กรมส่งเสริมการส่งออก ชี้แนวโน้มตลาดส่งออกสินค้าแฟชั่นเครื่องนุ่งห่มปี 51 กระเตื้องขึ้น มั่นใจโอลิมปิกจีน กระตุ้นยอดส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยได้มาก คาดมูลค่าสั่งซื้อเสื้อผ้ากีฬาขยายตัวทุกตลาดประมาณ 60% เล็งจัดโครงการสร้างนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลกรองรับตลาดขยายตัว
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดส่งออกสินค้าแฟชั่นเครื่องนุ่งห่มในปี 2551 มีแนวโน้มดีขึ้นจากปี 2550 โดยเมื่อเทียบช่วงเดือนแรกของปีนี้ พบว่า มียอดส่งออกแล้ว 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.11 จากเดือนแรกของปีก่อน ประกอบกับปีนี้จะมีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะส่งผลดีต่อไทย เนื่องจากเป็นฐานการผลิตสินค้าเสื้อกีฬาเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อเสื้อผ้ากีฬาในตลาดโลกจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาด โดยตลาดหลักยังเป็นสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนรวมกันร้อยละ 60 ของตลาดโลก ส่วนตลาดใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวสูง คือ ฮ่องกง และฟินด์แลนด์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 58 และร้อยละ 260 ตามลำดับ
สำหรับการเตรียมพร้อมของกรมส่งเสริมการส่งออก ได้จัดโครงการสร้างนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก หรือดีไซเนอร์รูม ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะการออกแบบใน 4 ระดับ ทั้งระดับหน้าใหม่ ระดับที่มีประสบการณ์แล้ว 5 ปี ระดับมืออาชีพที่มีแบรนด์ และระดับเครือข่ายผู้ให้บริการ คาดว่าจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมได้ถึง 100 ราย จากนั้นจะนำนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพด้านการส่งออกไปจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศช่วงเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดส่งออกสินค้าแฟชั่นเครื่องนุ่งห่มในปี 2551 มีแนวโน้มดีขึ้นจากปี 2550 โดยเมื่อเทียบช่วงเดือนแรกของปีนี้ พบว่า มียอดส่งออกแล้ว 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.11 จากเดือนแรกของปีก่อน ประกอบกับปีนี้จะมีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะส่งผลดีต่อไทย เนื่องจากเป็นฐานการผลิตสินค้าเสื้อกีฬาเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อเสื้อผ้ากีฬาในตลาดโลกจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาด โดยตลาดหลักยังเป็นสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนรวมกันร้อยละ 60 ของตลาดโลก ส่วนตลาดใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวสูง คือ ฮ่องกง และฟินด์แลนด์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 58 และร้อยละ 260 ตามลำดับ
สำหรับการเตรียมพร้อมของกรมส่งเสริมการส่งออก ได้จัดโครงการสร้างนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก หรือดีไซเนอร์รูม ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะการออกแบบใน 4 ระดับ ทั้งระดับหน้าใหม่ ระดับที่มีประสบการณ์แล้ว 5 ปี ระดับมืออาชีพที่มีแบรนด์ และระดับเครือข่ายผู้ให้บริการ คาดว่าจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมได้ถึง 100 ราย จากนั้นจะนำนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพด้านการส่งออกไปจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศช่วงเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย
