น้ำพริกอาหารพื้นเมืองติดสำรับกับข้าวในทุกภาคของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการปรุงน้ำพริกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้แก่แม่ๆ เจ้าของสูตรน้ำพริกทั้งหลายมาแล้ว เพราะผลตอบแทนจากกำไรมากกว่า 50% ทำให้มีสูตรน้ำพริกในท้องตลาดเกิดขึ้นมากมาย ทั้งรายเล็ก อย่างโอทอป และรายใหญ่ที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การครอบครองตลาดน้ำพริกของผู้ผลิตรายใหญ่ ทำให้การแจ้งเกิดของน้ำพริกหน้าใหม่ เป็นไปได้ยาก ถ้าไม่มีอะไรโดดเด่น และสำหรับน้ำพริก "รุ่งเจริญ" ชื่อที่ยังไม่คุ้นหูมากนัก จะเป็นที่รู้จักเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น และเพื่อให้น้ำพริกเจ้านี้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น นายธนาวัฒน์ โพธิ์เผื่อนน้อย ทายาทเจ้าของสูตรน้ำพริกรุ่งเจริญ ได้คิดรูปแบบของบรรจุภัณฑ์น้ำพริกขึ้นมาใหม่ด้วยถ้วยขนาดเล็กที่สามารถรับประทานได้ครั้งเดียวหมด เป็นการปฏิวัติวงการ
นายธนาวัฒน์ เล่าว่า น้ำพริกรุ่งเจริญได้เปิดขายมานานกว่า 20 ปี โดยเริ่มต้นจากการตักใส่ถุงขาย ตามตลาดสด ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาเริ่มพัฒนามาใส่กระปุกจำหน่าย เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้า และได้กลุ่มลูกค้าที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิม แต่การแข่งขันในตลาดของน้ำพริกรุนแรงมากขึ้น จะขายเฉพาะในตลาดสดไม่เพียงพอ เพราะเริ่มมีหลายคนทำน้ำพริกขายมากขึ้นทำให้ถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดออกไป
“หลังจากที่ผมและพี่น้องได้เข้ามารับหน้าที่ดูแลทำน้ำพริกรุ่งเจริญต่อจาก พ่อและแม่ ได้วางแผนที่จะขยายตลาดน้ำพริกให้กว้างขึ้น และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยได้มีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่าลูกค้าที่ซื้อน้ำพริกรับประทานส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มแม่บ้านที่ค่อนข้างจะสูงอายุ แต่คนรุ่นใหม่จะมองว่าการทานหรือซื้อน้ำพริกเป็นเรื่องล้า"
ด้วยเหตุนี้เอง เป็นเหตุผลว่าจะทำอย่างไรให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากหันมามองว่าการซื้อ หรือทานน้ำพริกไม่ใช่เรื่องล่าสมัย และไม่ต้องซื้อน้ำพริกเป็นถุง หรือ กระปุกขนาดใหญ่ และสามารถพกพาไปทานได้ทุกที่อย่างสะดวกสบายและไม่ต้องอายใครเหมือนกับการพกกระปุกน้ำพริกขนาดใหญ่ และก่อนจะออกมาเป็นน้ำพริกในบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ได้มีการทดลองออกแบบบรรจุภัณฑ์อยู่หลายรูปแบบจนมาลงตัวในรูปแบบปัจจุบัน
จุดเด่นของน้ำพริกรุ่งเจริญในรูปแบบใหม่ อยู่ที่ขนาดเล็กกะทัดรัด และมีความทันสมัย เนื่องจากมีลักษณะเช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์ที่ใส่น้ำซอส หรือ น้ำจิ้มในร้านฟาสต์ฟู้ดตามศูนย์การค้า ซึ่งแนวคิดของบรรจุภัณฑ์น้ำพริกรุ่งเจริญในครั้งนี้มาจากอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่วัยรุ่นนิยมซื้อทาน ทำให้น้ำพริกรุ่งเจริญดูดี มีรสนิยม และดูทันสมัยขึ้นมาทันที และที่สำคัญลูกค้าสามารถเลือกซื้อและรับประทานน้ำพริกที่หลากหลายรสชาติได้
นายธนาวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากได้เริ่มออกน้ำพริกรุ่งเจริญในบรรจุภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมากทั้งในกลุ่มแม่บ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดิม และได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่แนวทางการขยายช่องทางการขายที่ เรา สามคนพี่น้องว่างไว้ คือ ต้องการเพิ่มช่องทางการขายเข้าไปในแหล่งช้อปปิ้งของคนรุ่นใหม่อย่างศูนย์การค้า ก็สามารถทำได้ ทั้งที่น้ำพริกรุ่งเจริญไม่ใช่น้ำพริกแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง เพราะความน่าสนใจและความแปลกใหม่ของบรรจุภัณฑ์บวกกับความโดดเด่นของรสชาติ ที่ไม่แพ้แบรนด์ดังในท้องตลาด
โดยการเข้าศูนย์การค้าในครั้งนี้ ทางน้ำพริกรุ่งเจริญไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และยังได้รับความสนใจจากสื่อเข้ามาสัมภาษณ์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่นเดียวกัน เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าแนวคิดที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สามารถผลักดันให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมาก
สำหรับแผนการตลาดที่บริษัทวางไว้ คือ การกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยการหาตัวแทนจำหน่ายจังหวัดละ 1 แห่ง และอยู่ระหว่างการเจรจากับศูนย์การค้าและร้านสะดวกซื้อ เพื่อนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย และนอกจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป ทางน้ำพริกรุ่งเจริญก็ยังได้ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อนำไปทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง หรือใส่ในถังสังฆทาน และกลุ่มผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ หรือออกเดินป่า
โทร.0-2315-1296
