อุณหภูมิที่ร้อนระอุในช่วงเดือนเมษายน ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นทุกปี อาหารและเครื่องดื่มช่วยดับร้อนในช่วงเดือนเมษายน คงไม่พ้นไอศกรีมเย็น และสำหรับคนรักษ์สุขภาพปัจจุบันมีไอศกรีมเพื่อสุขภาพอย่างไอศกรีมโยเกิร์ต เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้สาวที่ห่วงใยเรื่องรูปร่างได้ทานไอศกรีมในเพื่อดับร้อนกันแบบไม่ต้องกลัวเรื่องไขมันส่วนเกิน
สำหรับไอศกรีมโยเกิร์ตจัดเป็นไอศกรีมประเภท soft serve ที่ต้องกดไอศกรีมออกมาจากเครื่อง ซึ่งไอศกรีมในกลุ่ม soft serve เมืองไทยไม่ค่อยแพร่หลายเหมือนกับกับไอศกรีมประเภท hard serve หรือไอศกรีมตักที่สามารถหาซื้อทานได้ทั่วไป ส่วนจุดขายของไอศกรีมโยเกิร์ตอยู่ที่ส่วนผสมของโยเกิร์ตที่เป็นส่วนผสมหลักในไอศกรีม ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เพราะด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพของโยเกิร์ต ส่งผลให้ไอศกรีมโยเกิร์ตได้รับความนิยมไปด้วยเช่นกัน
ส่วนตลาดไอศกรีมโยเกิร์ตในประเทศไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะมีผู้ผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตออกจำหน่ายทั้งที่เป็นแบรนด์ในประเทศและแบรนด์จากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีเปิดตัวให้เห็นกันได้ทั่วไปในย่านธุรกิจ และสำหรับไอศกรีมโยเกิร์ตแบรนด์คนไทยที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ก็คงจะเป็นแบรนด์ i-frezh ที่มี ธารทิพย์ ศุขสายชล เจ้าของที่พลิกผันตัวเอง จากการทำงานให้กับบริษัทชื่อดังด้านการส่งออกมาทำกิจการของตนเอง โดยเลือกทำไอศกรีมโยเกิร์ตด้วยเหตุผล เพราะเป็นธุรกิจอาหารที่ยังมีช่องว่าง เนื่องจากยังถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับตลาดเมืองไทย
ธารทิพย์ เล่าว่า ได้เริ่มเปิดตัวไอศกรีมโยเกิร์ต i-frezh เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการออกงานแสดงสินค้า พร้อมกับเปิดตัวแฟรนไชส์ของ i-frezh ในงานซึ่งมีผู้ให้ความสนใจค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีผู้สนใจและซื้อแฟรนไชส์ พร้อมที่จะเปิดให้บริการจำนวน 10 สาขา และที่เลือกขยายสาขาในรูปของแฟรนไชส์ เพราะเล็งเห็นว่าตลาดยังมีช่องว่างอีกมากสำหรับตัวไอศกรีมโยเกิร์ต จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ และที่สำคัญเราต้องการจะทำหน้าที่ในการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อซัพพร็อตเรื่องการตลาดและต้องการจะทุ่มเทเวลาไปกับการสร้างแบรนด์i-frezh ให้แข็งแรง
สำหรับลักษณะของไอศกรีมโยเกิร์ต เป็นไอศกรีมที่มีส่วนผสมของโยเกิร์ตสูตรไร้ไขมัน โดยการนำเข้าผงโยเกิร์ตจากประเทศอิตาลี และมีส่วนผสมของนมสด มีการตกแต่งหน้าด้วยผลไม้สดและอื่นๆ และผลไม้ตามฤดูกาล สูตรในการทำไอศกรีมเป็นสูตรที่ได้ศึกษามาจากผู้เชี่ยวชาญในการทำไอศกรีมโยเกิร์ตในประเทศอิตาลี ซึ่งได้ทำการซื้อสูตรมาและนำมาปรับบางส่วนให้เหมาะสมกับรสชาติที่คนไทยชื่นชอบ
ในส่วนกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักษ์ห่วงใยในสุขภาพ ปัจจุบันร้านต้นแบบอยู่ที่สีลม ลักษณะ Shop in Shop ขายคนทำงานในย่านนั้น ราคาใกล้เคียงกับไอศกรีมพรีเมียม ราคาถ้วยละ 36 บาท ไปจนถึง 49 บาท แผนการขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าขยาย 30-50 สาขา ทั่วประเทศในรูปของแฟรนไชส์ และในปีนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างประเทศเวียดนาม ที่เมืองโฮจิมิน และฮานอย และประเทศพม่า ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำข้อตกลง
รูปแบบของร้านสาขาแฟรนไชส์ มี 4 แบบให้ลูกค้าได้เลือกได้แก่ Shop in Shop รูปแบบร้านขนาดเล็กที่สามารถเปิดให้บริการได้ในร้านค้าอื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ร้านกาแฟ Stand Alone Shop รูปแบบนี้จะต้องใช้พื้นที่ตั้งแต่ 10 ตารางเมตร จนถึง 50 ตารางเมตร มีไอศกรีม เบเกอรี่ กาแฟ และการให้บริการอินเตอร์เน็ต Kiosk ร้านขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่ 4-6 ตารางเมตร เพื่อวางอุปกรณ์ และรูปแบบสุดท้ายเป็นรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ
ส่วนราคาค่าแฟรนไชส์ เริ่มต้น 300,000 บาท ไปจนถึง 650,000 บาท ผลิตภัณฑ์ที่ทางลูกค้าต้องซื้อจาก i-frezh เท่านั้น มีวัตถุดิบ 3 ตัวหลัก หรือ ผงโยเกิร์ต นมสด และถ้วย เพราะต้องใช้ถ้วยที่มีตรายี่ห้อของ i-frezh เท่านั้น ระยะเวลาในการคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเล ค่าเช่าสถานที่ และจำนวนลูกค้า ส่วนผลตอบแทนขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้วย โดยแบ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบไม่รวมค่าเช่าค่าบริหารจัดการประมาณ 40% รวมค่าบริหารจัดการอยู่ที่ประมาณ 60-70% เหลือผลตอบแทนกำไรประมาณ 30-40%
ตารางธุรกิจ i-frezh |
ประเภทของค่าใช้จ่าย (หน่วย =บาท) |
- ค่าธรรมเนียมปีละ = 40,000 - ค่ามัดจำการจัดส่งวัตถุดิบ =25,000 - เครื่องผลิตไอศกรีม มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ แบบที่1.ผลิตในประเทศ = 135,000 แบบที่2.ผลิตในประเทศ = 235,000 แบบที่ 3.นำเข้าจากอเมริกา =485,000 - อุปกรณ์ตู้แช่ = 35,000 - เครื่องบันทึกเงินสด = 5,000 - วัตถุดิบเริ่มต้น = 20,000 - ค่าตกแต่ง ป้าย สติกเกอร์ ฯ =10,000 |
โทร.081-855-4308 , www.i-frezh.com