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีนั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ถ้าจะให้เสื้อไม่เปียกเลยคงเป็นเรื่องที่ทำให้คนเล่นน้ำขาดความรู้สึกบางอย่างไป จึงออกแบบเสื้อม่อฮ่อมที่ทำให้ผู้เล่นน้ำยังคงความรู้สึกเปียกอยู่ แต่จะทำให้เสื้อมีคุณสมบัติแห้งเร็ว เพื่อให้ผู้เล่นน้ำรู้สึกสบายตัว เสื้อไม่เปียกชื้น และยังเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นของดอกมะลิด้วย” ศุภชัย กล่าว