xs
xsm
sm
md
lg

‘แด๊ดดี้ โด’ โดนัทไทย กล้าชนแบรนด์เนม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อกล่าวถึงร้าน “โดนัท” แบรนด์ดังในประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันมีเจ้าตลาดอยู่เพียง 2 รายเท่านั้น และทั้งคู่ล้วนเป็นของต่างชาติ แต่ล่าสุดได้เกิดโดนัทพันธุ์ไทยแท้ ในชื่อ “แด๊ดดี้ โด” (DADDY DOUGH) เสนอตัวเป็นทางเลือกที่สามแก่ผู้บริโภค โดยไม่หวั่นจะต้องชนกับยักษ์ใหญ่

**แจ้งเกิด “แด๊ดดี้ โด” โดนัทแบรนด์ไทย

ปีเตอร์ ทวีผลเจริญ หนุ่มวัย 25 ปี เจ้าของธุรกิจ เล่าว่า “แด๊ดดี้ โด” มีความหมาย คือ “แป้งของพ่อ” สื่อถึงที่มาธุรกิจเกิดจากพ่อของเขา เคยเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ อยู่ที่ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 ซึ่งหนึ่งในเมนูเด็ดประจำร้าน คือ โดนัททำจากแป้งสูตรลับเฉพาะ

กระทั่ง ครอบครัวย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย แล้วเปิดร้านอาหารและเบเกอรี่อยู่ย่านถนนสีสม เมื่อถึงรุ่นเขา หลังจบการศึกษาการโรงแรม มหาวิทยาลัยฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ จึงอยากนำสูตรแป้งโดนัทของพ่อกลับมาให้ลูกค้าลิ้มลองอีกครั้ง ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค

“ช่วงที่ผมเรียนอยู่อเมริกาก็รู้ว่า โดนัทเป็นอาหารที่ขายดีมาก และก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 ปี หน้าร้านอาหารของพ่อ ก็มีโดนัทใส่ตู้ไว้ขาย ซึ่งลูกค้าตอบรับดีมาก ทำให้ผมเห็นโอกาสว่า ในประเทศไทยมีเจ้าหลักแค่ 2 รายเท่านั้น ทั้งที่หลักการตลาดอันสมดุลควรมี 3 ราย เมื่อประกอบกับยอดขายโดนัทที่ร้านพ่อ ก็มั่นใจว่า คนไทยพร้อมจะเปิดโอกาสให้แบรนด์ใหม่ๆ อยู่แล้ว ขอเพียงให้มีตัวเลือกคุณภาพดีเท่านั้น” ปีเตอร์ อธิบายเสริม

**ชูแตกต่างจากแป้งสูตรลับเฉพาะ

เมื่อจะเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ปีเตอร์ ระบุว่า จำเป็นต้องมีเอกลักษณ์ต่างออกไป ซึ่ง “แด๊ดดี้ โด” ชูจุดเด่นเนื้อแป้งนุ่ม เมื่อกัดลงไปแล้วเหมือนแป้งจะละลายในปากทันที กินแล้วไม่รู้สึกจุกท้อง ความรู้สึกนี้ หาไม่ได้จากเจ้าอื่นๆ เคล็ดลับมาจากแป้งสูตรลับเฉพาะ กับเครื่องทอดทันสมัยนำเข้าจากประเทศเยอรมนี ขณะที่โดนัทมีให้เลือกกว่า 40 ชนิด การเคลือบหน้าเน้นมีความเยิ้ม กลิ่นหอมกรุ่น และสดใหม่ ทำวันต่อวัน

ด้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็แตกอย่างชัดเจน แบรนด์เจ้าตลาดจะเน้นวัยรุ่น ส่วน “แด๊ดดี้ โด” เน้นหญิงวัยทำงาน ที่ชอบกินขนม แต่ก็ให้ความสำคัญกับโภชนาการ ตามด้วยกลุ่มครอบครัว โดยมีโดนัทหน้าต่างๆ รับรองความชอบของสมาชิกทุกคนในครอบครัว

ทั้งนี้ “แด๊ดดี้ โด” ขายชิ้นละ 19 บาท ซึ่งราคาไม่ได้แตกต่างกับเจ้าดังมากนัก ปีเตอร์ อธิบายเหตุผลว่า ถึงจะเป็นแบรนด์ไทย แต่ไม่คิดจะใช้กลยุทธ์ขายตัดราคา เพราะอยากให้ลูกค้าเลือกที่คุณภาพสินค้า และมั่นใจว่าถ้าลูกค้าได้ทดลองชิมสักครั้ง จะยอมรับราคานี้ได้

**ประกาศบุกตลาดเต็มรูปแบบ

ปีเตอร์ เผยแผนการตลาดว่า เริ่มเปิดสาขาแรกที่ถนนสีลม ข้างโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เมื่อประมาณกลางปี 2550ด้วยเงินลงทุนกว่า 8 ล้านบาท ตามด้วยสาขาเมืองพัทยา และตลาดบองมาเช่ นอกจากนั้น ก่อนสิ้นปีนี้ จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา คือ ถ.นราธิวาสฯ ติด BTS ช่องนนทรี และชั้น G ห้างสยามพารากอน ทั้งหมดจะแต่งร้านสไตล์สุขุม อบอุ่น และบางสาขาจะมีครัวเปิดเพิ่มความน่าสนใจ

ส่วนแผนปีหน้า (2551) เตรียมจะเปิดเพิ่มเองในย่านธุรกิจอีก 5-6 สาขา รวมถึง กลางปีหน้าจะขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ ทั้งแบบชอปขนาดใหญ่และเล็ก ขณะนี้ เตรียมพร้อมโดยใช้ร้านสาขาต่างๆ เรียนรู้ปัญหา เพื่อวางระบบแฟรนไชส์ให้สมบูรณ์ต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานของร้านนับจากเปิดมา แต่ละสาขามียอดขายขั้นต่ำที่ 30,000 ลูกต่อเดือน และมีแนวโน้มขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ สม่ำเสมอ อีกทั้ง เริ่มมีการซื้อซ้ำจากลูกค้าเป้าหมาย

นักธุรกิจหนุ่ม เผยต่อว่า ปัจจุบัน ตลาดธุรกิจโดนัทในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งหมดแชร์กันแค่ผู้ผลิตสองรายใหญ่ ดังนั้น “แด๊ดดี้ โด” ตั้งเป้าว่า จะขอแชร์ตลาดมาให้ได้ 8-10% รวมถึงในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะขยายสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มมุสลิม ซึ่งมีอัตราการกินอาหารจำพวกแป้งสูง

แม้เวลานี้ สภาพเศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัว แต่ผู้ผลิตโดนัทแบรนด์ไทยรายนี้ กลับกล้าสวนกระแสเร่งขยายธุรกิจ ในฐานะผู้บริหาร ปีเตอร์ให้เหตุผลว่า โดนัทมีพื้นฐานเป็นธุรกิจอาหาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็น และโดนัทไม่ได้เป็นเพียงอาหารแฟชั่น แบบมาไวไปไว

ประการต่อมา ด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ช่วยให้เอสเอ็มอีรายเล็กๆ กลับมีศักยภาพต่อรองกับคู่ค้ารายใหญ่ได้มากขึ้นกว่าช่วงเศรษฐกิจบูม ไม่ว่าจะเป็นซื้อวัตถุดิบ และการเช่าทำเล เป็นต้น อีกทั้ง จากการเก็บข้อมูล และทดลองตลาดที่ผ่านมา มั่นใจระดับหนึ่งว่า ธุรกิจมีโอกาสเติบโต และสิ่งสำคัญที่สุด เชื่อว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ดังนั้น เมื่อมีความพร้อม จึงเลือกที่จะเร่งตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า ในจังหวะที่คนอื่นๆ ยังหยุดอยู่กับที่

************************

โทร.0-2635-0793-4 หรือwww.daddydough.com
กำลังโหลดความคิดเห็น